บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 305

บทที่ 305 สตรีสองนาง

บทที่ 305 สตรีสองนาง

ทันทีที่แสงแรกของเช้าวันรุ่งขึ้นสาดส่อง หลังจากอาบน้ำอาบท่าแล้วเฉินซีและมู่ขุยได้ออกจากโรงเตี๊ยม ณ ขณะนั้นเมืองนภาครามก็คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมาพักใหญ่ ตามถนนหนทางที่กว้างขวางมีผู้บ่มเพาะจำนวนมากมายเดินขวักไขว่ไปมา มองเผิน ๆ จะเหมือนกับกระแสน้ำสีดำจากทุกสารทิศไหลมาบรรจบในที่เดียวกัน

ด้วยเหตุนี้จึงไม่จำเป็นต้องสอบถามเส้นทาง เพราะเฉินซีสามารถเดินตามผู้คนที่หลั่งไหลเพื่อไปถึงใจกลางเมืองนภาคราม ที่นั่นมีทะเลสาบกว้างใหญ่ซึ่งกินอาณาบริเวณนับพันลี้ ขณะนั้นเหนือทะเลสาบขึ้นไปมีการสร้างเป็นลานขนาดใหญ่โตโอฬารไว้ก่อนแล้ว บนนั้นคือสังเวียนประลองจำนวนสิบแปดสังเวียน

ลานนี้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของทะเลสาบ เพื่อให้สามารถรองรับผู้คนนับหมื่นที่มาชมการต่อสู้ประลองได้ พื้นลานปูด้วยโลหะเคลือบเงาสีดำ บนพื้นผิวยังประกอบด้วยค่ายกลป้องกันที่ปรมาจารย์ค่ายกลยันต์อักขระสร้างไว้มากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งสามารถต้านทานการโจมตีผู้บ่มเพาะขอบเขตสถิตกายาได้เป็นอย่างดี เวทีประลองทั้งสิบแปดสังเวียนจึงแข็งแกร่งมาก และเวลาประลอง ผู้เข้าแข่งขันทุกคนก็ไม่ต้องกังวลว่าอาจมีพลังบางอย่างรั่วซึมออกมาหรือเกรงสถานการณ์ที่เวทีอาจพังถล่ม

ดูเหมือนที่นี่จะเต็มไปด้วยฝูงชนมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ผู้คนเบียดเสียดยัดเยียดจนจำกัดการมองเห็นของพวกเขา ขณะเดียวกันเสียงโห่ร้องที่เอ็ดอึงดังสนั่นขึ้นไปบนฟ้าทำให้ชั้นก้อนเมฆกระจัดกระจายด้วยแรงสะเทือน

“หึ! แล้วไง…ถ้าผ่านการประลองตัวต่อตัวในรอบแรกไปได้ ผู้บ่มเพาะที่สามารถชนะติดต่อกันสิบรอบรวดก็ไม่ได้ยาก หรือบางคนอาจรวดเดียวยี่สิบรอบก็เป็นได้ แต่เรื่องที่จะชนะต่อเนื่องสามสิบรอบนี่สิยากเอาการ”

“จริงด้วยสิ ดูจำนวนครั้งของชัยชนะที่ได้รับ กระบวนท่า พลังบ่มเพาะ ระดับความเข้าใจเต๋าแห่งการต่อสู้ รวมทั้งการอ่านกลยุทธ์การต่อสู้ของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างเด็ดขาด จะทำให้คนอื่นที่มีพลังระดับเดียวสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้”

“แบบนี้การชนะติดต่อกันถึงหนึ่งร้อยรอบจะไม่ยิ่งยากเข้าไปอีกหรือ”

“ไม่ใช่แค่ยากธรรมดา ๆ ต้องบอกว่ายากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์เสียอีก ข้าฟังมาจากผู้บ่มเพาะรุ่นเก่า ๆ พวกเขาบอกว่าใช้ในการชุมนุมธารทองครั้งก่อน ถ้าผลมีผู้ชนะที่ชนะรวดหนึ่งร้อยรอบติดต่อกันสักสองสามคนถือว่าไม่เลวเลย”

“อ๋อ! เห็นเขาว่าผู้บ่มเพาะที่ได้รับชัยชนะหนึ่งร้อยรอบติดต่อกันจะได้รั้งอันดับหนึ่งร้อยคนของการชุมนุมดาวรุ่งในปีหน้าด้วยนะ ถ้าเป็นอย่างนั้นอย่าบอกนะว่าผู้บ่มเพาะที่รั้งอันดับหนึ่งร้อยคนของการชุมนุมดาวรุ่งเป็นพวกพิสดารน่ะ”

“ก็ทำนองนั้น ถึงอย่างไรโลกนี้ไม่มีวันขาดแคลนอัจฉริยะและยอดฝีมืออยู่แล้ว”

ในขณะที่เฉินซีกำลังต่อแถวนั้น เขาแอบได้ยินบทสนทนาของคนที่อยู่รอบข้าง แต่ไม่ได้ทำให้ตนรู้สึกสะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย เป้าหมายของชายหนุ่มไม่ได้จำกัดอยู่ที่การชุมนุมธารทองหรือการชุมนุมดาวรุ่งเท่านั้น ดังนั้นคำพูดเหล่านี้จึงไม่ส่งผลให้เขาเสียสมาธิแต่อย่างใด

ต่อมาไม่นาน เฉินซีก็เดินเข้าสู่บริเวณที่จะจัดการชุมนุมธารทองในรอบคัดเลือก

เขามองเห็นสังเวียนการประลองทั้งหมดสิบแปดสังเวียน ซึ่งห้อมล้อมไปด้วยบริเวณที่เป็นพื้นที่ของผู้เข้าชม บัดนี้มันเนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่เข้ามาก่อนหน้านั้นแล้วจำนวนมาก เสียงอึกทึกดังหนวกหูเคล้าไปกับเสียงสนทนาเหมือนจะก้องไปทั่วทั้งชั้นฟ้า

ทั้งที่เฉินซีไม่ได้มาช้าแต่อย่างใด ทว่าที่นั่งด้านหน้ารวมทั้งที่นั่งตรงกลางต่างเต็มเสียแล้ว และเหลือเพียงที่นั่งซึ่งอยู่ห่างออกไปที่ยังว่างอยู่

การจัดที่นั่งของที่นี่จัดว่ามีศิลปะอย่างแท้จริง ด้วยที่นั่งมุมดีจะสามารถมองเห็นการแข่งขันบนเวทีประลองได้ทั้งหมด เชื่อได้ว่าผู้เข้าชมจะไม่พลาดส่วนที่น่าสนใจของการประลองอย่างแน่นอน ยิ่งกว่านั้นคนอื่นยังจะได้โอกาสเรียนรู้อีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ อาทิเช่น ทักษะการต่อสู้ กลยุทธ์และอื่น ๆ อีกมากมาย

แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เฉินซีสนใจ เขากำลังกวาดสายตามองหาที่นั่งที่ห่างออกไป จากนั้นพลันสังเกตเห็นสตรีผู้หนึ่งทำท่าโบกไม้โบกมือเรียกมาจากที่นั่งด้านหน้า

สตรีสวมผ้าคลุมดำ คิ้วเรียวเข้มและนัยน์ตาเป็นประกายดั่งดวงดาว ผิวขาวราวกับปุยหิมะ เรือนร่างบอบบางทว่าทรงเสน่ห์ หน้าผากกลมมนเกลี้ยงเกลาบ่งบอกถึงความเชื่อมั่นในตัวเองและสติปัญญาของเจ้าตัว… แม่นางย่าชิงแห่งหอขุมทรัพย์สวรรค์

“ท่านก็มาด้วยหรือ” เฉินซีเดินตรงเข้าไปหาก่อนจะเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ

“คิดว่าเป็นท่านมาได้คนเดียวหรือไร เร็วเข้า…รีบนั่งลง” ย่าชิงชี้ไปตรงที่นั่งว่างข้างตัวนาง ดูเหมือนว่านางตั้งใจจะเก็บที่นั่งตรงนี้ไว้ให้เฉินซีอยู่แล้ว

“นายท่านไปนั่งกับนางเถอะขอรับ ส่วนข้าจะไปหาที่นั่งที่อื่น” มู่ขุยเป็นผู้มีไหวพริบ เขาพูดไม่ทันขาดคำก็หายตัวเข้าไปในฝูงชนเสียแล้ว

ชายหนุ่มจึงทรุดตัวลงนั่งทันทีอย่างมั่นใจพลางหันไปมองรอบข้างก่อนจะพูดยิ้ม “ที่นั่งตรงนี้ไม่เลวเลย ตั้งอยู่ตรงกลางพอดีทำให้มุมมองกว้างไกล พอจะพิจารณารายละเอียดบนเวทีประลองได้ครบทั้งสิบแปดสังเวียนอย่างชัดเจนทีเดียว”

จากนั้นเขาก็หันกลับมาถามคนนั่งข้าง “จริงสิ ท่านก็มาร่วมประลองด้วยหรือ”

“มิได้ ข้าแค่ผ่านมาจึงแวะเข้ามาชมเท่านั้น นับจากวันที่เราพบกันโดยบังเอิญตอนนั้น ท่านคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญอย่างนั้นหรือ” ริมฝีปากอิ่มสีแดงของย่าชิงคลี่ยิ้มเล็กน้อยขณะจีบปากจีบคอพูด เผยให้เห็นไรฟันยิ่งทำให้น่ารักชวนมอง

“ก็มันบังเอิญจริง ๆ นี่” เฉินซีพยักหน้าง่าย ๆ

“อย่างนี้เขาเรียกว่าพรหมลิขิต…ฟ้าลิขิตให้พวกเราได้พบกันไม่ว่าใครก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้” ย่าชิงจ้องหน้าชายหนุ่มตรง ๆ ดวงตาเป็นประกายพราวราวกับแสงดาวของนางสื่อความหมายที่เข้าใจได้ยาก

“อะแฮ่ม…” ซินฮวนผู้มีรูปลักษณ์ธรรมดาซึ่งนั่งติดกับย่าชิง เมื่อได้ยินเข้าถึงกับขยับนั่งตัวตรง ทั้งยังอดทำเสียงกระแอมออกไปเบา ๆ ไม่ได้พลางนึกในใจ ‘สตรีผู้นี้พูดปดได้หน้าตาเฉย ใครกันเล่าพอรู้ว่าเฉินซี กำลังมาร่วมการชุมนุมธารทองก็รีบแจ้นมาในชั่วข้ามคืนทันที…’

ฝ่ายชายหนุ่มฟังแล้ว แม้เขาจะรู้ถึงความนัยแห่งคำพูดนั้นเป็นอย่างดี ทว่าเขาก็ไม่อาจสนองตอบได้ ด้วยจะทำให้อีกฝ่ายคิดและจินตนาการเตลิดเปิดเปิงกันไปใหญ่ ดังนั้นจึงได้แต่เสเปลี่ยนเรื่องพูดคุยและมองเลยไปทางซินฮวนพลางเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “เขาผู้นี้คือ…”

“อ๋อ เขาเป็นผู้ติดตามของข้า ช่างเถอะ คิดเสียว่าเขาไม่ได้อยู่ตรงนี้ก็แล้วกัน” ย่าชิงยกยิ้มที่มุมปาก สายตาตวัดไปทางซินฮวนโดยมิได้กราดเกรี้ยวแต่อย่างใด ทั้งที่นึกตำหนิอีกฝ่ายอยู่ในใจโทษฐานที่มาขัดจังหวะ ‘เรื่องดี’ ของนาง

เฉินซียิ้ม จากนั้นเขาก็ไม่พูดอะไรอีก เขามีหรือจะไม่สามารถแยกแยะได้ว่าชายวัยกลางคนที่มีลักษณะภายนอกธรรมดาคนนี้เป็นผู้บ่มเพาะที่ไม่ชอบทำตัวโดดเด่น แต่ในเมื่อย่าชิงไม่พูดถึง ครั้นเขาจะถามก็คงไม่ดีนัก

“คู่ต่อสู้ในรอบแรกของเจ้าต้องเจอกับชิวเยี่ยน คนผู้นี้มีนิสัยชั่วเมื่อคืนที่ภัตตาคารบุปผามุก ข้าได้ยินเขาพูดจาไม่ดีเกี่ยวกับตัวท่านด้วย เจ้าต้องสั่งสอนให้มันได้รู้สำนึกเสียบ้าง” ย่าชิงกระซิบ “คงไม่ต้องบอกนะว่าข้าเดิมพันข้างท่านเอาไว้ด้วยโอสถกลั่นแรกเริ่มหนึ่งแสนเม็ด เพราะฉะนั้นถ้าท่านแพ้จะต้องชดใช้ให้ข้าด้วย!”

คนฟังเลิกคิ้วขณะย้อนถามกลับทันที “แต่ข้าไม่ได้ขอให้ท่านเดิมพันให้ข้าชนะไม่ใช่หรือ”

“ถ้าเช่นนั้นหมายความว่า ถ้าแพ้ท่านจะไม่ชดใช้ให้ข้าสินะ” สตรีทำหน้าน่าสงสารขณะเม้มริมฝีปากเคลือบสีแดงปลั่งดั่งผลเชอร์รีจนแน่น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]