บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 283

บทที่ 283 การประมูล

บทที่ 283 การประมูล

เวลาผ่านไปสามวันในพริบตา

รุ่งสางของวันที่สาม ฝนปรอย ๆ โปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า ปกคลุมทั่วเมืองเฟิงเย่ด้วยละอองฝน เมื่อมองจากระยะไกล ทั้งเมืองที่ถูกปกคลุมด้วยใบเฟิงแดงราวกับเปลวเพลิง แต่กลายมีหมอกภายใต้ละอองฝน ทำให้ภาพนี้มีเสน่ห์เป็นพิเศษ

เฉินซีตื่นขึ้นจากการทำสมาธิมานานแล้ว จากนั้นเขาก็ออกจากโรงเตี๊ยมมาพร้อมกับมู่ขุยเพื่อมุ่งหน้าไปยังหอขุมทรัพย์สวรรค์

แม้ว่าจะเป็นเวลาเช้าตรู่ แต่ถนนภายในเมืองเฟิงเย่ทั้งหมดก็เต็มไปด้วยผู้คนมากมายและเสียงจอแจ เสียงของการสนทนาเกี่ยวกับการประมูลที่จะจัดขึ้นในหอขุมทรัพย์สวรรค์วันนี้สามารถได้ยินได้ทุกที่

เมื่อมองเมืองลงมาจากท้องฟ้า จะเห็นว่าบนถนนที่ทอดยาวไปทุกที่เหมือนใยแมงมุมทั่วทั้งเมืองเฟิงเย่นั้นเต็มไปด้วยสายน้ำและมหาสมุทรของผู้คนมากมาย และคนทั้งหมดกำลังมุ่งหน้าไปยังหอขุมทรัพย์สวรรค์ ในหมู่พวกเขามีทั้งขุนนางที่นั่งรถม้าอันล้ำค่า ผู้สูงศักดิ์ที่มีสัตว์เลี้ยงวิญญาณ และผู้มีพรสวรรค์รุ่นเยาว์ที่เคลื่อนไหวเป็นกลุ่มสามถึงห้าคน ทำให้มันกลายเป็นฉากที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

ทางเข้าที่กว้างเก้าสิบจั้งของหอขุมทรัพย์สวรรค์นั้นแน่นมากจนไม่สามารถผ่านไปได้ เมื่อเฉินซีและมู่ขุยมาถึง ก็เห็นจำนวนคนที่เข้าร่วมการประมูลในวันนี้ได้ชัดเจน

เฉินซีพบว่าในบรรดาผู้บ่มเพาะที่เข้าร่วมการประมูล พวกเขาได้เทียบเชิญสองประเภท ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเทียบเชิญธรรมดาที่ผู้คนส่วนใหญ่ได้รับ และพวกเขาก็เดินผ่านเข้าไปโดยไม่มีผู้ดูแลต้อนรับ

อีกประเภทหนึ่งคือเทียบเชิญที่มีสีทองเนื้อดีสำหรับแขกพิเศษ ซึ่งมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มี และการมาถึงของคนเหล่านี้จะได้รับการต้อนรับโดยผู้ดูแลพิเศษ และคนเหล่านั้นสามารถเดินผ่านไปยังทางที่เปิดรับรองไว้เป็นพิเศษได้ด้วย

นี่อาจเป็นความแตกต่างระหว่างผู้บ่มเพาะธรรมดากับผู้มีสิทธิพิเศษ

แน่นอนว่า มีคนจำนวนมากที่ไม่ได้ครอบครองแม้แต่เทียบเชิญธรรมดาด้วยซ้ำ และคนเหล่านี้คิดเป็นผู้คนประมาณเจ็ดในสิบส่วนของผู้ที่เข้าร่วม เหตุผลที่พวกเขามาที่งานประมูลก็เพื่อต้องการเป็นสักขีพยานในฐานะผู้ชม แต่พวกเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมการประมูลด้วยซ้ำ

ในระหว่างการเข้าแถวเพื่อเข้าสู่หอขุมทรัพย์สวรรค์ ผู้บ่มเพาะส่วนใหญ่กำลังพูดคุยกันอย่างมีชีวิตชีวา พวกเขาต่างมีความคาดหวังและความอยากรู้อยากเห็นต่อการประมูลที่กำลังจะเริ่มขึ้นอย่างมาก

“อะไรนะ? แค่เทียบเชิญธรรมดาก็ต้องใช้โอสถกลั่นแรกเริ่มหนึ่งร้อยเม็ดแล้วหรือ?”

“เหอะ แค่นั้นก็บอกว่าแพงแล้วหรือ? ถ้าไปถามในตลาดมืด อย่าว่าแต่โอสถกลั่นแรกเริ่มหนึ่งร้อยเม็ดเลย แม้แต่ห้าร้อยเม็ดก็ซื้อไม่ได้ด้วยซ้ำ!”

“เหตุใดมันถึงเป็นแบบนี้? มันก็แค่การประมูลไม่ใช่รึ? ไยผู้คนถึงต่อสู้เพื่อให้ได้รับเทียบเชิญกัน?”

“มีเพียงเจ้าเท่านั้นที่ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ในระหว่างการประมูลครั้งนี้ สมบัติหายากและมีค่าจำนวนมากจะปรากฏขึ้น และเฉพาะผู้ที่ได้รับเชิญเท่านั้นที่มีคุณสมบัติร่วมการประมูล เข้าใจไหม?”

เบื้องหลังเฉินซีคือผู้บ่มเพาะที่กำลังหารือเกี่ยวกับการประมูลสองคน และเมื่อพวกเขาเห็นเฉินซียืนอยู่โดยไม่ขยับ ชายวัยกลางคนที่มีรูปร่างเตี้ยในหมู่พวกเขาก็พูดด้วยความไม่พอใจว่า “เจ้าน้องชาย ถอยไปหน่อย หากไม่ได้รับเทียบเชิญ อย่าเสียเวลาเลยจริงไหม?”

“หรือว่าเจ้าต้องการใช้ประโยชน์จากฝูงชนเพื่อแอบเข้ามา? ข้าคิดว่าเจ้าควรทิ้งความคิดนั้นโดยเร็วที่สุด ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเข้าร่วมการประมูลได้เพียงแค่เพราะพวกเขาต้องการ!” ชายวัยกลางคนตัวสูงอีกคนก็ขมวดคิ้วเช่นกัน สายตาของเขามองไปยังเฉินซีอย่างไม่มีความสุขขณะที่พูดอย่างดูถูกเหยียดหยาม

เฉินซียิ้มและไม่ยุ่งกับพวกเขาก่อนที่ชายหนุ่มจะเดินออกจากฝูงชนพร้อมกับมู่ขุย จากนั้นเขาก็นำเทียบเชิญพิเศษที่ย่าชิงให้เขามา เดินเข้าไปในพื้นที่ประมูลภายใต้การต้อนรับของผู้ดูแลหญิง

“บ้าเอ๊ย ข้าดูไม่ผิดใช่ไหม? เด็กคนนั้นได้รับเทียบเชิญพิเศษ?” ชายวัยกลางคนตัวเตี้ยอ้าปากค้างและร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นภาพนี้

“มัน… มันน่าจะใช่” ชายวัยกลางคนตัวสูงก็ตกตะลึงเช่นกัน และเขารู้สึกอับอายอย่างมากเมื่อรู้สึกได้ถึงสายตาที่ผิดปกติจากคนรอบข้าง

พื้นที่ประมูลมีขนาดใหญ่มาก มันทั้งกว้างใหญ่และงดงามมาก อีกทั้งยังครอบครองพื้นที่หกสิบลี้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าผู้บ่มเพาะที่มีความสามารถสูงได้เปิดมิติขนาดใหญ่ที่นี่ อาคารโดยรอบแบ่งออกเป็นสองชั้นและมีรูปร่างเป็นวงกลมล้อมรอบแท่นหยกขนาดมหึมาที่อยู่ตรงกลาง

ห้องรับรองพิเศษอยู่บนชั้นสอง และในห้องรับรองพิเศษ เฉินซีกับมู่ขุยได้หันหน้าเข้าหาแท่นหยกโดยตรง ขอบเขตการมองเห็นของพวกเขากว้างมาก ทำให้พวกเขาสามารถมองเห็นทุกสิ่งรอบตัวได้จากภายในห้อง แต่ผู้คนที่อยู่ด้านนอกไม่สามารถมองเห็นสถานการณ์ภายในห้องรับรองพิเศษได้

แม้ว่าห้องรับรองพิเศษจะมีขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ก็ได้รับการตกแต่งอย่างมีรสนิยมอย่างมาก และเมื่อใครก็ตามเข้ามานั่งในห้องนั้นแล้วมองลงมาที่สภาพแวดล้อมเบื้องล่าง มันก็สามารถกระตุ้นความรู้สึกที่เหนือกว่าและควบคุมทุกสิ่งได้อย่างแท้จริง

“ท่านแขกผู้มีเกียรติ หากท่านต้องการอะไรเพิ่มเติม ท่านสามารถแจ้งให้ข้าน้อยทราบได้เลยนะเจ้าคะ ข้าจะรออยู่ด้านนอกของห้องรับรองพิเศษเจ้าค่ะ” ผู้ดูแลหญิงโค้งคำนับขณะที่นางพูดจบ จากนั้นนางก็หันหลังกลับและจากไป

“ห้องรับรองพิเศษนี่ดีจริง ๆ มีเบาะนุ่ม ๆ ให้นั่งและดื่มสุรารสเลิศ” มู่ขุยยิ้มขณะที่เขานั่งบนเก้าอี้ยาวและคร่ำครวญด้วยความสบายใจ

เฉินซียิ้ม “บอกข้าซิว่าอาวุธที่กระตุ้นความสนใจของเจ้าจะมีในการประมูลครั้งนี้หรือไม่? ข้าจะเสนอราคาให้เจ้าเอง”

“ขอบคุณขอรับ นายท่าน” มู่ขุยพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม การติดตามเฉินซีเป็นระยะเวลานานทำให้เขาค่อย ๆ รับรู้ถึงนิสัยของเฉินซีทีละนิด และเขาก็รู้ว่าเจ้านายของเขาเป็นคนง่าย ๆ และไม่ชอบเมื่อเขาเกรงใจอะไรเกินไป ในขณะที่การพูดอะไรตรงไปตรงมาจะทำให้เฉินซีดีใจแทน

“สหายเต๋าเฉินซี ข้าขอเข้าไปได้หรือไม่?” ในขณะนี้ เสียงที่น่าฟังเหมือนเสียงธรรมชาติของย่าชิงก็ดังออกมาจากข้างนอกห้องรับรองพิเศษ

“แม่นางย่าชิงหรือ? เข้ามาเถอะ” เฉินซีกล่าว

“ข้ากำลังว่างและไม่มีอะไรทำพอดี ดังนั้นข้าจึงมารบกวนสหายเต๋าเฉินซี ท่านจะไม่ตำหนิข้าและขับไล่ข้าออกไปใช่ไหม?” ย่าชิงนั่งลงบนที่นั่งข้าง ๆ ขณะที่นางพูดติดตลกด้วยรอยยิ้ม

“ไม่เป็นไร ตราบใดที่แม่นางย่าชิงไม่ไล่ข้าออกไป” เฉินซียิ้ม “ไม่ต้องพูดถึงว่าเมื่อมีแม่นางย่าชิงอยู่ที่นี่แล้ว ท่านก็สามารถช่วยแนะนำกฎการประมูลให้ข้าได้ด้วย และนั่นก็เป็นสิ่งที่ข้ากำลังมองหาพอดี”

ดวงตาที่เต็มไปด้วยดวงดาวของย่าชิงกลอกไปรอบ ๆ ด้วยความกะลิ้มกะเหลี่ยขณะที่นางหัวเราะเบา ๆ “ข้ารู้ว่าข้าคงไม่สามารถหลอกตาท่านได้ ใช่แล้ว ข้ามาครั้งนี้เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสหายเต๋า”

เฉินซีโบกมือและพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องมีมารยาทขนาดนั้นหรอก แม่นางย่าชิงเรียกข้าว่าเฉินซีเหมือนเดิมเถิด”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]