บทที่ 279 เต๋ารู้แจ้งแห่งการกัดกร่อน
บทที่ 279 เต๋ารู้แจ้งแห่งการกัดกร่อน
ก้านของดอกบัวดอกนี้มีความหนาประมาณนิ้วหัวแม่มือ มีใบบัวสิบสองใบล้อมรอบดอกบัวสีดำที่บานสะพรั่ง ไม่ว่าจะเป็นใบบัว ลำต้น หรือดอกบัว พวกมันล้วนแต่มีสีดำสนิทเป็นมันเงา และมีประกายแวววาวราวกับหยก อีกทั้งยังมีหมอกโลหิตไหลออกมาปกคลุมอยู่รอบดอกบัว ซึ่งส่งกลิ่นหอมอันเย้ายวนอย่างแผ่วเบา
ปทุมโลหิตหยกนิล!
ดวงตาของเฉินซีหรี่ลง เมื่อเขาจดจำยาอายุวัฒนะที่สวยงามเช่นนี้ได้ ตามคำเล่าลือ ดอกบัวดอกนี้จะเติบโตท่ามกลางพิษที่มีฤทธิ์รุนแรงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก และใบของมันจะผลิเพียงหนึ่งใบในทุก ๆ พันปี เมื่อมันผลิบานครบสิบสองใบ ก็จะบานเป็นดอกบัวสีดำสนิทอย่างน่าอัศจรรย์ สรรพคุณของมันสามารถเติมเต็มปราณวิญญาณและฟื้นฟูทะเลแห่งจิตสำนึก ด้วยเหตุนี้ มันจึงเป็นสมบัติชั้นเลิศสำหรับการฟื้นฟูปราณวิญญาณ และสามารถได้รับมาโดยโชคชะตากำหนดเท่านั้น
‘ข้าไม่เคยคิดเลยว่า ปทุมโลหิตหยกนิลที่โตเต็มที่จะเติบโตอยู่ที่นี่ คนเหล่านี้อาจมาที่นี่เพื่อสิ่งนี้ แต่พวกเขากลับต้องพบกับการโจมตีของแมงมุมสีรุ้งเปลวเพลิงหยก…’ เฉินซีครุ่นคิดอยู่ในใจ
“ข้ามีนามว่าฉินอวี้เหว่ย ขอเรียนถามนามของท่านผู้อาวุโสได้หรือไม่” เมื่อนางเห็นเฉินซีสังเกตเห็นปทุมโลหิตหยกนิล ใบหน้าของหญิงสาวก็ซีดลง และนางรีบเดินไปข้างหน้าขณะที่นางกล่าวพร้อมกับคารวะ เพื่อบดบังปทุมโลหิตหยกนิลที่อยู่ข้างหลัง
“ข้าแค่บังเอิญผ่านมาและกำลังจะจากไป ดังนั้นไม่จำเป็นต้องสนใจนามของข้าหรอก” เฉินซีกล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ปทุมโลหิตหยกนิลและกล่าวว่า “พวกเจ้าต้องเสียสละผู้คนไปมากมายเพื่อของสิ่งนี้”
ใบหน้าของฉินอวี้เหว่ยหม่นหมองขณะที่นางพยักหน้าพร้อมกับกล่าวว่า “ใช่แล้ว และเนื่องจากผู้อาวุโสได้ช่วยข้ากับท่านลุงหลัวไว้ ดังนั้นสิ่งนี้ควรเป็นของท่าน แต่ว่า…”
“ไม่จำเป็นต้องกล่าวอีกต่อไป ของสิ่งนี้ไม่มีประโยชน์อันใดแก่ตัวข้า ดังนั้นเจ้าจงเก็บมันไว้เถิด” เฉินซีขัดจังหวะพลางส่ายหัว เนื่องจากปราณวิญญาณของเขาสามารถเทียบกับผู้บ่มเพาะขอบเขตจุติมาตั้งนานแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่อยากได้ปทุมโลหิตหยกนิลเลยสักนิด
“ขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่กรุณา ข้าจึงสามารถบรรลุเป้าหมายในครั้งนี้” ฉินอวี้เหว่ยรู้สึกประหลาดใจและดูเหมือนจะไม่เคยคิดมาก่อนว่าเฉินซีจะรับมือได้ง่ายขนาดนี้ จากนั้นความซาบซึ้งใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่งดงามของนาง เนื่องจากปทุมโลหิตหยกนิลดอกนี้มีความสำคัญต่อนางอย่างมาก มิฉะนั้น นางคงไม่เสี่ยงชีวิตมาที่เทือกเขาหมื่นพิษอย่างแน่นอน
เฉินซีเพียงยิ้มเล็กน้อยและหันกลับมาที่ด้านข้างของแมงมุมสีรุ้งเปลวเพลิงหยก จากนั้นเขาก็ตรวจมันสักพัก ก่อนจะหยิบไข่มุกสีเขียวหยกออกมาจากกองซากศพ ไข่มุกเม็ดนี้มีขนาดประมาณไข่นกพิราบ มันมีสีเขียวหยกและเปล่งประกายแสงเจิดจ้าอยู่รอบ ๆ อีกทั้งยังปล่อยกลิ่นอายที่หอมสดชื่นอยู่จาง ๆ
ไข่มุกนี้เป็นแก่นแท้ของแมงมุมสีรุ้งเปลวเพลิงหยก และมันถูกเรียกว่าไข่มุกเปลวเพลิงหยก สรรพคุณของมันสามารถกำจัดพิษได้มากมายและถือได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่หายาก หากมันถูกขายในตลาด มูลค่าของมันก็จะมหาศาลจนต้องตกตะลึง และอย่างน้อยก็สามารถแลกเปลี่ยนมันเป็นสมบัติวิเศษระดับปฐพีได้
เฉินซีกำลังเล่นกับไข่มุกเปลวเพลิงหยกในฝ่ามือของเขา ในขณะที่ ฉินอวี้เหว่ยหยิบกล่องหยกออกมาอย่างระมัดระวัง และกำลังเดินไปดึงปทุมโลหิตหยกนิลตรงจุดที่มันเติบโตอยู่ และในขณะที่มันถูกดึงออกมา สีดำสนิทของมันกลับกลายเป็นสีแดงเลือดทันที ทำให้มันดูเหมือนเลือดสด ๆ ที่กำลังเผาไหม้ ซึ่งมีสรรพคุณทางยาที่น่าอัศจรรย์
ฟิ้ว!
ทว่าทันทีที่นิ้วของนางสัมผัสกับปทุมโลหิตหยกนิล จู่ ๆ ก็มีร่างสีดำโผล่ออกมาจากอากาศ และคว้าดึงปทุมโลหิตหยกนิลไปทั้งต้น ก่อนจะหมุนตัวและหลบหนีไป ความเร็วของร่างสีดำนั้นรวดเร็วมากจนเหมือนกับลูกศรที่ยิงออกจากคันธนู และร่างนั้นก็พุ่งห่างออกไปสองลี้ในทันที
“อ๊ะ! ไม่นะ~!” ใบหน้าของฉินอวี้เหว่ยซีดลงอย่างน่าสยดสยองขณะที่นางกรีดร้องออกมาอย่างรุนแรง และเสียงของนางยังแฝงไปด้วยความสิ้นหวัง ทำให้นางดูน่าสังเวชเป็นอย่างมาก
“เจ้ากล้าขโมยของต่อหน้าข้าหรือ? เจ้ากำลังรนหาที่ตาย! จงทิ้งชีวิตไว้ซะ!”
เคร้ง!
เสียงกระบี่ดังก้องออกมาและปราณกระบี่พลันพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ยันต์อักขระสีทองมากมายได้ปกคลุมโดยรอบของยันต์ศัสตรา และบนตัวกระบี่ก็มีประกายอันเย็นยะเยือกอาบอยู่ ซึ่งเผยให้เห็นถึงกลิ่นอายแหลมคมที่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้
ฟิ้ว!
เฉินซีพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาสะบัดยันต์ศัสตราในมือออกไป ทำให้ท้องฟ้าที่ดูเหมือนกับผ้าไหมถูกปราณกระบี่อันดุร้ายและเกรี้ยวกราดฉีกออกเป็นริ้ว ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ปราณกระบี่ที่เหมือนรุ้งสีทองได้เฉือนไปยังร่างที่หลบหนีห่างออกไป
“ฮึ่ม! ฝ่ามือห่าพิษ” ร่างสีดำคำรามอย่างเย็นชาและไม่ได้หันกลับมามอง มือขวาของเขาได้กลายเป็นสีดำสนิทอย่างฉับพลัน จากนั้นจึงฟาดไปยังปราณกระบี่ที่โจมตีเข้ามาจากด้านหลังอย่างรุนแรง
ปัง!
ละอองสีดำประหลาดได้แผ่กระจายออกมาจากฝ่ามือของเขาและปะทะเข้ากับปราณกระบี่อย่างรุนแรง ก่อนที่มันจะพุ่งเข้าเฉินซีอีกครั้ง
แต่สิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็คือ ทุกหนทุกแห่งที่ละอองสีดำประหลาดเคลื่อนผ่านไป แม้แต่ปราณกระบี่ที่คมกริบก็ดูเหมือนจะสึกกร่อนและเปล่งเสียงฟู่ ๆ ขณะที่มันละลายไปทีละนิด
‘เต๋ารู้แจ้งแห่งการกัดกร่อนหรือ? พลังฝ่ามือของเขาแฝงไปด้วยพิษที่ร้ายแรง ทำให้มันเป็นกระบวนยุทธ์ระดับเต๋าที่ร้ายกาจเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งของคนผู้นี้น่าจะอยู่ที่ขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่อาจทำอะไรแก่ตัวข้าได้’ ดวงตาของเฉินซีหรี่ลง ในขณะที่เขาถ่ายเทพลังไปให้ยันต์ศัสตราและปีกนภาดารกะอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะพุ่งเข้าไปสังหารคนผู้นี้ในพริบตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...