บทที่ 295 หลุมพราง
บทที่ 295 หลุมพราง
เป็นเวลาสามวันติดต่อกัน เฉินซีดูคล้ายภูตผีวิญญาณป่าที่ท่องไปมาดั่งเงา เขาเข่นฆ่าเหล่าศัตรูในทุกซอกทุกมุมของป่านี้ อีกทั้งยังโจมตีอย่างรวดเร็วและเฉียบคม ทุกครั้งที่เขาลงมือจะทำให้ศิษย์ของตระกูลซือคงไม่อาจยิงพลุสุริยันได้ทันเวลา และล้มตายจากการถูกลอบโจมตีของเขาในทันที
ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา ชายหนุ่มมีความมั่นใจอย่างมากในการบดขยี้ผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางขั้นสมบูรณ์แบบเช่น หวงฝู่ฉงหมิงและคนอื่น ๆ หากเขาต้องต่อสู้กับพวกมัน
เมื่อรวมกับการใช้ปีกนภาดารกะที่รวดเร็วราวกับสายฟ้า การลอบสังหารบรรดาศิษย์ที่มีฐานการบ่มเพาะเพียงขอบเขตแกนทองคำหยินหยางขั้นกลางของตระกูลซือคง ก็ง่ายดายเป็นอย่างมากและไม่เปลืองแรงเลยสักนิด
ในช่วงเวลาสามวันนี้ ศิษย์ของตระกูลซือคงอีกหกคนได้ถูกพรากชีวิตไป และทุกครั้งที่ซือคงเหินได้พบศพของพวกเขา คนตายก็จะพบกับจุดจบและไร้ร่องรอยของชีวิตมานานแล้ว
ซือคงเหินโกรธแค้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับความกระวนกระวายและความไม่สบายใจที่มากขึ้นเรื่อย ๆ เขาออกคำสั่งอย่างแน่วแน่ให้ศิษย์เก้าคนที่รอดตายรวมตัวกันและรวบรวมกำลังของพวกเขา จากนั้นติดตามที่ข้างหลังของเขาขณะที่พวกเขาค้นหาไปทั่วผืนป่าด้วยกัน
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ไม่ว่าพวกเขาจะค้นหาด้วยวิธีใดก็ตาม พวกเขากลับไม่สามารถหาร่องรอยของเฉินซีเจอเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าเฉินซีได้หายไปในอากาศ
ภายใต้สถานการณ์ที่อยู่ในที่แจ้ง ในขณะที่ศัตรูของเขาซ่อนตัวอยู่ในเงามืด ซือคงเหินค่อย ๆ รู้สึกถึงภยันตรายที่คืบคลานเข้ามา และเขาไม่กล้าหาว่าเฉินซีเป็นเพียงผู้บ่มเพาะขอบเขตเคหาทองคำอีกต่อไป
ในบรรดาศิษย์ทั้งเก้าคนที่เสียชีวิตของตระกูลซือคง พวกเขาหกคนล้วนถูกสังหารด้วยกระบี่เพียงครั้งเดียว สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยตื่นตระหนก และบริเวณโดยรอบไม่มีร่องรอยของการต่อสู้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่อาจหลีกและถูกสังหารด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ในทางกลับกัน ศิษย์อีกสามคนก็ถูกบดขยี้ร่างกายจนกลายเป็นแอ่งเลือดเนื้อ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกเขาถูกทุบด้วยอาวุธหนักที่รุนแรงเป็นอย่างมาก และเสียชีวิตจากการถูกลอบโจมตีในทำนองเดียวกัน
สิ่งนี้ทำให้ซือคงเหินสามารถยืนยันได้ว่า ศัตรูมีสองคน คนหนึ่งมีความเร็วที่ไม่มีผู้ใดเทียบได้ มีความเข้าใจเกี่ยวกับภูมิประเทศและสถานการณ์ของการต่อสู้อย่างถ่องแท้ อีกทั้งยังมีวิธีการฆ่าที่เฉียบคมและมีทักษะสูง ส่วนอีกคนเชี่ยวชาญในการรอคอยอย่างอดทนและดูไม่มีพิษมีภัยก่อนเริ่มโจมตี แต่เมื่อเขาลงมือ มันจะเป็นการโจมตีที่รวดเร็วและรุนแรงอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ความคล้ายคลึงของทั้งสองคนนี้คือประสบการณ์การต่อสู้อันโชกโชนและการเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลงมือได้เหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไปอย่างสิ้นเชิง
เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูเช่นนี้ แม้แต่ซือคงเหินเองก็รู้สึกปวดเศียรเวียนเกล้า และเขาไม่เคยคิดเลยว่าสถานการณ์จะดำเนินไปถึงขนาดนี้ แต่เขาเป็นเหมือนลูกธนูที่พาดสายจนตึงและต้องยิงออกไป หากเขาถอนตัวออกไปในตอนนี้ ศิษย์เหล่านั้นจะต้องตายอย่างสูญเปล่า
“ทุกคนระวังตัวด้วย ข้าจะให้รางวัลแก่พวกเจ้าแต่ละคนเป็นโอสถกลั่นแรกเริ่มหนึ่งแสนเม็ด เมื่อเราจับเด็กบัดซบคนนี้ได้!” ในขณะนี้ ซือคงเหินทำได้เพียงแค่มอบรางวัลอันหนาหนัก เพื่อปลุกขวัญกำลังใจของทุกคน
ผลลัพธ์ที่ออกมาชัดเจนมาก เพราะเมื่อพวกเขาได้ยินว่าตนจะได้รับโอสถกลั่นแรกเริ่มหนึ่งแสนเม็ดเมื่อพวกเขาจับกุมเป้าหมายได้ จิตวิญญาณต่อสู้ของเหล่าศิษย์ตระกูลซือคงที่เหลืออยู่ต่างก็พลุ่งพล่าน และเผยให้เห็นถึงเจตนาฆ่าที่รุนแรง ในขณะที่ท่าทางสิ้นหวังของพวกเขาได้หายไปอย่างสิ้นเชิง
‘เฉินซีเอ๋ยเฉินซี ข้าสัญญาว่าจะให้รางวัลมหาศาลเพื่อจับตัวเจ้า ถ้าข้าปล่อยให้เจ้าหนีไปได้อีกครั้ง ข้าซือคงเหินจะเชือดคอเพื่อฆ่าตัวตาย!’ ซือคงเหินกล่าวอย่างดุเดือดในใจ และดวงตาของเขาก็เปล่งประกายแสงอันดุร้ายราวกับปรารถนาที่จะกลืนกินศัตรูของเขา
ในป่าทึบและมืดมิด บนต้นไม้ใหญ่ที่สูงกว่าสิบสองจั้ง มู่ขุยซึ่งถูกปกคลุมด้วยชั้นของกิ่งไม้และใบไม้ที่หนาทึบคุกเข่าข้างหนึ่ง ร่างกายของเขาในยามนี้เหมือนกับคันธนูที่ถูกดึงออกมาเต็มที่ ในขณะที่เขามองจากรอยแยกระหว่างใบไม้ไปยังร่างที่ปรากฏอยู่ในระยะไกล
ดวงตาสีเขียวหยกของเขานิ่งสงบและไร้ประกาย มีเพียงแววตาเท่านั้นที่เผยให้เห็นร่องรอยของความอดทนและเจตนาฆ่า
ร่างนั้นค่อย ๆ ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ และรูปร่างหน้าตาของซือคงเหินและคนอื่น ๆ ก็มองเห็นได้อย่างราง ๆ สีหน้าของมู่ขุยยังคงไม่เปลี่ยนแปลงราวกับว่าเขาเป็นคนตายที่ไร้ชีวิต และมีเพียงมือขวาของเขาที่จับกระบองหนามกระชับขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะค่อย ๆ คลายออก
เขาเป็นสัตว์อสูรหมาป่าที่เจ้าเล่ห์และโหดเหี้ยม ซึ่งรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะลอบโจมตีภายใต้สถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเขา ดังนั้นเขาจึงล้มเลิกที่จะลงมือ
ฟิ้ว!
กิ่งก้านและใบไม้ส่งเสียงเบาบาง ซึ่งเหมือนกับเสียงเสียดสีเมื่อสายลมอ่อนพัดมากระทบกับกิ่งและใบไม้ หากภายใต้สถานการณ์ปกติ มันจะไม่ดึงดูดความสนใจของใครเลยแม้แต่น้อย
แต่ในขณะนี้ ซือคงเหินผู้มีสมาธิจดจ่ออย่างเต็มที่มาตลอดทาง ได้เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วและเห็นหมาป่าสีเงินขนาดมหึมาที่มีปีกอยู่ที่ด้านหลัง กำลังพุ่งออกมาจากร่มเงาไม้ที่สูงสิบสองจั้งที่ตั้งอยู่ตรงนั้น และเคลื่อนตัวห่างออกไปอย่างรวดเร็ว
สัตว์อสูรดุร้ายสามารถพบเห็นได้ทุกที่ในเทือกเขาที่ไร้ขอบเขตนี้ ดังนั้นการปรากฏตัวของสัตว์อสูรหมาป่าจึงเป็นเรื่องธรรมดา แต่สิ่งที่ทำให้ซือคงเหินต้องรู้สึกยินดีก็คือ อุ้งมือของสัตว์อสูรหมาป่านั้นได้ถือกระบองหนามที่เขาโหยหามาตลอดทั้งวันทั้งคืน
‘เจ้าสัตว์อสูรตัวนี้ต้องเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มของเฉินซีแน่นอน!’
“ข้าจะไล่ตามเจ้าสัตว์อสูรหมาป่าตัวนั้นไป พวกเจ้าทุกคนรออยู่ที่นี่เพื่อรอรับคำสั่งของข้า และห้ามออกไปโดยปราศจากคำสั่งของข้าเป็นอันขาด!” การค้นพบร่องรอยของศัตรูของเขาทำให้ซือคงเหินรู้สึกตื่นเต้นจนอยากจะกู่ร้องขึ้นไปบนท้องฟ้า และเขาไม่ลังเลที่จะทะยานไล่ตามสัตว์อสูรหมาป่าไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด
เสียงของเขายังคงดังก้องอยู่ในอากาศ เมื่อซือคงเหินได้หายไปในป่าแล้ว และศิษย์ของตระกูลซือคงคนอื่น ๆ ก็ตกตะลึงเมื่อเห็นสิ่งนี้ “หรือว่านายน้อยใหญ่พบร่องรอยของศัตรูแล้ว?”
“อ้า!” เสียงร้องอันน่าสมเพชและโหยหวนดังออกมา ทำลายความเงียบงันภายในป่าอันมืดมิด ซึ่งดูเหมือนกับเสียงครวญครางของนกเค้าแมวที่ทำให้ความหนาวเหน็บแล่นพล่านไปถึงกระดูกสันหลัง
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่พวกเขาตกตะลึง ร่างสีดำได้ปรากฏขึ้นจากอากาศบาง ๆ และพุ่งเข้าใส่กลุ่มของพวกเขาอย่างรวดเร็ว และด้วยการสะบัดข้อมือเบา ๆ ประกายแสงเย็นเฉียบก็พุ่งออกมาอย่างกะทันหันและสังหารหนึ่งในสหายของพวกเขาทันที
“เฮ้ย มันนี่แหละ เป้าหมายของเราในครั้งนี้!”
“บัดซบ! มันลอบสังหารคนของเราไปอีกหนึ่งคน! ตอนนี้มันได้เผยตัวตนออกมาแล้ว ระบายความโกรธแค้นของเราไปที่มันซะ!”
“พี่น้อง! ฆ่ามันซะ แล้วโอสถกลั่นแรกเริ่มหนึ่งแสนเม็ดจะเป็นของเรา!”
“ฆ่า!”
การตายของสหายของพวกเขาไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกมากนัก และแทบจะทันที ศิษย์ของตระกูลซือคงทั้งแปดคนที่ยังคงเหลืออยู่ ราวกับถูกฉีดด้วยสารกระตุ้นขณะที่พวกเขาตะโกนออกมาและเคลื่อนไหวเพื่อโจมตีเฉินซี
ร่างสีดำนี้ย่อมคือเฉินซีอย่างแน่นอน และปฏิกิริยาของคนเหล่านี้ก็อยู่ในแผนการของเขาแล้ว อันที่จริง ไม่ใช่แค่มู่ขุยที่ซ่อนตัวอยู่ที่นี่ เขาเองก็ซุ่มรออย่างเงียบ ๆ มานานแล้ว และเขากำลังรอช่วงเวลานี้เพื่อสังหารคนเหล่านี้ทั้งหมด!
การกระทำในการรวบรวมคนเหล่านี้ของซือคงเหิน ทำให้เฉินซีและมู่ขุยไม่มีโอกาสที่จะทำการลอบสังหารอีกต่อไป หากพวกเขาปล่อยให้สถานการณ์นี้ดำเนินต่อไป เขาและมู่ขุยก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่ถูกพบ ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจทันทีที่จะเริ่มโจมตี!
เพื่อให้การลงมือเป็นไปอย่างไม่มีที่ติ เฉินซีจึงได้สั่งให้มู่ขุยรออยู่บนต้นไม้ใหญ่ก่อนแล้ว ก่อนที่จะตั้งใจเผยตัวตนออกไปเล็กน้อยเพื่อดึงความสนใจของซือคงเหิน และล่อลวงให้อีกฝ่ายออกห่างจากคนอื่น ๆ เมื่อกลุ่มไม่มีผู้นำ เฉินซีย่อมสามารถฉวยโอกาสนี้และกำจัดมดปลวกเหล่านี้ได้
ในขณะนี้ ดูเหมือนว่าแผนการจะดำเนินไปอย่างราบรื่นมากกว่าครึ่ง ส่วนที่เหลือของแผนการคือการทำลายล้างคนเหล่านี้ในระยะเวลาสั้น ๆ ก่อนที่จะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยเหลือมู่ขุย และจัดการกับซือคงเหินซึ่งเป็นผู้นำในท้ายที่สุด
ฟิ้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...