บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 338

บทที่ 338 กับดักล้างผลาญศัตรูสิ้น

บทที่ 338 กับดักล้างผลาญศัตรูสิ้น

เพล้ง!

หวงฝู่จิ่งเทียนไม่สามารถควบคุมความโกรธในใจของเขาได้อีกต่อไป และบดขยี้จอกสุราในมือทิ้งอย่างรุนแรง

ดวงตาของตัวประหลาดเฒ่าคนอื่น ๆ ก็ลุกโชนด้วยเปลวเพลิงแห่งความโกรธเช่นเดียวกัน คนที่ต้องไปฆ่ากลับถูกฆ่า? เป็นเพียงมดปลวกตัวเล็ก ๆ แต่กล้าที่จะขู่เตือนพวกเขาด้วยคำพูดเช่นนี้? หาที่ตาย!

ในฐานะผู้บ่มเพาะขอบเขตเซียนปฐพี พวกเขาจะเคยถูกยั่วยุขนาดนี้มาก่อนได้อย่างไร?

ไม่!

แม้ว่าจะหาไปทั่วทั้งแผ่นดินซ่ง แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะโชว์เขี้ยวเล็บของตนต่อหน้าผู้บ่มเพาะขอบเขตเซียนปฐพีอย่างพวกเขาอยู่แล้ว!

แต่เฉินซีกลับทำมันและยั่วยุอย่างเปิดเผย!

สัตว์ประหลาดชราเหล่านี้โกรธมากจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง ยามนี้พวกเขาไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าฉีกมิติข้ามไปนับล้านลี้เพื่อสังหารเฉินซีอีกแล้ว

“เข้ามานี่ที!” หวงฝู่จิ่งเทียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มกังวานดุจฟ้าร้อง สั่นสะเทือนไปทุกทิศทุกทาง เขาไม่ได้เก็บซ่อนความโกรธที่พลุ่งพล่านของเขาแม้แต่น้อย

“นายท่าน มีรับสั่งสิ่งใดหรือขอรับ?” ชายชราที่ดูเหมือนหัวหน้าคนรับใช้ปรากฏตัวขึ้นในพื้นที่ว่างเปล่าอย่างรวดเร็วด้วยท่าทางที่นอบน้อม แต่ในใจของเขากลับสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว เนื่องจากสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่กดข่มจนแทบจะหายใจไม่ออกอัดแน่นอยู่เต็มอากาศ

“บอกตำหนักตะวันดำว่าหากภารกิจนี้ล้มเหลว ข้าและทุกคนที่อยู่ที่นี่จะไม่มีวันปล่อยพวกเขาไปโดยเด็ดขาด! หากจำเป็นถึงขั้นนั้น เราจะลบตำหนักตะวันดำออกจากแผ่นดินซ่งเสีย ดังนั้นบอกให้พวกเขารีบจัดการสิ่งที่สมควรทำให้เรียบร้อยได้แล้ว!” ดวงตาที่เย็นชาของหวงฝู่จิ่งเทียนมีประกายสายฟ้าแลบผ่าน เขาไม่ได้ปกปิดจิตสังหารอันชั่วร้ายของเขาเลยแม้แต่น้อย

“ขอรับ” หัวใจของหัวหน้าคนรับใช้สั่นสะท้าน เขาไม่กล้าถามคำถามอะไรเพิ่มอีก และรีบจากไปในทันที

หลังจากที่เขาเก็บกระจกแห่งการแลกเปลี่ยนไปแล้ว เฉินซีก็มองไปที่ร่องรอยความเสียหายและซากศพทั่วพื้น สีหน้าไม่ได้แสดงอารมณ์อันใดออกมา เพราะในป่าที่เต็มไปด้วยอันตรายเช่นนี้ …มันไม่ใช่สถานที่ที่ดีที่จะเผยอารมณ์อ่อนไหวออกมา

เขาเริ่มกวาดสินทรัพย์ที่ได้จากการต่อสู้ครั้งนี้

เป้าหมายแรกของเขาคือจิ้งจอกแดง ชายหนุ่มสงสัยยิ่งนักเกี่ยวกับอาวุธที่เป็นสิ่วเหล็กสีทองที่สามารถควบแน่นกลายเป็นกรรไกรออกมาได้คู่นั้น

สิ่วสีทองยาวสามฉื่อคู่หนึ่งที่อยู่มือของจิ้งจอกแดงถูกเฉินซีชิงไปเป็นที่เรียบร้อย ไม่เพียงแค่นั้น เฉินซียังค้นเอาทุกอย่างบนตัวอีกฝ่ายไปด้วย

การปล่อยของให้เสียเปล่านับเป็นอุปนิสัยที่เฉินซีเกลียดชังอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะค้นจนทั่วทั้งกองกระดูกบนพื้น ศพที่ขาดกระจาย แขนขาขาดตามพื้น ก่อนจะพบเข้ากับสร้อยสีเลือดที่มีความหนาเท่านิ้วหัวแม่มือบนข้อมือของกุหลาบ ทำให้ดวงตาของชายหนุ่มทอประกายอีกครั้ง แต่เขาก็อดทนต่อแรงกระตุ้นที่อยากจะศึกษามันตรงนี้เอาไว้ทันที ก่อนที่จะเอามันไปใส่ไว้ในเจดีย์บำเพ็ญทุกข์

ครั้งนี้ นักฆ่าทั้งร้อยห้าคนได้เสียชีวิตลงที่นี่ คนเหล่านี้ล้วนมีฐานการบ่มเพาะอยู่ที่ขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง และมีประสบการณ์การต่อสู้หลายร้อยครั้ง ทว่าน่าเสียดายที่นอกเหนือจากการฉกชิงสมบัติวิเศษระดับปฐพีกองโตแล้ว เฉินซีก็ไม่ได้รับประโยชน์อื่นใดอีก เพราะมือสังหารเหล่านี้ไม่ได้พกคลังสมบัติมิติมาด้วยเลย

หากได้ลองคิดดู อาชีพนักฆ่านี้ทำให้พวกเขามักวนเวียนไปมาระหว่างความเป็นกับความตายอยู่เสมอ ดังนั้นคนพวกนี้ก็ย่อมเตรียมพร้อมสำหรับความตายก่อนที่จะปฏิบัติภารกิจ ฉะนั้นนอกจากอาวุธที่ทรงพลังที่สุดในมือแล้ว พวกเขาจึงไม่นำของมีค่าอื่น ๆ ติดตัวไปด้วยอยู่แล้ว

เฉินซีมองไปที่สมบัติวิเศษทั้งร้อยห้าชิ้นที่วางอยู่ตรงหน้าเขา

ในบรรดาสมบัติวิเศษเหล่านี้มีอาวุธอยู่หลากหลายชนิด อาทิ ดาบ หอก กระบี่ หรือแม้กระทั่งง้าวก็ยังมี บนสมบัติวิเศษเหล่านี้ทุกอันล้วนมีเครื่องหมายรูป ‘ดวงตา’ สลักอยู่

เห็นได้ชัดว่าสมบัติวิเศษทั้งหมดนี้ต่างก็ถูกสร้างโดยช่างฝีมือคนเดียวกัน และเครื่องหมายรูป ‘ดวงตา’ นี้ก็น่าจะเป็นเครื่องหมายเฉพาะของคนผู้นั้น

แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือผู้บ่มเพาะคนอื่นไม่สามารถใช้สมบัติวิเศษเหล่านี้ได้เลย!

เฉินซีสามารถบอกได้อย่างรวดเร็วว่า สมบัติวิเศษเหล่านี้ถูกสร้างและได้รับการปรับแต่งมาเพื่อมือสังหารเหล่านี้ สมบัติวิเศษแต่ละชิ้นสามารถใช้ได้เพียงมือสังหารที่เป็นผู้ครอบครองเท่านั้น หากผู้อื่นส่งปราณแท้ของพวกเขาลงไป มันจะทำให้โครงสร้างภายในของสมบัติวิเศษเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น และทำให้พวกมันกลายเป็นแค่กองเศษเหล็ก

นี่เป็นข้อจำกัดที่ถูกเพิ่มเข้ามาในสมบัติวิเศษโดยผู้สร้าง หากเขาต้องการที่จะลบข้อจำกัดนี้ออกไป วิธีเดียวที่จะทำได้ก็คือการแยกส่วนสมบัติวิเศษ แต่ด้วยวิธีนี้ มันไม่ต่างอะไรกับการทำลายพวกมันทิ้ง

“ถึงแม้เจ้าจะตาย เจ้าก็จะไม่ยอมทิ้งสมบัติไว้ให้ใคร ตำหนักตะวันดำช่างตระหนี่ยิ่งนัก” เฉินซีถอนหายใจ เดิมทีเขายังคิดว่าเมื่อไปถึงนครหลวงธารสายไหม เขาจะขายสมบัติวิเศษเหล่านี้ทั้งหมด แล้วรับเอาความมั่งคั่งจำนวนมหาศาลที่น่าตกใจไป แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะทำได้เพียงทิ้งความคิดนี้ไปแทน

“ข้าควรใช้โอกาสหาเวลาศึกษาข้อจำกัดของสมบัติวิเศษเหล่านี้ บางทีมันอาจจะมีทางแก้ไขอยู่บ้าง อย่างน้อยที่สุด หากล้มเหลว ข้าก็ยังสามารถป้อนพวกมันให้ไป๋คุยได้ ไม่ว่าอย่างไร เจ้าตัวเล็กก็นั่นกินทุกอย่างอยู่แล้ว ดังนั้นมันคงไม่ปฏิเสธสิ่งล่อใจอย่างสมบัติวิเศษระดับปฐพีหรอก… ” เฉินซีส่ายหัว เขาไม่คิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไปและเร่งจากไปในทันที

กลิ่นเลือดในที่แห่งนี้คละคลุ้งรุนแรงมาก และในไม่ช้าจะมีสัตว์อสูรมากมายที่ได้กลิ่นเลือดก็จะรุมเข้ามาที่นี่

เดี๋ยวก่อน!

เฉินซีรู้สึกเหมือนว่าตนได้มองข้ามอะไรบางอย่างไป…

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]