บทที่ 341 การล่มสลายอย่างต่อเนื่อง
บทที่ 341 การล่มสลายอย่างต่อเนื่อง
โอม!
คลื่นพลังงานผันผวนได้ดูดดึงความสนใจของเฉินซีที่อยู่ในเงามืด ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นขณะที่จิตสัมผัสเทพของเขาแผ่กระจายออกไป ในเวลาไม่นาน เขาก็เข้าใจทุกสิ่งที่เกิดขึ้น มันคือความผันผวนที่เกิดจากยันต์เคลื่อนเอกภพ ซึ่งเจียงซวินและคนอื่น ๆ ได้หายไปพร้อมกับมัน
ร่องรอยความเย้ยหยันเบาบางปรากฏขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
มุมปากของเฉินซียกยิ้มเยาะ “มือสังหารแห่งตำหนักตะวันดำที่มีชื่อเสียงเลื่องลือก็หลบหนีเป็นเช่นกันหรือ?”
นับตั้งแต่เข้าสู่เมืองอีกาคลั่งจนถึงช่วงเวลาแห่งการต่อสู้ที่ยากลำบากในป่าทมิฬ ร่างกายของเขาอยู่ในสภาพตึงเครียดตลอดเวลา และภายใต้การกระตุ้นของภยันตรายต่าง ๆ ที่ชายหนุ่มเผชิญ สภาพจิตใจ การบ่มเพาะ และความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเขาก็มีการก้าวหน้าเป็นอย่างมาก
ก่อนที่กลุ่มของเจียงซวินจะปรากฏตัว การขัดเกลาปราณภายในของเขาก็ได้ทะลวงผ่านอีกครั้ง จนบรรลุขอบเขตแกนทองคำหยินหยางขั้นสูง และการบ่มเพาะกายาของเขาก็บรรลุถึงขอบเขตแกนทองคำหยินหยางขั้นกลางแล้วเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ จึงอาจถือได้ว่าการบ่มเพาะของเขามีความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด และมันก็พัฒนาขึ้นอย่างมั่นคง
เมื่อเทียบกับการบ่มเพาะ ความก้าวหน้าในการทำความเข้าใจเต๋ารู้แจ้งของเขานั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
ธาตุทั้งห้า หยินหยาง ดารา อัสนี วายุ นภา… แม้แต่เต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาและเต๋ารู้แจ้งแห่งการลืมเลือนก็มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก
หากยึดตามสี่ขอบเขตและสิบสองระดับของเต๋ารู้แจ้ง ธาตุทั้งห้า หยินหยาง วายุ อัสนี และเต๋ารู้แจ้งแห่งนภาที่เขาหยั่งรู้เมื่อนานมาแล้ว ต่างก็บรรลุถึงระดับที่เจ็ดของขอบเขตเริ่มต้น
สิ่งนี้คงไม่สามารถทำได้สำเร็จ หากปราศจากการบ่มเพาะของคัมภีร์กระบี่หมื่นบรรจบ ท้ายที่สุด กระบวนกระบี่ที่ยิ่งใหญ่ทั้งแปดท่าที่บันทึกอยู่ในคัมภีร์นั้นมีมหาเต๋ามากมายที่ครอบคลุมธาตุทั้งห้า หยินและหยาง แม้แต่กระบี่เฉียนแห่งนภาเองก็ยังเป็นตัวแทนของมหาเต๋าแห่งนภา และเฉินซีมักจะใช้มันในการต่อสู้อยู่เสมอ ดังนั้นความเข้าใจในเต๋ารู้แจ้งของเขาจึงเพิ่มขึ้นไปพร้อม ๆ กับการใช้มันนั้นเอง
ทว่าเต๋ารู้แจ้งแห่งดารานั้นกลับพัฒนาได้ช้าเป็นอย่างมาก แต่มันก็บรรลุถึงระดับที่หกของขอบเขตเริ่มต้นเช่นกัน ซึ่งสิ่งนี้ไม่สามารถทำได้สำเร็จ หากปราศจากการบ่มเพาะวิชาร่างแปลงดาราสังหารเอกภพและจินตภาพถึงรูปปั้นเทพเจ้าฝูซีตลอดทั้งวันทั้งคืน
เต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาและเต๋ารู้แจ้งแห่งการลืมเลือนนั้นเต็มไปด้วยความลึกลับและยากจะหยั่งถึง ซึ่งอันที่จริง เฉินซีแทบไม่เคยให้ความสนใจกับพวกมันเลย แต่เต๋ารู้แจ้งทั้งสองชนิดนี้ก็ได้รับการพัฒนาอย่างช้า ๆ อยู่ตลอดเวลา ในตอนนี้ เต๋ารู้แจ้งทั้งสองชนิดก็ได้บรรลุระดับที่ห้าของขอบเขตแรกรู้ และพวกมันก็อยู่ห่างจากการบรรลุขอบเขตเริ่มต้นอีกเพียงก้าวเดียว ซึ่งเป็นการพัฒนาที่น่าเหลือเชื่อ!
…อย่างไรก็ตาม จากการวิเคราะห์ของเฉินซี เต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาและเต๋ารู้แจ้งแห่งการลืมเลือนนั้นเกี่ยวข้องกับการนำทางและการสยบวิญญาณของคนตายหรือพลังลึกลับอื่น ๆ บางทีในขณะที่เขาลงมือสังหารศัตรูของเขา เมื่อได้พานพบกับชีวิตและความตายที่หลากหลาย มันก็อาจทำให้เขาเข้าใจเกี่ยวกับเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตาและเต๋ารู้แจ้งแห่งการลืมเลือนอย่างไม่รู้ตัว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พวกมันบรรลุถึงระดับดังกล่าว!
ดังนั้น การพัฒนาของเต๋ารู้แจ้งทั้งหมดของเขาก็เป็นสิ่งที่น่ายินดีอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะที่ผ่านมา เขาต้องพึ่งพาพลังของยันต์ศัสตราเพื่อดำเนินการโจมตีที่ทำให้เต๋ารู้แจ้งก่อรูปขึ้น แต่ในตอนนี้ชายหนุ่มไม่จำเป็นต้องพึ่งพายันต์ศัสตราในขณะที่ใช้วิชากระบวนยุทธ์ระดับเต๋าเพื่อบรรลุระดับดังกล่าวแล้ว
มันเป็นเพราะเต๋ารู้แจ้งและการบ่มเพาะของเขาพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทำให้ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเฉินซีพุ่งสูงขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งในตอนนี้ ไม่ต้องกล่าวถึงมือสังหารของตำหนักตะวันดำเหล่านี้ แม้ว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับชิงซิ่วอี้ ซึ่งเป็นเซียนสวรรค์กลับชาติมาเกิด เขาก็มีความมั่นใจที่จะเอาชนะนาง!
และการที่เจียงซวินกับคนอื่น ๆ กำลังหลบหนีหลังจากพ่ายแพ้อย่างยับเยิน ก็ได้พิสูจน์สิ่งนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
หลังจากประสบกับการล่าซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงหลายวันนี้ ทำให้ความโกรธในใจของเฉินซีสลายไปอย่างมาก และเขาคาดการณ์ได้อย่างราง ๆ ว่าตำหนักตะวันดำอาจจะไม่เคลื่อนเพื่อต่อต้านเขาอีกหลังจากการต่อสู้ในครั้งนี้ เว้นเสียแต่พวกเขาจะส่งมือสังหารที่มีฐานการบ่มเพาะเหนือกว่าขอบเขตแกนทองคำหยินหยางมา
แต่ตามความเข้าใจของเขาที่มีต่อกลุ่มเฒ่าประหลาดนั้น พวกมันคงไม่กล้ามอบความไว้วางใจให้ตำหนักตะวันดำทำสิ่งนี้อีก มิฉะนั้นจะเป็นการข่มเหงผู้เยาว์และจะทำให้ตระกูลไป๋ขุ่นเคืองอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ถ้าพวกเฒ่าประหลาดเหล่านี้ต้องการฆ่าเขาจริง ๆ ในขณะที่เสี่ยงจะทำให้ตระกูลไป๋ขุ่นเคือง คนพวกนั้นก็สามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง ทว่าเหตุใดพวกเขาถึงยอมจ่ายไปจำนวนมากเพื่อจ้างมือสังหารของตำหนักตะวันดำกัน?
หลังจากที่เขาได้ข้อสรุปของเรื่องนี้ เฉินซีก็ไม่กลัวภัยคุกคามของตำหนักตะวันดำอีกต่อไป
เขาคำนวณเวลาอยู่ครู่หนึ่งและตระหนักได้ว่ามีเวลาไม่ถึงหนึ่งปีก่อนที่การชุมนุมดาวรุ่งจะเริ่มขึ้น และหากเขาต้องรีบไปยังนครหลวงธารสายไหมจากที่นี่ เขาจะต้องผ่านลานศิลาภูตผี หุบเขาวิญญาณโลหิต ถ้ำอสูรน้ำแข็งและสถานที่อันตรายอื่น ๆ อีกมากมายก่อนที่จะผ่านนครอสนีบาตเพื่อไปยังนครหลวงธารสายไหม
หลังจากที่เขาคิดเรื่องนี้ทั้งหมดแล้ว เฉินซีก็ไม่รอช้าอีกต่อไป ก่อนที่จะหันหลังกลับเพื่อหายตัวไปในป่า
…
สามวันต่อมา
ข่าวได้ส่งกลับไปที่ตำหนักตะวันดำ หลังจากชุยซานซึ่งเจียงซวินเรียกว่าหัวหน้าหน่วย 7 ได้รู้ถึงเรื่องนี้ เขาก็เงียบเป็นเวลานาน และหลังจากไม่ทราบว่าผ่านไปนานเท่าใด เขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาในขณะที่ส่ายหัว
“ท่านอาจารย์ เหตุใดท่านถึงหัวเราะเล่าขอรับ?” ที่ด้านข้าง เด็กชายรูปงามที่มีอายุประมาณแปดหรือเก้าขวบที่สวมสร้อยคอทองคำได้เอ่ยถามออกไป
“ข้าหัวเราะให้กับความโง่เขลาของคนเหล่านี้ ความล้มเหลวในการลอบสังหารนั้นไม่มีค่าอะไรเลย แต่เมื่อพวกมันรู้ว่าไม่สามารถเอาชนะเป้าหมายได้ พวกมันกลับมีความคิดที่จะทรยศตำหนักตะวันดำ ดังนั้นพวกมันจึงสมควรตาย!” ชุยซานถอนหายใจเบา ๆ
ดวงตาสีดำขนาดใหญ่ของเด็กชายกลอกไปมาขณะที่กล่าวด้วยรอยยิ้ม “เหตุใดข้าถึงรู้สึกว่าท่านไม่ได้โกรธเลยสักนิดเล่า? แม้กระทั่งหลังจากที่ท่านได้ยินข่าวนี้ ท่านกลับรู้สึกสบายใจมากขึ้นแทน?”
ชุยซานไม่ได้ปฏิเสธและพยักหน้าขณะที่กล่าวว่า “ถูกต้อง ข้าคิดทบทวนซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าการปล่อยให้เฉินซีมีชีวิตอยู่นั้นก็เป็นเรื่องที่ดี ยิ่งไปกว่านั้น ข้าบังเอิญรู้ความลับอันยิ่งใหญ่จากท่านหญิงสุ่ยฮวาแห่งหอขุมทรัพย์สวรรค์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และความลับนี้ทำให้ข้าตัดสินใจยอมรับว่าล้มเหลวในการลอบสังหารมากกว่าที่จะโจมตีเฉินซีอีกครั้ง”
เด็กชายกล่าวด้วยความประหลาดใจ “ความลับอะไรหรือ?”
ชุยซานเลี่ยงการตอบคำถามด้วยการแย้มยิ้ม ทำให้ความคิดของเขาดูคาดเดาไม่ได้เล็กน้อย
“เฉินซีอาจจะไม่พอใจแม้ว่าท่านจะทำเช่นนี้ บางทีเขาอาจจะยังคงแค้นอยู่เพราะปฏิบัติการลอบสังหารก่อนหน้านี้” เด็กชายหัวเราะเบา ๆ แต่เขาไม่ได้ถามว่าความลับนั้นคืออะไรอีกต่อไป
“ที่ใดมีกำไร ที่นั่นย่อมมีการสูญเสีย แล้วถ้าเขาแค้นล่ะ? เมื่อเขาต้องการแก้แค้นตำหนักตะวันดำ ข้าคงปิดตัวบ่มเพาะสันโดษไปตั้งนานแล้ว ในเวลานั้น แม้ว่าเขาจะถอนรากถอนโคนและทำลายกองกำลังทั้งหมดของตำหนักตะวันดำ แล้วมันจะเกี่ยวข้องอะไรกับข้า?” ชุยซานเงียบเป็นเวลานานก่อนจะพึมพำว่า “ทว่าเรื่องของเฉินซีสามารถเพิกเฉยได้เพียงชั่วคราว ส่วนเจียงซวินและคนอื่น ๆ จะต้องถูกจับและนำกลับมาก่อนที่จะถูกตัดสินให้ประหารชีวิต เพราะกฎของตำหนักจะถูกทำลายเช่นนี้ไม่ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...