บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 290

บทที่ 290 ถึงวันที่สิบห้า

บทที่ 290 ถึงวันที่สิบห้า

โรงเตี๊ยมวิหคทะยานเป็นโรงเตี๊ยมขนาดใหญ่ ซึ่งตกแต่งอย่างหรูหราและมีชื่อเสียงแห่งเมืองเฟิงเย่ ใกล้กันเป็นป่าเฟิงแดง ทำให้สภาพแวดล้อมค่อนข้างสงบและสวยงาม อีกทั้งมีสุราชั้นดี…สุราใบเฟิงเป็นที่เลื่องลือทำให้กิจการเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก

ขณะนี้เพิ่งเที่ยงวัน ภายในโรงเตี๊ยมวิหคทะยานก็เนืองแน่นไปด้วยลูกค้า ผู้บ่มเพาะที่เดินทางมาจากทั่วทุกสารทิศเพื่อพบปะพูดคุยและหาความสำราญจากการดื่มสุรา ทำให้บรรยากาศพลุกพล่านอย่างมาก

“ฮ่า ๆ เมื่อวานข้าก็มาร่วมการประมูลที่หอขุมทรัพย์สวรรค์ด้วยเช่นกัน…บอกเลยว่ายิ่งใหญ่และยอดเยี่ยมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่เพียงแต่ข้าจะได้เห็นของสะสมและสมบัติล้ำค่าหายากชั้นยอดเท่านั้น แต่ข้าได้ประสบเหตุการณ์สำคัญกับตาตัวเองอย่างหนึ่ง พวกเจ้าอยากรู้หรือไม่ว่าเรื่องอะไร”

“ชิ! ทำเป็นพูดยั่วให้ข้าอยากรู้อย่างนั้นหรือ ข้าก็ไปร่วมการประมูลเหมือนกัน ฉะนั้นมีหรือข้าจะไม่รู้…แต่ถึงกระนั้นการประมูลครั้งนี้มีทั้งดีและไม่มีปะปนกันไป”

“โธ่เว้ย! หยุดพูดจายอกย้อนกันเสียที เล่ามาเร็วเข้า!”

“ก็ได้ ๆ เล่าให้เจ้าฟังสักคนก็คงไม่เสียหาย ในช่วงการประมูล มิใช่แค่นายน้อยใหญ่กับนายน้อยรองแห่งตระกูลซือคงที่มาเข้าร่วมเท่านั้น แม้แต่ศิษย์สายหลักนิกายสวรรค์ปฐพีที่ชื่อหลินโม่เซวียนกับซูเจี้ยนคง ผู้ที่กำลังเปล่งประกายดั่งพระอาทิตย์เที่ยงวันก็มาปรากฏตัวด้วย แค่ได้ยินชื่อของพวกเขา เจ้าก็น่าจะรู้ว่าการประมูลครั้งนี้ยิ่งใหญ่แค่ไหน”

“จริงด้วย ซือคงเหิน นายน้อยใหญ่ตระกูลซือคงเป็นผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางขั้นสมบูรณ์ และยังฝึกฝนวิชาปัญจพิษแปลงโลหิต อีกทั้งยังเข้าใจในเต๋ารู้แจ้งแห่งการกัดกร่อน ทำให้เขากลายเป็นคนที่น่าเกรงขามในบรรดาคนรุ่นเยาว์อีกคนหนึ่ง และไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหลินโม่เซวียนกับซูเจี้ยนคงเป็นผู้บ่มเพาะที่กำลังมาแรงที่สุดในกลุ่มคนรุ่นเยาว์ของนิกายสวรรค์ปฐพี มีทั้งคู่มาปรากฏตัวพร้อมกันในการประมูล ไม่อยากเชื่อเลยจริง ๆ”

“ถ้าเจ้าคิดว่าเมื่อพวกเขามาแล้วจะเป็นผู้นำการประมูลละก็ เจ้าคิดผิดถนัด สาเหตุที่ทำให้การประมูลครั้งนี้น่าตื่นเต้นเร้าใจเป็นเพราะจู่ ๆ ก็มีม้ามืดประมาณว่ากล้าได้กล้าเสียโผล่ขึ้นมา ขนาดสมบัติวิเศษที่ซือคงเหินหวังไว้มากก็โดนเจ้าม้ามืดคนนี้คว้าไปครองเสียได้ แต่เรื่องแค่นี้คงไม่เท่าไร ที่น่าตกใจก็คือระหว่างที่กำลังแข่งกันประมูลโอสถกำจายล้ำนั่นเอง พวกตระกูลซือคงแสดงท่าทียโสโอหังยิ่งนัก จนซูเจี้ยนคงที่มาในนามของนิกายสวรรค์ปฐพีต้องออกไปเตือนพวกตระกูลซือคงนิดหน่อย แต่ก็แค่ครั้งเดียวเท่านั้นจึงยังไม่เกิดเหตุขัดแย้งรุนแรง” เมื่อพูดถึงตรงนี้เขาก็หยุดนิ่งไป จนคนรอบข้างที่ตั้งใจฟังอยู่พากันมองมาอย่างใคร่รู้ ก่อนที่จะเอ่ยต่อมา “ใครจะคิดว่าผู้บ่มเพาะแปลกหน้าจะกลายเป็นม้ามืดเสนอราคาอย่างเปิดเผย และทำให้นายน้อยรองของตระกูลซือคงต้องยอมควักเพิ่มอีกสองแสนโอสถกลั่นแรกเริ่มเชียวล่ะ! ไม่เพียงแค่นั้นตอนหลังเขายังพูดทำนองเยาะเย้ยนายน้อยรองตระกูลซือคงให้ต้องอับอายอีกด้วย อย่างกับเขามาที่นี่เพื่อตบหน้าตระกูลซือคงอย่างนั้นล่ะ!”

“หา…โอสถกลั่นแรกเริ่มสองแสนเม็ด! ทำอย่างนั้นออกจะโหดไปหน่อยกระมัง สงสัยป่านนี้ตระกูลซือคงจะต้องเกลียดชังเจ้าหมอนั่นจนเข้ากระดูกดำไปแล้ว”

“แน่ล่ะ เวลานั้นทุกคนตกตะลึงกันหมด แม้ว่าตระกูลซือคงจะด้อยกว่านิกายสวรรค์ปฐพี แต่ก็เป็นกองกำลังผู้ทรงอิทธิพลแห่งเมืองเฟิงเย่ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตระกูลซือคงถูกคนอื่นตอกหน้าขนาดนี้ เห็นหรือยังว่าน่าตื่นเต้นจะตาย”

“โอหังอะไรเช่นนี้ เขาเป็นใครจึงกล้าทำพฤติกรรมร้ายกาจกับตระกูลซือคงเช่นนั้น”

“ข้าก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ข้าว่าเจ้านั่นน่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ใครที่เคยทำไม่ดีกับตระกูลซือคงมีหรือจะหนีรอดลอยนวลจริงไหม ไม่มีทาง! ตอนนี้ตระกูลซือคงคงวางแผนหาทางกำจัดเจ้านั่นแล้ว”

เรื่องที่เกิดขึ้นในการประมูลที่หอขุมทรัพย์สวรรค์เมื่อวานถูกยกขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นที่เอิกเกริกอยู่ภายในโรงเตี๊ยม โดยเฉพาะเรื่องของผู้บ่มเพาะที่ลุกขึ้นต่อกรกับตระกูลซือคงอย่างหาญกล้าบ้าบิ่น กำลังอยู่ในความสนใจของผู้คนทุกมุมเมือง

เขาเป็นใคร

ชื่อเสียงเรียงนามว่าอันใด

พลังบ่มเพาะอยู่ขั้นใด

ภูมิหลังที่มาของเขาเป็นอย่างไร?

ทั้งหมดเป็นเพียงการคาดคะเนของผู้บ่มเพาะที่อยู่ที่นั่น อาจเป็นข้อเสียเมื่อคนอยากรู้อยากเห็นในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้เห็นมาด้วยตนเอง

ครืนนนน!

ทันใดนั้นพลันเกิดปรากฏการณ์พลังประหลาดระเบิดขึ้นรอบนอกบริเวณโดยมีโรงเตี๊ยมอยู่ตรงกลาง พลังที่พรั่งพรูขึ้นมานั้นทั้งรุนแรงและเป็นปริศนา ด้วยมันปรากฏขึ้นเพียงชั่วครู่ก่อนจะหายวับไป ทำให้ทั้งโรงเตี๊ยมตกอยู่ในความเงียบงันทิ้งภาพจ้อกแจ้กจอแจก่อนหน้าไปจนสิ้น

เกิดอะไรขึ้นกันแน่

ทุกคนหันไปมองหน้ากัน ด้วยความที่ระลอกพลังหายไปอย่างรวดเร็ว คนเหล่านั้นจึงรู้เพียงว่าในโรงเตี๊ยมมีเหตุการณ์อะไรบางอย่างเกิดขึ้น แต่ไม่รู้ที่มาที่ไปของคลื่นพลังว่ามันคืออะไร อีกทั้งมันก็ไม่ได้ทิ้งร่องรอยใด ๆ ให้เห็นเลย

ภายในห้องรับรองพิเศษบนชั้นสองของโรงเตี๊ยม

เฉินซีนิ่งมองยันต์ชิ้นหนึ่งบนโต๊ะ ร่องลึกตรงหัวคิ้วบ่งชัดว่าเจ้าตัวเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าเพียงใด แววตามีร่องรอยของความตื่นตะลึง

ครู่ก่อน หลังจากที่เขาวาดโครงร่างและลากเส้นอักขระยันต์ขั้นสุดท้ายเสร็จสิ้นนั้น ที่บริเวณพื้นผิวของอักขระยันต์ได้ปรากฏระลอกพลังประหลาดพุ่งพรวดออกมา นับจากตั้งแต่ปรากฏออกมาจนกระทั่งหายไปเหมือนจะใช้เวลาชั่วอึดใจเดียวก็หายวับไปกับตา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]