บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 324

บทที่ 324 เมืองอีกาคลั่ง

บทที่ 324 เมืองอีกาคลั่ง

การเดินทางจากเมืองนภาครามไปยังนครหลวงธารสายไหมนั้น เป็นหนทางที่ยาวไกล เนื่องจากมันอยู่ห่างออกไปถึงสองแสนห้าหมื่นลี้

แต่ด้วยระยะทางดังกล่าวสำหรับเฉินซี หากเขาใช้ปีกนภาดารกะเพื่อบินอย่างเต็มกำลัง ก็จะใช้เวลาในการเดินทางเพียงสามวันเท่านั้น

แต่เขาไม่อาจทำเช่นนั้นได้

ในฐานะที่เป็นกลุ่มมือสังหารที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในโลก กองกำลังของตำหนักตะวันดำจึงมีขนาดใหญ่มากจนแม้แต่ราชวงศ์ซ่งเองก็ไม่อาจจะทำสิ่งใดกับพวกมันได้ และทำได้เพียงแต่ปิดตาข้างหนึ่งเพื่อแสร้งเป็นมองไม่เห็นต่อการกระทำของตำหนักตะวันดำ เนื่องจากพวกมันมุ่งเป้าไปที่เฉินซี พวกมันจะไม่มีทางมองข้ามช่องโหว่เล็ก ๆ เช่นนี้อย่างแน่นอน

เฉินซีเดาว่าน่านฟ้าระหว่างเมืองนภาครามกับนครหลวงธารสายไหมนั้นอาจถูกตำหนักตะวันดำปิดกั้นอย่างแน่นหนาเอาไว้แล้ว ซึ่งทันทีที่เขาเปิดเผยร่องรอยของตนเองบนท้องฟ้า เขาจะต้องเผชิญกับการลอบสังหารที่รุนแรงเด็ดขาดของตำหนักตะวันดำอย่างแน่นอน

ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย เฉินซีจึงตัดสินใจที่จะเดินทางบนพื้นดินแทน

แม้ว่าการทำเช่นนี้จะทำให้การเดินทางล้าช้ากว่าสองเท่า แต่เมื่อเทียบกับท้องฟ้าที่ไม่มีที่ให้หลบซ่อนเลย เห็นได้ชัดว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาสามารถใช้เพื่อปกปิดร่องรอยของเขา เช่น ภูเขา ป่าไม้ แม่น้ำ เมือง… ถ้าพวกมันถูกใช้ได้อย่างเหมาะสม พวกมันจะสามารถปกปิดร่องรอยของเขาได้อย่างไร้ที่ติ

ในระหว่างเส้นทางจากเมืองนภาครามและนครหลวงธารสายไหมนั้นมีเมืองตั้งอยู่หลายสิบแห่ง เมืองที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาเมืองเหล่านี้คือเมืองเมฆาทมิฬ เมืองพฤกษาขจรและนครอสนีบาต ส่วนเมืองอื่น ๆ ล้วนเป็นเมืองขนาดกลาง

เมืองเมฆาทมิฬ เมืองพฤกษาขจร และนครอสนีบาตเป็นเหมือนกำแพงกั้นที่ล้อมรอบนครหลวงธารสายไหมเป็นรูปครึ่งวงกลม โดยมีเมืองพฤกษาขจรตั้งอยู่ที่ตรงกลาง เมืองเมฆาทมิฬตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกและอยู่ใกล้กับทะเลตะวันออก ส่วนนครอสนีบาตตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกและมีพรมแดนติดกับทะเลอัสนีทางทิศตะวันตกสุด

เนื่องจากการมีอยู่ของเมืองทั้งสามนี้ เส้นทางที่มุ่งจากเมืองนภาครามไปสู่นครหลวงธารสายไหมจึงถูกแบ่งออกเป็นสามทาง

ในเส้นทางเหล่านี้ เส้นทางของเมืองพฤกษาขจรนั้นสั้นที่สุดและปลอดภัยที่สุด มีเมืองกระจายอยู่ตามเส้นทางมากมายและไม่มีจุดอันตรายใด ๆ ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่จึงเลือกเดินทางผ่านเส้นทางนี้

เส้นทางของเมืองเมฆาทมิฬเป็นอันดับสอง ระยะทางของมันนั้นมากกว่าเมืองพฤกษาขจรถึงสองเท่า อีกทั้งยังต้องอ้อมหรือข้ามผ่านแม่น้ำอันตรายหลายสายตลอดเส้นทาง มีผู้คนจำนวนมากเลือกเดินทางผ่านทางนี้เช่นกัน แต่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นกองคาราวานพ่อค้า เนื่องจากเมืองเมฆาทมิฬตั้งอยู่ใกล้กับทะเลตะวันออก ทำให้พวกเขาสามารถเลือกซื้อสมบัติล้ำค่ามากมายจากทะเลตะวันออกที่อุดมสมบูรณ์ได้ตลอดเส้นทาง

ส่วนเส้นทางของนครอสนีบาตนั้นมีความอันตรายที่สุดในบรรดาเส้นทางทั้งสามสาย และมันอันตรายถึงขั้นที่ถูกเลิกใช้มาหลายร้อยปี เนื่องจากไม่มีใครเต็มใจที่จะย่างกรายเข้าไปที่นั่นและล้อเล่นกับชีวิตของพวกเขา

เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ เป็นเพราะเส้นทางจากเมืองนภาครามไปยังนครอสนีบาตและมุ่งไปยังนครหลวงธารสายไหมนั้น เต็มไปด้วยแนวเทือกเขาที่อันตรายและน่าสะพรึงกลัว อีกทั้งยังมีป่าโบราณที่มีสัตว์อสูรดุร้ายออกอาละวาด หรือแม้แต่ดินแดนเยือกแข็งที่เต็มไปด้วยพายุน้ำแข็งโหมกระหน่ำ… ด้วยเหตุนี้ เส้นทางนี้จึงเต็มไปด้วยอันตรายอยู่ทุกฝีก้าวและจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งแทบไม่มีที่ปลอดภัยให้หลบพักเลยแม้แต่แห่งเดียว

ในช่วงหลายร้อยที่ผ่านมา มีผู้บ่มเพาะบางคนที่รู้สึกว่าพลังของพวกเขาแกร่งกล้า และต้องการท้าทายขีดจำกัดด้วยการเข้าสู่เส้นทางที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าในทุกฝีก้าว แต่ท้ายที่สุดก็ไม่มีใครที่รอดชีวิตและมาถึงนครอสนีบาตก่อนที่จะเข้าสู่นครหลวงธารสายไหมได้สำเร็จเลยสักคน นับแต่นั้นเป็นต้นมา เส้นทางนี้จึงถูกเลิกใช้ไป และไม่ค่อยมีใครกล้าย่างกรายเข้าไป

แต่ก็มีข้อยกเว้นอยู่บ้างเช่นกัน เมื่ออาชญากรที่ดุร้ายและชั่วช้าซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของนิกายต่าง ๆ ถูกบีบบังคับจนไม่มีทางเลือกอื่นอีก พวกเขาจะเลือกใช้เส้นทางนี้และอาศัยอันตรายต่าง ๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม ด้วยวิธีนี้ พวกเขาจึงสามารถหลบหนีจากการไล่ล่า แต่การกระทำเช่นนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการแสวงหาความตาย

เพราะจวบจนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีผู้หลบหนีคนใดที่สามารถก้าวเท้าออกมาจากมันได้เลยสักคนเดียว!

แต่ทั้งหมดนี้เป็นความประหลาดใจที่น่ายินดีสำหรับเฉินซี เท่าที่เขากังวล การเดินทางในสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยอันตรายและเจตนาฆ่านั้นมีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก แต่ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เขาสามารถใช้อันตรายเหล่านี้ เพื่อรับมือกับการลอบทำร้ายจากนักฆ่าที่ตำหนักตะวันดำส่งมาเพื่อจัดการกับเขา

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เส้นทางนี้เป็นสังเวียนแห่งชีวิตและความตายโดยธรรมชาติ!

เมื่อต่อสู้ในสถานที่แห่งนี้ มีความเป็นไปได้ที่ตัวแปรต่าง ๆ จะเกิดขึ้นและตราบใดที่เขาสามารถใช้ตัวแปรเหล่านี้ได้อย่างเหมาะสม การที่เขาจะบดขยี้การลอบสังหารของตำหนักตะวันดำก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย

ดังนั้นเมื่อเขาเห็นเส้นทางเหล่านี้ในแผนที่ เฉินซีจึงเลือกเส้นทางสายนี้โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย และเขาได้ตัดสินใจออกจากเมืองนภาครามเพื่อเดินทางไปยังนครหลวงธารสายไหมโดยผ่านนครอสนีบาต!

ครึ่งเดือนหลังจากการชุมนุมธารทองสิ้นสุดลง

ในวันนี้ ท้องฟ้าสีครามปลอดโปร่งสดใส เนื่องจากดวงอาทิตย์ที่งดงามส่องแสงมาจากเบื้องบน มีรถม้าเกล็ดแดงที่ถูกลากโดยอาชาเกล็ดแดงสิบสามตัวกำลังออกจากเมืองนภาครามด้วยความเร็วดุจสายฟ้า

รถม้าเกล็ดแดงที่เขาโดยสารอยู่นี้มีความยาวราวร้อยยี่สิบจั้งและกว้างประมาณสิบสองจั้ง ซึ่งสามารถรองรับคนได้มากกว่าร้อยคน รถม้านี้เป็นของผู้พิทักษ์วิญญาณแห่งราชวงศ์ซ่งและถูกใช้เป็นพาหนะเพื่อขนส่งผู้คนระหว่างเมืองโดยเฉพาะ และไม่ใช่แค่ผู้บ่มเพาะที่สามารถโดยสารได้เท่านั้น แม้แต่คนธรรมดาทั่วไปก็สามารถโดยสารได้หลังจากที่พวกเขาจ่ายค่าโดยสาร

ว่ากันว่ามีรถม้าสมบัติขนาดใหญ่ประเภทหนึ่งที่มีนามว่ารถม้าเยือกจันทรา ซึ่งมีระดับเหนือกว่ารถม้าเกล็ดแดง มันสามารถรองรับคนได้นับพัน ทั้งยังมีการป้องกันที่แข็งแกร่งและสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ข้อเสียเพียงอย่างเดียวคือค่าโดยสารของมันค่อนข้างแพง แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่เฉินซีไม่เลือกรถม้าเยือกจันทรา เหตุผลที่แท้จริงก็คือขั้นตอนในการโดยสารรถม้าเยือกจันทรานั้นเข้มงวดเป็นอย่างยิ่ง และเฉินซีก็ไม่ต้องการเปิดเผยเส้นทางของเขาทันทีที่เขาออกจากเมืองนภาคราม

แม้ว่าความสามารถในการป้องกันของรถม้าเกล็ดแดงจะถือได้ว่าธรรมดา แต่ก็มีผู้บ่มเพาะนับสิบคนเป็นผู้คุ้มกัน พวกเขาล้วนเป็นสมาชิกของผู้พิทักษ์วิญญาณแห่งราชวงศ์ซ่ง และเป็นตัวแทนของราชวงศ์ซ่งอันยิ่งใหญ่ ด้วยเหตุนี้ กลุ่มโจรที่เฝ้าจับตามองรถม้าเกล็ดแดงจึงไม่ค่อยเป็นที่พบเห็น

เพราะท้ายที่สุดแล้ว การกระทำเช่นนี้เท่ากับเป็นการล่วงเกินศักดิ์ศรีของราชวงศ์ซ่ง และถ้าใครกล้ากระทำในลักษณะนี้ คนผู้นั้นจะต้องถูกกองกำลังของราชวงศ์ซ่งล้างแค้น!

แน่นอนว่าในโลกนี้ไม่มีวันขาดแคลนผู้สิ้นหวังที่ไม่สนใจชีวิตของพวกเขา แต่นับว่าโชคดีที่รถม้าเกล็ดแดงมีทรัพย์สินไม่มากนัก เนื่องจากลูกค้าที่โดยสารอยู่นั้น ส่วนใหญ่เป็นคนธรรมดาที่ยากจนและไม่ค่อยมีเงินในกระเป๋า ดังนั้นจึงมีโจรไม่กี่กลุ่มที่รู้สึกสนใจมัน

เฉินซีสังเกตเห็นว่าผู้คุ้มกันของรถม้าเกล็ดแดงคันนี้ค่อนข้างแข็งแกร่ง พวกเขาล้วนมีประสบการณ์และมีความสามารถค่อนข้างมาก ฐานการบ่มเพาะของพวกเขาน่าจะอยู่ที่ประมาณขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง ดังนั้นด้วยการมีอยู่ของพวกเขา อย่างน้อยก่อนที่จะถึงเมืองอีกาคลั่ง เขาก็ไม่ต้องกังวลกับความปลอดภัยในการเดินทาง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]