บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 260

บทที่ 260 ยันต์ศัสตรา

บทที่ 260 ยันต์ศัสตรา

“จริงสิ ผู้อาวุโสจี้อวี๋ ยันต์เทวะทั้งห้าประเภทซ่อนตัวอยู่ที่ใดในโลกแห่งดวงดารานี้หรือ?” เฉินซีพลันหายจากอาการตกใจ หลังจากพูดมากไปเช่นนั้นแล้ว เขาไม่เพียงไม่รู้วิธีขัดเกลากระบี่ ยันต์เทวะทั้งห้าอันน่าเหลือเชื่อพวกนั้นเขายังไม่เคยได้เห็นด้วยซ้ำ

ยันต์เทวะพฤกษาคราม ยันต์เทวะผสานธาตุ ยันต์เทวะผสานธาตุ ยันต์เทวะไฟโลกันต์ ยันต์เทวะคงคาทมิฬ และยันต์เทวะสยบปฐพี เพียงแค่ได้ยินชื่อของยันต์เทวะทั้งห้าประเภทนี้ก็ทำให้เขาเกิดความรู้สึกโหยหาอันลึกล้ำ ตอนนี้เฉินซีอยากเห็นพวกมันจนแทบทนไม่ไหว

จี้อวี๋ยิ้ม จากนั้นเขาก็ชี้ไปยังส่วนลึกที่อยู่ห่างออกไปไกลลิบของโลกแห่งดวงดารา ก่อนพูดว่า “เจ้าเชี่ยวชาญเต๋ารู้แจ้งแห่งธาตุทั้งห้าแล้วไม่ใช่หรือ? ลองใช้ใจสัมผัสสิ แล้วเจ้าจะรับรู้ได้ถึงพวกมันเอง”

เฉินซีพยักหน้าและหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นก็กลั้นหายใจทำสมาธิ แผ่จิตใจตนออกไปเชื่อมต่อกับเหล่าดวงดาราในจักรวาล มองหาผืนดาวนับไม่ถ้วนที่ลอยเด่นอยู่ไกล ๆ

ผ่านไปเท่าไรไม่อาจรู้ เฉินซีเหมือนจะสัมผัสได้ราง ๆ ว่าดวงดารา หมอกเพลิง และธารดาราในจักรวาลพลันหดเล็กลง กลายเป็นโลกรกร้างไร้เขตแดนแห่งหนึ่ง โลกแห่งนั้นมีสีเทาเหมือนขี้เถ้า ไม่มีพลังชีวิตอยู่แม้แต่น้อย และดูเหมือนจะเป็นแดนรกร้างที่เงียบสงบยิ่ง

ครืน!

เสียงฟ้าร้องดังขึ้นสะเทือนฟ้าดิน แสงสีฟ้าครามพลันพุ่งขึ้นมา ทะลุผ่านเมฆจากทิศตะวันออกของแดนรกร้าง พุ่งขึ้นสูงจนราวกับจะกินพื้นฟ้าทั้งหมดไป หลังจากนั้น พืชพันธุ์และดอกไม้ก็งอกเงยขึ้นจากพื้นดินแห่งแดนรกร้างอย่างรวดเร็ว มันเต็มไปด้วยชีวิตชีวา บุปผาทั้งหลายออกดอกผลิบาน สีเขียวสุดลูกหูลูกตาพลันแผ่กระจายไปตามพื้น พืชสีเขียวขจีแผ่พลังชีวิตหนาแน่นออกมา

แต่แล้วภาพสองภาพก็ปรากฏขึ้นบนฟ้าดินอย่างกะทันหัน คือภาพบุรุษและสตรีที่มองความสูงไม่ออก พวกเขายืนเด่นอยู่เช่นนั้น คนทั้งสองสวมชุดหรูหราสูงส่งและสวมมงกุฎจักรพรรดิ แสงศักดิ์สิทธิ์ดูคลุมเครือส่องสว่างเป็นสีฟ้าปกคลุมร่าง อักขระยันต์หลากหลายแปรเปลี่ยนเป็นเทพเทวาตัวน้อยนับไม่ถ้วน บินวนอยู่รอบกายทั้งสองคนด้วยท่วงท่าราวกับเคารพบูชา ทั้งเต้นรำและกล่าวสรรเสริญเทพสูงสุดสองตนนี้นัก

จักรพรรดิฟ้าคราม! เทพีพฤกษา!

บุรุษและสตรี ตรงพ้องกับหยินและหยาง จักรพรรดิทั้งสองยืนอย่างภาคภูมิในสวรรค์และโลก ทุกสิ่งในใต้หล้างอกเงยและเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ทำให้โลกที่ดูรกร้างว่างเปล่าถูกเปลี่ยนเป็นโลกใบใหม่อย่างสมบูรณ์

ในสายตาของเฉินซี ทั้งโลกนั้นดูเหมือนจะกลายเป็นยันต์ พืชและดอกไม้ที่เติบโตอย่างรวดเร็วเป็นเหมือนเส้นทางอักขระยันต์อันลึกล้ำจำนวนมาก ภายในมีแก่นหลากหลายของมหาเต๋าอยู่ ในอีกทางหนึ่ง ภาพของเทพท้องฟ้าและเทพีพฤกษาได้กลายเป็นแก่นแห่งยันต์ ถือเป็นคำสั่งแห่งโลกหล้า สูงส่งเหนือทุกสรรพสิ่งรอบทิศ และเพราะการมีอยู่ของทั้งคู่ ยันต์นี้จึงมีความพิเศษเหนือใคร

ยันต์เทวะพฤกษาคราม!

เส้นสายแห่งความเข้าใจพลันถือกำเนิดอยู่ภายในร่างเฉินซี ความนึกคิดที่กว้างใหญ่ดั่งมหาสมุทรพุ่งเข้าสู่จิตใจ

ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกราวกับจมอยู่ในทะเลลึก เกือบจะจมลงไปในยันต์ทั้งหลายที่อยู่ภายในจิตนึกคิดนั้นไปแล้ว

นี่คือวิธีสร้างยันต์เทวะพฤกษาคราม ทว่าจำนวนอักขระยันต์ที่อยู่ภายในนั้นมากราวกับท้องทะเลกว้างใหญ่ที่พุ่งเข้ามาในดวงจิต ส่งผลให้เฉินซีไม่อาจหยั่งรู้ได้ว่าภายในมีอักขระยันต์อยู่เท่าไรบ้าง

เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!

เฉินซียังไม่ทันหายใจได้ทัน ภาพตรงหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นสีทอง ภูเขา แม่น้ำ แผ่นดิน พืชพันธุ์… ทุกสิ่งในโลกนี้มีลมปราณที่เฉียบคมอย่างมาก เหมือนเช่นกระบี่คมกริบหรือปลายศรเย็นยะเยือก คมแหลมเป็นมุมอย่างดี ทำให้เฉินซีสัมผัสได้ถึงความแหลมคม

มีภาพเงาร่างทั้งสองอยู่ในโลกอันเฉียบคมและทอแสงสีทองนี้เช่นกัน ทั่วร่างของพวกเขาเปล่งแสงสีทองพุ่งขึ้นฟ้า เปล่งลมปราณน่ากลัวและเย็นเฉียบอย่างไม่มีสิ่งใดเทียบได้ออกมา เพียงสะบัดมือก็คล้ายกับจะสะบั้นโลกาเฉือนจักรวาลได้

กระบี่ ขวาน หอก และอาวุธแหลมคมทั้งหลายผุดขึ้นมารอบกายทั้งสองคน ราวกับว่ามันมีชีวิต และพากันโบยบินไปมา ขณะส่งเสียงร่ำร้องด้วยความยินดี

ทุกสิ่งในโลกแห่งนี้มีลมปราณเฉียบคม เต็มไปด้วยแก่นแท้เย็นยะเยียบและแข็งแกร่งของมหาเต๋า ส่วนภาพทั้งสองภาพก็คือต้นกำเนิดของพลังทั้งหมดนี้

ยันต์เทวะผสานธาตุ!

เมื่อเฉินซีรับรู้อย่างชัดเจนว่าสวรรค์และโลกนี้คือยันต์ ทุกสรรพสิ่งคืออักขระยันต์เทวะ จิตนึกคิดอันกว้างใหญ่ไพศาลก็พุ่งเข้ามาในใจของเขาอีกครั้ง

เห็นได้ชัดว่านี่คือวิธีสร้างยันต์เทวะผสานธาตุ

อึดใจต่อมา เฉินซีเห็นสามโลกที่ปกคลุมไปด้วยเปลวไฟ ดิน และน้ำ ซึ่งมีเปลวเพลิง ดิน และน้ำไหลเวียนอยู่ภายในตามลำดับ จากนั้นเขาก็ได้วิธีสร้างยันต์เทวะไฟโลกันต์ ยันต์เทวะสยบปฐพี และยันต์เทวะคงคาทมิฬมา

เช่นเดียวกันกับยันต์เทวะพฤกษาคราม อักขระยันต์ในการสร้างยันต์เทวะทั้งสี่ชนิดนั้นเหมือนดั่งมหาสมุทรกว้างใหญ่ ทั้งลึกล้ำ ซับซ้อน และมีอยู่นับไม่ถ้วน

ตามที่เขาคาดเดา หากเขาต้องการจะสร้างยันต์เทวะสักชิ้นหนึ่งให้เสร็จสิ้น ด้วยความสามารถของเขาในตอนนี้ มันจะเป็นเรื่องใหญ่นัก ใช้เวลาสามถึงห้าปีก็ยังไม่มีทางสำเร็จ

ทั้งนี้ยังเป็นเพียงการวาดอักขระของยันต์เทวะเท่านั้น หากต้องการสร้างมันให้เสร็จสมบูรณ์และผสานภาพทวยเทพนั่นเข้าไปด้วย ก็คงเป็นสิ่งที่เขายังไม่อาจทำให้เกิดขึ้นได้ในตอนนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]