บทที่ 265 นิกายกระบี่เบญจธาตุ
บทที่ 265 นิกายกระบี่เบญจธาตุ
เมื่อพวกเขารู้ว่า ภายในสามวันข้างหน้าจะมีเหล่าผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางเดินทางมาช่วยเหลือ บรรยากาศที่หนักหน่วงและเงียบงันในห้องโถงใหญ่ก็หายไปทันที และสีหน้าของทุกคนในตอนนี้ก็ดูผ่อนคลายลง
มีคนบางคนไม่อาจระงับความอยากรู้อยากเห็นไว้ในใจได้และเอ่ยถามออกไปว่า “ท่านผู้อาวุโสหนิง ข้าขอเรียนถามได้หรือไม่ว่าเหล่าผู้อาวุโสขอบเขตแกนทองคำหยินหยางที่ท่านเชิญมาเหล่านี้คือผู้ใดกัน?”
คนอื่น ๆ ต่างก็แสดงสีหน้าสงสัยเมื่อได้ยินสิ่งนี้
หนิงเต้าฟู่สัมผัสได้ถึงคลื่นแห่งความสุขเมื่อเขากลายเป็นศูนย์กลางความสนใจ และเขารู้สึกราวกับว่าตนเองได้ย้อนกลับไปสู่อดีต ในช่วงเวลานั้น ตระกูลเฉินยังไม่ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมา และเขาก็เป็นผู้อาวุโสของกองกำลังอันดับหนึ่งแห่งเมืองหมอกสน ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกจ้องมองแบบนี้อยู่บ่อย ๆ แต่น่าเสียดายที่ทั้งหมดนี้ไม่มีอีกแล้ว
หลังจากที่เขาสงบอารมณ์ได้ หนิงเต้าฟู่ก็กล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า “ข้าคิดว่าทุกคนต่างก็รู้ว่าข้ามาจากนิกายกระบี่เบญจธาตุในที่ราบตอนกลาง ผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางที่ข้าเชิญในครั้งนี้ล้วนมาจากที่นั่น”
“นิกายกระบี่เบญจธาตุแห่งที่ราบตอนกลาง?”
“ยอดเยี่ยมยิ่งนัก! ที่ราบตอนกลางอุดมสมบูรณ์ไปด้วยปราณวิญญาณมากกว่าดินแดนทางตอนใต้ของเรามากนัก มันเป็นดินแดนที่เต็มไปด้้วยผู้บ่มเพาะที่มีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยมและมีผู้บ่มเพาะระดับสูงอยู่มากมายราวกับก้อนเมฆ ด้วยความช่วยเหลือจากผู้บ่มเพาะของนิกายกระบี่เบญจธาตุ พวกเราจะรอดจากหายนะในครั้งนี้อย่างแน่นอน”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว”
ทุกคนต่างก็รู้สึกมีขวัญกำลังใจมากขึ้นเมื่อได้ยินเกี่ยวกับสิ่งนี้ พวกเขาเป็นเพียงผู้นำของกองกำลังในเมืองเล็ก ๆ ที่ห่างไกลในดินแดนทางตอนใต้ ต่อให้เป็นบุคคลสำคัญของเมืองทะเลสาบมังกรมาเยือน ในสายตาพวกเขาก็จะเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นตัวตนที่พวกเขาจะต้องชื่นชมเป็นอย่างมาก ตอนนี้เมื่อพวกเขาได้ยินว่าคนที่กำลังมาช่วยเหลือคือผู้บ่มเพาะจากนิกายกระบี่เบญจธาตุในที่ราบตอนกลาง มันทำให้พวกเขาไม่อาจเก็บความตื่นเต้นในใจพวกเขาได้เลย
หนิงเต้าฟู่รับฟังคำชื่นชมของทุกคนด้วยรอยยิ้ม และเขาก็รู้สึกยินดีอยู่ภายในหัวใจของเขาเป็นอย่างมาก แต่เมื่อเขาเห็นเฉินฮ่าวเงียบไป เขาจึงรู้สึกกังวลอยู่ในใจและกล่าวพร้อมกับยิ้มออกมาทันที “สิ่งนี้มิเท่าไรหรอก ถ้าหากผู้นำตระกูลเฉินออกหน้าแล้ว ข้าคิดว่าเขาจะสามารถเชิญผู้บ่มเพาะของนิกายกระบี่เมฆาพเนจรมาช่วยเราได้อย่างแน่นอน เช่นนั้นเราจะต้องกังวลถึงสิ่งใดอีกเล่า”
เดิมทีเขามีเจตนาที่ดีและต้องการใช้โอกาสนี้ประจบประแจงเฉินฮ่าว เพราะท้ายที่สุดเขาก็ยังคงต้องพึ่งพาการปกป้องของค่ายกลกระบี่มหาปราณของตระกูลเฉินอยู่ดี แต่เขากลับไม่เคยคิดเลย เมื่อคำพูดเหล่านี้ได้ผ่านเข้าหูของผู้คนที่อยู่ในตอนนี้ บรรยากาศในห้องโถงใหญ่ก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ทุกคนต่างก็ไม่ได้กล่าวถึงสิ่งใดออกมา ราวกับพวกเขากำลังครุ่นคิดอยู่ในใจ
แน่นอนว่าเฉินฮ่าวเองก็รู้โดยธรรมชาติว่า คนเหล่านี้กำลังตำหนิเขา แต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะอธิบายถึงสิ่งใด
อันที่จริง ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคิดที่จะขอความช่วยเหลือจากนิกายกระบี่เมฆาพเนจร แต่ความคิดนี้ถูกปัดตกอย่างรวดเร็ว เนื่องจากในปัจจุบัน ตระกูลเฉินมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำ และเขาคือผู้นำของตระกูลเฉิน หากเขาต้องคอยร้องขอความช่วยเหลือจากนิกายกระบี่เมฆาพเนจรเมื่อประสบเข้ากับปัญหา เช่นนั้น ตระกูลเฉินของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างแท้จริงได้เมื่อไรกัน?
ยิ่งไปกว่านั้น เฉินฮ่าวมีสิ่งที่ต้องไตร่ตรองให้ลึกซึ้งมากกว่านี้ เพราะเขาไม่ได้เป็นสมาชิกของนิกายกระบี่เมฆาพเนจรอีกต่อไป ในขณะที่เฉินซีกำลังจะมุ่งหน้าไปยังนครหลวงธารสายไหมเพื่อเข้าร่วมการชุมนุมดาวรุ่งในอีกสองปีข้างหน้า เมื่อเฉินซีติดอยู่ในสิบอันดับแรก เฉินซีอาจต้องไปจากดินแดนของราชวงศ์ซ่ง ดังนั้นการพัฒนาของตระกูลเฉินในเวลานั้นจะต้องพึ่งพาเขาทั้งหมด ส่วนนิกายกระบี่เมฆาพเนจรก็อาจช่วยเขาได้ครั้งหรือสองครั้ง แต่ไม่อาจช่วยเขาได้ตลอดไป
เป็นเพราะการไตร่ตรองเหล่านี้ ทำให้เขาตัดสินใจพึ่งพาตัวเองสำหรับทุกสิ่ง เว้นแต่เวลาวิกฤตจะมาถึง เขาจะไม่ขอความช่วยเหลือจากนิกายกระบี่เมฆาพเนจรอย่างแน่นอน
การโจมตีของฝูงสัตว์อสูรที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ยังไม่อาจคุกคามความอยู่รอดของตระกูลเฉินได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ขอความช่วยเหลือจากนิกายกระบี่เมฆาพเนจร
สำหรับความปลอดภัยของตระกูลอื่น ๆ เฉินซีไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ เนื่องจากเขาไม่ใช่นักบุญ ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะดูแลทุกคน เนื่องจากทุกคนล้วนมีอิสระที่จะช่วยหรือไม่ช่วย และไม่สามารถตำหนิใครเพียงเพราะเหตุนี้
ตึก! ตึก! ตึก!
ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าอันรวดเร็วก็ดังก้องออกมาจากด้านนอกห้องโถงใหญ่ และเซียวเหน่าก็วิ่งเข้ามาด้วยท่าทางที่ร้อนรน พร้อมกับโค้งคำนับและกล่าวว่า “ท่านผู้นำ มีผู้บ่มเพาะสามคนอยู่ข้างนอก และพวกเขาต้องการขอเข้าพบท่าน ท่านต้องการที่จะพบกับพวกเขาหรือไม่”
“มีคนมาหรือ?” เฉินฮ่าวตกตะลึงและถาม “พวกเขากล่าวว่าอะไรหรือ?”
“ตามที่พวกเขาบอก พวกเขาเป็นผู้บ่มเพาะจากนิกายกระบี่เบญจธาตุในที่ราบตอนกลาง พวกเขามาที่เมืองหมอกสนของเราเพราะได้รับคำเชิญจากผู้อาวุโสหนิงเต้าฟู่ของสำนักหมอกสน”
“พวกเขามาเร็วกันขนาดนั้นเลยหรือ?” หนิงเต้าฟู่รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากและไม่สามารถนั่งนิ่งได้อีกต่อไป จึงกล่าวในขณะที่ประสานมือของเขาว่า “ท่านผู้นำเฉิน เราควรเปิดค่ายกลกระบี่มหาปราณและอนุญาตให้พวกเขาเข้ามาหรือไม่”
เฉินฮ่าวยืนขึ้นและยิ้มในทำนองเดียวกัน “ผู้มาจากแดนไกลคือแขก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการที่พวกเขามาช่วยเหลือเราให้ผ่านพ้นสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ ไปทักทายอาคันตุกะทั้งสามที่มาจากที่ราบตอนกลางกันเถอะ”
…
ในขณะนี้ มีกลุ่มคนกำลังยืนอยู่นอกประตูทางเข้าสีแดงชาดของจวนตระกูลเฉิน
ที่โดดเด่นที่สุดในหมู่พวกเขาคือชายหนุ่มสองคนและหญิงสาวหนึ่งคน พวกเขาทั้งหมดสวมชุดคลุมนักพรตเต๋าสีขาวที่มีกลิ่นอายสง่าผ่าเผยและไม่ธรรมดา ดูเหมือนพวกเขากำลังสำรวจพื้นที่โดยรอบขณะที่กระซิบกันอย่างแผ่วเบา
ที่เบื้องหลังทั้งสามคนนี้ มีคนอยู่สิบสองคนที่ดูเหมือนข้ารับใช้ แต่ทุกคนล้วนมีร่างกายที่แข็งแกร่ง ดวงตาที่ปกคลุมไปด้วยประกายแสง และบริเวณโดยรอบของพวกเขาก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายที่หนักอึ้งเหมือนภูเขา
“ฮึ่ม! ท่านอาจารย์เห็นแก่ความสัมพันธ์เก่ามากเกินไปจริง ๆ เพื่อเห็นแก่ศิษย์ที่ถูกไล่ออกจากนิกายเมื่อหลายปีก่อน เขาได้สั่งให้พวกเรามายังสถานที่อันเลวร้ายแห่งนี้เพื่อให้ความช่วยเหลือ แต่ตอนนี้พวกเขากลับกระแทกประตูใส่หน้าพวกเรา ทำให้ข้ารู้สึกขุ่นเคืองยิ่งนัก!”
คนที่กล่าวอยู่ในขณะนี้คือหญิงสาวคนนั้น นางมีดวงตาสีน้ำตาลและริมฝีปากสีแดงสด ผิวขาว รูปร่างสง่างาม และใบหน้าที่สวยและมีเสน่ห์ ชื่อของนางคือ ‘หลินชิวหลิง’ และนางก็เป็นศิษย์ที่มีพลังขอบเขตแกนทองคำหยินหยางของนิกายกระบี่เบญจธาตุ
“ศิษย์พี่เหว่ย ท่านไม่รู้สึกขุ่นเคืองหรือ?” เมื่อหลินชิวหลิงเห็นชายหนุ่มที่เป็นผู้นำไม่สนใจ หลินชิวหลิงจึงเม้มริมฝีปากของนางและบ่นอย่างโกรธเคือง
“ศิษย์น้องหลิน ศิษย์พี่ใหญ่กำลังศึกษาค่ายกลที่อยู่เบื้องหน้าเรา และเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่สนใจเจ้า” ในอีกด้านหนึ่ง ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่มีท่าทางโง่เขลากล่าวด้วยรอยยิ้ม เขามีนามว่าเมิ่งชื่อซิงและเป็นศิษย์ที่มีพลังขอบเขตแกนทองคำหยินหยางของนิกายกระบี่เบญจธาตุเช่นเดียวกับหลินชิวหลิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...