บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 259

บทที่ 259 ยันต์เทวะคืออะไร

บทที่ 259 ยันต์เทวะคืออะไร

‘มรดกสืบทอดแท้จริงของผู้อาวุโสฝูซีแห่งเคหาบ่มเพาะซุกซ่อนอยู่ในโลกแห่งดาราอันกว้างใหญ่สุดสายตาแห่งนี้อย่างนั้นหรือ?’

ขณะที่เฉินซีเพ่งมองไปยังดวงดาวมากมายและทางช้างเผือก เฉินซีรู้สึกว่าไม่อาจประมวลภาพไว้ในใจของตัวเองได้ทั้งหมด เคราะห์ดีที่จี้อวี๋พูดขึ้นมาทำให้เขาผ่อนลมหายใจด้วยความโล่งอก ตราบใดที่มีจี้อวี๋คอยให้คำชี้แนะด้วยความเต็มใจ เขาจะได้รับการไขข้อข้องใจทั้งหมดออกไปอย่างง่ายดาย

“โลกแห่งดาราที่นายท่านของข้าทิ้งเอาไว้นั้นเป็นโลกแห่งยันต์ ประกอบด้วยยันต์เทวะที่น่าเหลือเชื่ออยู่มากมาย โดยทั่วไปมียันต์เทวะอยู่ห้าประเภท ก็คือยันต์เทวะพฤกษาคราม ยันต์เทวะผสานธาตุ ยันต์เทวะไฟโลกันต์ ยันต์เทวะคงคาทมิฬ และยันต์เทวะสยบปฐพี”

เวลานั้นดูเหมือนจี้อวี๋จะยอมรับแล้วว่าเฉินซีเป็นผู้สืบทอดของเจ้านายตน จากนั้นจึงหันมาถามเขาด้วยรอยยิ้ม “รู้หรือไม่ว่ายันต์เทวะคืออะไร”

เฉินซีมองอีกฝ่ายอย่างงงงันก่อนจะส่ายหน้าแทนคำตอบ

ความทรงจำของเขาบอกว่าเต๋าแห่งยันต์อักขระมีด้วยกันเก้าระดับ เมื่อใครก็ตามร่างเค้าโครงยันต์บนแผ่นกระดาษยันต์ขึ้นมาอย่างครบถ้วน จึงเรียกมันว่ายันต์ระดับหนึ่ง หากร่างเค้าโครงยันต์สองแบบได้อย่างครบถ้วนและประสานสอดคล้องกันเป็นอย่างดีเหมือนกับการหายใจเข้าออก จะเรียกว่ายันต์ระดับสอง จากนั้นจะดำเนินต่อไปเช่นนี้จนกระทั่งถึงยันต์ระดับเก้า

กล่าวง่าย ๆ ก็คือยันต์ระดับหนึ่งมีอักขระยันต์เพียงหนึ่งเดียว ระดับสองมีสองอักขระยันต์…และระดับเก้ามีทั้งหมดเก้าอักขระยันต์นั่นเอง

สิ้นสุดที่เลขเก้าซึ่งจะเกี่ยวข้องสอดคล้องกับสวรรค์ อะไรก็ตามที่เกิดผลจากการรวมกันของเลขเก้าจะช่วยเสริมส่งประสิทธิภาพให้พุ่งสูงขึ้นชนิดก้าวกระโดด ยันต์ระดับเก้า สองยันต์มาผสานรวมจะก่อร่างเป็นหนึ่งค่ายกลยันต์

กระดาษยันต์เพียงหนึ่งแผ่นบรรจุหนึ่งค่ายกลยันต์เมื่อนั้นจึงจะได้ชื่อว่ายันต์จิตวิญญาณ ยิ่งค่ายกลในยันต์จิตวิญญาณมากเท่าไร พลังของยันต์ก็ยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น อีกทั้งยันต์จิตวิญญาณยังแบ่งออกเป็นขั้นสูง กลางและต่ำด้วย

ยันต์จิตวิญญาณขั้นต่ำประกอบด้วยค่ายกลไม่เกินสามค่ายกล

ยันต์จิตวิญญาณขั้นกลางมีค่ายกลไม่เกินหก

และยันต์จิตวิญญาณขั้นสูงมีไม่เกินเก้าค่ายกล

โดยทั่วไปยันต์จิตวิญญาณแบ่งเป็นสามขั้นต่างกันดังที่ได้บอกไปแล้ว พลังของยันต์ทั้งสามก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ยันต์ขั้นต่ำเปรียบได้กับผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลที่จู่โจมเต็มกำลัง

ยันต์จิตวิญญาณขั้นกลางเปรียบกับการจู่โจมของผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลขั้นสมบูรณ์ ในขณะที่ยันต์จิตวิญญาณขั้นสูงสามารถทำอันตรายแก่ผู้บ่มเพาะขอบเขตเคหาทองคำได้อย่างหนักหน่วง

เหนือกว่ายันต์จิตวิญญาณคือยันต์เลิศล้ำ

ที่จริงยันต์เลิศล้ำก็คล้ายกับยันต์จิตวิญญาณ แต่เป็นการรวมเส้นลายของค่ายกลยันต์เก้าอย่างเข้ากับค่ายกลยันต์อีกเก้าอย่างเพื่อก่อร่างเป็นยันต์อีกหนึ่งยันต์

การแบ่งระดับขั้นก็เฉกเช่นเดียวกันคือมีขั้นต่ำ กลางและสูง ความรุนแรงนั้นเทียบได้กับการจู่โจมเต็มกำลังของผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางขั้นต้น ขอบเขตแกนทองคำหยินหยางขั้นกลางและขอบเขตแกนทองคำหยินหยางขั้นสูง

ส่วนลำดับสูงกว่ายันต์เลิศล้ำคือยันต์เร้นลับ แต่ด้วยอำนาจที่รุนแรงของยันต์ระดับนี้จึงไม่อาจใช้กระดาษยันต์ธรรมดาทั่วไปเขียนได้ ตามปกติยันต์เร้นลับจะถูกเขียนบนแผ่นหยกวิญญาณ ดังนั้นบางคนจึงเรียกยันต์เร้นลับว่ายันต์หยกเร้นลับ

ส่วนระดับของยันต์เร้นลับก็แบ่งเป็นขั้นต่ำ กลางและสูงเช่นกันตามลำดับ ความแข็งแกร่งของมันก็สอดคล้องกันคือมีอำนาจพลังเท่ากับการโจมตีเต็มกำลังของผู้บ่มเพาะขอบเขตจุติขั้นต้น ขั้นกลางและขั้นสูง

ต่อจากยันต์เร้นลับคือยันต์สวรรค์ซึ่งมีอำนาจเทียบเท่ากับการโจมตีของผู้บ่มเพาะขอบเขตสถิตกายาขั้นต้น ขั้นกลางและขั้นสูงตามลำดับ

พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือระดับของยันต์ทั้งหมดหากไม่รวมยันต์พื้นฐานที่แบ่งเป็นเก้าระดับแล้ว ถัดมาก็จะเป็นยันต์จิตวิญญาณ เลิศล้ำ เร้นลับและสวรรค์ และถูกแบ่งย่อยออกเป็นขั้นสูง กลางและต่ำ

ทักษะของการสร้าง พลัง รวมทั้งโครงสร้างอักขระยันต์ในยันต์ทั้งสี่ระดับนั้นมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ในการสร้างยันต์จิตวิญญาณมันเป็นเพียงการเสริมในส่วนของอักขระยันต์ลงไปซึ่งคนที่เป็นปรมาจารย์ค่ายกลยันต์อักขระทั่วไปก็สามารถทำได้

ยันต์เลิศล้ำจะมีพลังแห่งเต๋ารู้แจ้งอยู่ภายใน เช่นยันต์เลิศล้ำขั้นสูงจะมีพลังของเต๋ารู้แจ้งถึงเก้าประเภทสถิตอยู่

นอกจากการบรรจุพลังเต๋ารู้แจ้งลงในยันต์แล้ว การสร้างยันต์เร้นลับที่เป็นระดับถัดไปยังได้ดึงปราณแห่งฟ้าดินให้มาผสานลงในยันต์ คล้ายกับการที่ผู้บ่มเพาะสามารถควบคุมเขตแดนเต๋า ดังนั้นนอกจากเต๋ารู้แจ้งที่ต้องมีอย่างเพียงพอแล้ว ปรมาจารย์ค่ายกลยันต์อักขระนั้นจะต้องเข้าใจในเขตแดนเต๋าด้วยจึงจะสามารถขัดเกลายันต์เร้นลับได้

ในทางตรงข้ามการสร้างยันต์สวรรค์จะมีหลายสิ่งที่ต้องมุ่งเน้นมากกว่า นอกจากจะประกอบด้วยเต๋ารู้แจ้งและเขตแดนเต๋าแล้ว ยังได้รับพลังแห่งฟ้าดินและเมื่อใดที่พลังนี้ปรากฏขึ้น จะแปรเปลี่ยนเป็นพลังสายฟ้าทันที ยกตัวอย่างพลังที่อยู่ภายในยันต์สวรรค์พฤกษาครามที่สองอาจพัฒนาเป็นพลังสายฟ้าพฤกษาที่สองได้นั่นเอง

ด้วยเหตุนี้เองปรมาจารย์ค่ายกลยันต์อักขระที่สร้างยันต์สวรรค์ได้จึงถูกกล่าวขานว่าเป็นปราชญ์ค่ายกลยันต์อักขระ

สำหรับยันต์หยกเซียนปฐพีที่ในอดีตผู้ใช้คือชิงซิ่วอี้นั้นไม่ใช่ยันต์อักษระเสียทีเดียว มันเป็นสมบัติวิเศษชนิดที่ใช้ครั้งเดียวโดยที่ผู้บ่มเพาะขอบเขตเซียนปฐพีใช้แก่นโลหิตของตนเองในการสร้างมันขึ้นมา ซึ่งการสร้างแบบนี้จะส่งผลให้อายุขัยของคนผู้นั้นลดลงด้วย

ทั้งหมดที่กล่าวมาคือความเข้าใจในเต๋าแห่งยันต์อักขระของเฉินซี แต่ด้วยความสามารถและระดับการบ่มเพาะของเขาในตอนนี้ถ้าเขาคิดจะสร้างยันต์ขึ้นมา เขาคงยังไม่สามารถสร้างยันต์ระดับสูงได้

สำหรับยันต์เร้นลับและยันต์สวรรค์ หากมิได้มีความเข้าใจในเขตแดนเต๋า รวมทั้งพลังแห่งฟ้าดินอยู่แล้ว เขาก็คงสร้างไม่ได้

“ที่เรียกว่ายันต์เทวะเพราะเหนือกว่ายันต์สวรรค์ นอกจากเต๋ารู้แจ้ง เขตแดนเต๋าและพลังแห่งฟ้าดินแล้ว ยังต่อเนื่องไปถึงพลังเทพแห่งฟ้าดิน ด้วยเหตุที่มันมีต้นกำเนิดมาจากเทพนั่นเอง!” เมื่อผู้พูดเห็นว่าเฉินซีนิ่งเงียบไปซึ่งเป็นดังที่เขาคาดไว้แล้ว จี้อวี๋จึงตอบให้ด้วยตัวเอง “อย่างเช่นการสร้างยันต์เทวะพฤกษาคราม จะผนึกและก่อให้เกิดภาพลักษณ์แห่งเทพท้องฟ้าและเทพีพฤกษาในยุคแห่งทวยเทพ ในทำนองเดียวกับยันต์เทวะผสานธาตุ มันจะผนึกและก่อให้เกิดภาพลักษณ์แห่งองค์เทพบริสุทธิ์และเทพีธาตุ สมัยก่อน คำว่า ‘เทพ’ ที่ปรากฏในยันต์เทวะหมายถึงพลังของเหล่าทวยเทพและมีเพียงแต่พลังทวยเทพดังกล่าวเพิ่มเข้าไปเท่านั้น จึงได้ชื่อว่ายันต์เทวะแท้จริง”

เฉินซีตระหนักรู้ในทันทีและรู้สึกจิตใจไหววูบในเวลาเดียวกัน การผนึกและก่อให้เกิดภาพลักษณ์องค์เทพภายในยันต์ การบ่มเพาะพลังเต๋าแห่งยันต์อักขระเพื่อให้สามารถสร้างยันต์ชนิดนี้ขึ้นมาได้จะน่ากลัวสักเพียงใด

“เต๋าแห่งยันต์อักขระมิใช่สิ้นสุดอยู่เพียงเท่านี้ทว่าเป็นแค่บทเริ่มต้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ต่อไปภายภาคหน้าเจ้าจะเข้าใจได้เอง เมื่อเจ้าได้เรียนรู้ยันต์เทวะทั้งห้าประเภทนี้จนชำนาญแล้ว” จี้อวี๋กล่าวพร้อมรอยยิ้ม

บทเริ่มต้นใหม่เท่านั้นสินะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]