บทที่ 248 – การมาถึงของศัตรูที่น่ากลัว
บทที่ 248 – การมาถึงของศัตรูที่น่ากลัว
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
บนท้องฟ้าสีคราม มีประกายแสงนับสิบดวงทะยานผ่านท้องฟ้าจนเกิดเสียงหวีดหวิวอย่างรุนแรง จนมวลเมฆถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยราวกับเป็นปุยฝ้าย
ในเวลาไม่นาน ปรากฏภูเขาขนาดมหึมาสะท้อนอยู่ในแววตาของพวกเขา
“นายน้อย ดูสิ ภูเขาขนาดมหึมานี้คือเทือกเขาแดนเถื่อนตอนใต้ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือของดินแดนทางใต้ ว่ากันว่า ภูเขานี้อยู่โดดเดี่ยวจากโลกภายนอกและมีราชาปีศาจที่น่าสะพรึงกลัวมากมายอาศัยอยู่ภายในนั้น ข้าสงสัยนักว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่” หลิวเฟิ่งฉือชี้ไปที่แนวเทือกเขาที่อยู่ใต้เท้าขณะที่เขากล่าว
หวงฝู่ฉงหมิงไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้ สายตาของเขากวาดออกไปยังเมืองที่อยู่ตรงเชิงเขาและกล่าวว่า “ไอ้เจ้าเด็กบัดซบคนนั้นน่าจะซ่อนตัวอยู่ในเมืองนี้ ทว่าข้าสงสัยนัก มันหนีเอาตัวรอสามวันสามคืนติดต่อกัน เหตุใดมันไม่ถึงไม่หนีต่อไปอีก?”
“เราจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อเราเข้าไปในเมืองนั้น” หลิวเฟิ่งฉือกล่าว
หลังจากหวงฝู่ฉงหมิงหลังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงส่ายศรีษะและกล่าวว่า “ควรระวังไว้ดีกว่า เจ้าเด็กคนนี้ดูไม่ใช่คนโง่ และมันควรมีที่พึ่งในขณะที่ซ่อนตัวอยู่ในเมืองนี้ ดังนั้น เราต้องไม่ผิดผลาดในสิ่งที่เรามั่นใจ…”
“ฮืม?” ในขณะที่เขากำลังกล่าว หวงฝู่ฉงหมิงก็เงยหน้าขึ้นทันที และสายตาของเขาก็เหมือนสายฟ้าที่พุ่งตรงไปยังท้องฟ้าเหนือเมือง
เขาสังเกตุเห็นปราณกระบี่ที่ทรงพลังจำนวนนับไม่ถ้วน พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าขณะที่ตัดผ่านกันเหมือนสายรุ้ง จนเกิดเสียงคลื่นกระบี่ที่ดังก้องกังวาลมาจากที่ไกลออกไป
“ปราณกระบี่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าหรือ?”
“นั่นมันคือกระบี่ระดับปฐพีขั้นสูง! โอ๊ สวรรค์! แถมพวกมันยังมีตั้งหมื่นเล่มอีก!”
“เอ๊ะ หรือว่าเป็นเจ้าเฉินซี! ใช่แล้ว ต้องเป็นมันอย่างแน่นอน! วิชาเนตรกระจ่างที่ข้าฝึกฝนนั้น สามารถตรวจจับทุกสิ่งในระยะสองร้อยห้าสิบลี้ และข้าก็ไม่วันลืมไอเด็กคนนั้นได้ แม้ว่ามันร่างของมันจะกลายเป็นเถ้าถ่านก็ตาม!”
คนอื่น ๆ ก็สังเกตเห็นปรากฏการณ์ประหลาดในระยะไกลเช่นกัน และพวกเขาก็กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจและงุนงงทันที ยิ่งกว่านั้น หม่านหงเองก็ได้ฝึกฝนเคล็ดวิชาเต๋าที่เรียกว่า วิชาเนตรกระจ่าง และเขาสามารถมองเห็นร่องรอยของเฉินซีได้ด้วยการมองเพียงครั้งเดียว
“บัดซบ! กระบี่ระดับปฐพีขั้นสูงเหล่านี้ จะต้องถูกเจ้าเด็กคนนั้นขโมยไปจากขุมสมบัติเฉียนหยวนอย่างแน่นอน และมันยังกล้าเอาออกมาใช้อีก มันกำลังรนหาที่ตายอย่างแท้จริง!” ดวงตาของหวงฝู่ฉงหมิง ส่องประกายด้วยความโลภที่ร้อนแรง จากนั้นเขาก็ตะโกนด้วยเสียงอันหนักหน่วง “ไปกันเถอะ! เราจะยึดสมบัติที่มันครอบครองอยู่ แล้วฉีกมันออกเป็นพัน ๆ ชิ้น!”
สมบัติวิเศษระดับปฐพีขั้นสูงเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งล้ำค่า แม้ว่าจะเป็นนิกายต่างๆ ที่อยู่เบื้องหลังพวกเขาก็ตาม ถ้าพวกมันถูกซื้อขายในท้องตลาดก็จะมีมูลค่าที่น่าตกตะลึง และตราบใดที่มันปรากฏตัวขึ้น ก็จะทำให้ผู้คนต้องต่อสู้แย่งชิงกันอย่างบ้าคลั่ง เพื่อให้ได้มันมาครอบครอง
ในขณะนี้ เมื่อพวกเขาเห็นว่าเฉินซีได้ครอบครองสมบัติวิเศษระดับปฐพีขั้นสูงอยู่จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่แค่ดวงตาของหวงฝู่ฉงหมิงเท่านั้นที่เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโลภ แต่คนอื่น ๆ ก็เกิดความโลภจนไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้เช่นกัน
กระบี่ระดับปฐพีขั้นสูงนับพันเล่ม! จำนวนมันมหาศาลยิ่งนัก!
เจ้าเด็กนี้มันขโมยสมบัติจากขุมสมบัติไปกี่ชิ้นกันแน่? นอกจากนี้ยังมีสมบัติล้ำค่าเช่นใดอีกนอกจากกระบี่เหล่านี้?
เมื่อพวกเขาคิดมาถึงตรงนี้ ทุกคนต่างก็ไม่สามารถยับยั้งแรงกระตุ้นในใจได้อีกต่อไป ทำให้ความอ่อนล้าที่สั่งสมมาหลายวันหายไปจนหมดสิ้น และพวกเขาต่างก็เปี่ยมไปด้วยพลังขณะที่พุ่งเข้าหาเมืองที่อยู่อันไกลโพ้น
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
ในขณะนี้ พวกเขาต่างก็พุ่งทะยานด้วยพลังที่มีอย่างเต็มที่ หวงฝู่ฉงหมิงและคนอื่น ๆ ได้ปล่อยกลิ่นอายออกมาโดยไม่มีการยับยั้งเลยแม้แต่น้อย แรงกดดันของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง ได้แผ่ซ่านปกคลุมไปทั่วเมืองหมอกสน และทำให้ทั้งเมืองหมอกสนตกอยู่ในความตื่นตระหนกและวุ่นวายในทันที
นอกเหนือจาก เฉินซี, เฉินฮ่าว และเฟยเหลิ่งชุ่ย ฐานการบ่มเพาะระดับสูงสุดในเมืองหมอกสนทั้งหมดมีเพียงขอบเขตตำหนักอินทนิลเท่านั้น ดังนั้น เมื่อเผชิญหน้ากับกลิ่นอายของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง ซึ่งเหนือกว่าพวกเขาสองระดับ พวกเขาก็เหมือนกับหนูที่เผชิญหน้ากับแมว ทำให้พวกเขารู้สึกตื่นตระหนก หวาดกลัว และไม่สบายใจ
“พวกคนเหล่านี้คือใครกัน?”
“เหตุใดพวกเขาถึงมีกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้?”
เมื่อมองไปที่ลำแสงนับสิบสายที่ทะยานผ่านเหนือศีรษะ ทุกคนในเมืองหมอกสนรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัวและหอบหายใจแรง สิ่งนี่คือแรงกดดันที่เกิดจากความแตกต่างในการบ่มเพาะอย่างมาก และไม่สามารถต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย
แต่นับว่าโชคดี พวกคนเหล่านี้แค่ทะยานผ่านไปและไม่ได้สร้างปัญหาให้พวกเขา จึงทำให้ผู้บ่มเพาะของเมืองหมอกสนถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นความอยากรู้อยากเห็นก็ผุดขึ้นในหัวใจของทุกคน “ยอดฝีมือเหล่านี้มาที่เมืองหมอกสนเพื่อเหตุใดกัน?”
ผู้บ่มเพาะบางคนที่มีสายตาเฉียบแหลม ก็สังเกตเห็นได้ทันทีว่าปลายทางของยอดฝีมือรุ่นเยาว์เหล่านั้นคือตระกูลเฉินจริง ๆ !
ในเวลาไม่นาน ผู้บ่มเพาะทั้งหมดของเมืองหมอกสน ก็ทราบถึงข่าวนี้ และพวกเขาก็ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดขณะที่พวกเขามองไปที่ตระกูลเฉิน
แม้ว่าตระกูลเฉินจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่เพียงแค่ปีเดียว แต่ก็ไม่มีใครในเมืองหมอกสนกล้าดูถูก เนื่องจากเฉินฮ่าวซึ่งเป็นผู้นำตระกูลเฉิน และเฟยเหลิ่งชุ่ยผู้เป็นภรรยาของเขา คือศิษย์ชั้นยอดของนิกายกระบี่เมฆาพเนจรที่มีอำนาจอันดับหนึ่งในดินแดนทางใต้ และการบ่มเพาะของพวกเขานั้นก็ไม่มีใครเทียบได้ จึงทำให้เขาผงาดขึ้นมาครอบงำเมืองหมอกสนทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้น ประกอบกับพี่ชายของเขาซึ่งคือเฉินซี ได้สาบานพี่เป็นพี่น้องกับผู้อาวุโสระดับสูงของนิกายกระบี่เมฆาพเนจร อีกทั้งเฉินซีก็ยังฝีมือเก่งกล้าลึกล้ำ ด้วยความสามารถดังกล่าวนี้ เพียงพอที่จะบดขยี้ขุมพลังทั้งหมดของเมืองหมอกสนได้นับครั้งไม่ถ้วน
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ ผู้คนในเมืองถึงกับคิดว่าเมืองหมอกสนในอนาคตจะถูกปกครองโดยตระกูลเฉินอย่างแน่นอน!
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ มียอดฝีมือรุ่นเยาว์กว่าสิบคนที่มีใบหน้าอำมหิต กำลังทะยานผ่านท้องฟ้าและพุ่งตรงไปยังตระกูลเฉิน และฉากนี้ได้ดึงดูดความอยากรู้อยากเห็นอย่างไร้ขอบเขตจากหัวใจของผู้บ่มเพาะทุกคนในเมืองหมอกสนทันทีที่เห็นฉากนี้
ในเมื่อพวกเขากล้าโจมตีตระกูลเฉิน แล้วขุมพลังที่น่าสะพรึงกลัวเช่นไหนกันที่อยู่เบื้องหลังยอดฝีมือรุ่นเยาว์เหล่านี้?
——
ค่ายกลกระบี่มหาปราณนั้นคู่ควรกับการเป็นเต๋าสวรรค์ของค่ายกลใหญ่คุ้มสำนัก เมื่อหลายปีก่อนนั้น เจตนาฆ่าอันเข้มข้นและวิธีการสร้างค่ายกลที่ซับซ้อนนั้น เป็นสิ่งที่เฉินซีไม่เคยพบเห็นในชีวิตของเขามาก่อน
เป็นเพราะเหตุนี้ ทุกขั้นตอนที่เขาได้ทำลงไป ทำให้เข้ารู้สึกว่าเลือดลมในร่างกายบางส่วนถูกเผาผลาญไปจนหมดสิ้น ถ้าไม่ใช่เพราะจิตวิญญาณของเขาที่แข็งแกร่งมาก เขาคงไม่สามารถยืนหยัดได้จนถึงตอนนี้อย่างแน่นอน
แต่สิ่งที่ร้ายแรงที่สุดก็คือ หลังจากที่เขากินโอสถหยกเหลวนภาเม็ดที่สองเข้าไป ร่างกายที่เดิมทีบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้ว ก็ได้รับการบาดเจ็บสาหัสมากขึ้นอีกครั้ง ในขณะที่เขาวางค่ายกลอยู่นั้น ก็มีหลายครั้งที่เขาเกือบจะไม่สามารถระงับฤทธิ์ยาที่บ้าคลั่งภายในท้องทะเลแห่งลมปราณของเขาได้ ยิ่งไปกว่านั้น พลังชีวิตและเลือดของเขาก็ได้รับความทุกข์ทรมานจากปราณหักเห จนร่างแทบระเบิดจากการปะทุของลมปราณ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...