บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 365

บทที่ 365 นครหลวงธารสายไหม

บทที่ 365 นครหลวงธารสายไหม

สามวันต่อมา

กลุ่มของเฉินซีได้เข้าสู่ดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาล

ดินแดนแห่งนี้กว้างใหญ่และมากด้วยภูเขาโบราณที่สูงตระหง่าน และเมื่อพวกเขาเดินทางเข้าไปในที่แห่งนี้ เฉินซีก็ค้นพบด้วยความตกตะลึงว่า ท้องฟ้าและผืนดินอันอุดมสมบูรณ์และกว้างใหญ่นี้อบอวลไปด้วยกลิ่นอายโบราณ ธาตุต่าง ๆ ก็ตกอยู่ในความโกลาหล และการทำงานของสวรรค์ก็ถูกบดบัง ทำให้มันลึกล้ำยิ่งนัก

ราวกับว่าพวกเขาได้มาถึงยุคบรรพกาลเมื่อหนึ่งล้านปีก่อนในทันที มันอุดมสมบูรณ์และเก่าแก่ ทำให้คนคนหนึ่งสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่โบราณและห่างไกลอย่างไม่ได้ตั้งใจ

“ดินแดนอันกว้างใหญ่นี้มีมาตั้งแต่ยุคบรรพกาล ว่ากันว่ามีเส้นชีพจรมังกรนับสามพันสายอยู่ใต้พื้นดินและคอยปกป้องนครหลวงธารสายไหมด้วยการสะกดโชคชะตาของมัน” ย่าชิงพูดอย่างจริงจังและนางก็เต็มไปด้วยความเคารพต่อดินแดนโบราณแห่งนี้

หวังเจิ้นเฟิงพยักหน้าและกล่าวแทรกว่า “มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ โชคชะตาอยู่เหนือความลึกล้ำ แต่ก็มีอยู่จริงและครอบคลุมทั้งการทำงานของสวรรค์และโชคชะตาของทุกสิ่ง เหตุผลที่ราชวงศ์ซ่งสามารถยืนหยัดในโลกแห่งการบ่มเพาะเป็นเวลานับไม่ถ้วนโดยไม่เผชิญกับการทำลายล้างนั้นก็เป็นเพราะโชคชะตาที่ถูกสะกดอยู่ภายในเส้นชีพจรมังกรทั้งสามพันสาย แ ละว่ากันว่าประมุขแห่งหอวารีหมอกของทะเลตะวันออกเคยกล่าวไว้ว่า หากมิเกิดหายนะครั้งใหญ่ที่ทำให้ภพทั้งสามเกิดความโกลาหลขึ้น ก็คงไม่อาจส่งผลกระทบต่อรากฐานของราชวงศ์ซ่งได้”

“โชคชะตาหรือ?”

เฉินซีรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก ความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณเขานั้นทรงพลังเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมันแผ่ออกไปในดินแดนโบราณอันกว้างใหญ่นี้ ดูเหมือนเขาจะได้ยินเสียงคำรามของกลุ่มมังกรอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งทำให้หัวใจของชายหนุ่มสั่นสะท้าน และแม้แต่วิญญาณของเขาก็ดูเหมือนจะรู้สึกถูกกดดันเป็นอย่างมาก

และเฉินซีก็พบว่าหลังจากที่พวกเขาเข้าสู่ดินแดนโบราณอันกว้างใหญ่นี้ ผู้บ่มเพาะที่พวกเขาพบปะระหว่างทางต่างก็มีสีหน้าเคร่งขรึมและจริงจัง ไม่มีใครสักคนที่ส่งเสียงโหวกเหวก และแม้แต่เสียงพูดคุยเบา ๆ ก็ไม่มีเลยสักนิด

พวกเขาบินไปข้างหน้าอย่างเงียบ ๆ เช่นนี้ และในเวลาไม่นาน พวกเขาก็มาถึงพื้นที่ใจกลางของดินแดนโบราณอันกว้างใหญ่

พื้นที่แห่งนี้มีความพิเศษเป็นอย่างยิ่ง เทือกเขาที่ทอดยาวต่อเนื่องในทุกทิศทางเป็นดั่งมังกรที่คอยคุ้มกันอยู่ที่นี่ หัวและหางของพวกมันจะเชื่อมเข้าด้วยกันก่อนที่จะมาบรรจบกันที่ใจกลาง

นครโบราณที่กว้างใหญ่ไพศาลตั้งอยู่บนยอดภูเขาเหล่านี้ ซึ่งดูเหมือนฝูงมังกรที่บดบังภูเขามากมายที่อยู่เบื้องล่าง มันอาบไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ที่พร่างพรายราวกับหมอกควันขณะที่มันเผยให้เห็นความยิ่งใหญ่อันสูงสุด

เมื่อมองจากระยะไกล เมืองนี้เป็นเสมือนเทพเจ้าสูงสุดที่ยืนตระหง่านอยู่บนฟ้าดิน ครอบครองสวรรค์และโลก ขณะที่มองลงมายังภูเขาและแม่น้ำที่งดงาม

นี่คือเมืองหลวงของราชวงศ์ซ่ง นครหลวงธารสายไหม!

ม่านของการชุมนุมดาวรุ่งในครั้งนี้จะถูกเปิดออก ณ ที่แห่งนี้!!

เมืองแห่งนี้ถูกปกคลุมด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์และได้รับการปกป้องด้วยเทือกเขานับพับนับหมื่น มันตั้งตระหง่านอย่างชั่วนิรันดร์อยู่ที่นี่เป็นเวลาเนิ่นนาน และแม้แต่ยอดฝีมือขอบเขตเซียนปฐพียังต้องยับยั้งตัวเองและไม่กล้ากระทำการที่ไร้เหตุผลที่นี่

เมื่อพวกเขาอยู่ห่างจากนครหลวงธารสายไหมราว ๆ อีกยี่สิบห้าลี้ เฉินซีเพ่งมองไปยังระยะไกลและเขาก็มองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของอาคารภายในนครหลวงธารสายไหมได้แล้ว นอกจากนี้ที่ใจกลางเมืองยังมีพระราชวังเซียนที่สูงส่งและอลังการตั้งอยู่

พระราชวังนี้มีความสูงเกือบสิบห้าลี้และเชื่อมต่อกับสวรรค์ทั้งเก้าชั้นโดยตรง ทั้งพระราชวังนั้นเปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมามากมาย แสงเหล่านี้มีทั้งสีทอง สีแดงเข้ม สีเงิน สีฟ้า สีม่วง…

แสงศักดิ์สิทธิ์สีต่าง ๆ ได้ส่องสว่างไปทั้งท้องฟ้าและผืนดิน อีกทั้งยังปกคลุมไปทั่วนครหลวงธารสายไหม!

ย่าชิงเงยหน้าขึ้นขณะที่ระลอกคลื่นปรากฏขึ้นในดวงตา และนางก็พึมพำออกมาว่า “นั่นคือที่ประทับของจักรพรรดิฉู่องค์ปัจจุบัน มันคือพระราชวังธารสายไหม ซึ่งมีความสูงสิบห้าลี้ มันเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจและอิทธิพลทั้งหมดของราชวงศ์ซ่ง และยังเป็นสถานที่ที่สำคัญที่สุดในหัวใจของผู้บ่มเพาะในโลกแห่งการบ่มเพาะทั้งหมดด้วย!”

“มันช่างงดงามจริง ๆ” เฉินซีอดไม่ได้ที่จะอุทานด้วยความชื่นชมเช่นกัน

“แน่นอนสิ พระราชวังธารสายไหมเป็นสมบัติอมตะที่แท้จริง เพียงแค่วิญญาณสมบัติของมันก็ดำรงอยู่มาอย่างยาวนานแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องกล่าวถึงยอดฝีมือขอบเขตเซียนปฐพี แม้แต่เซียนสวรรค์ก็ไม่สามารถฝ่าการป้องกันของพระราชวังธารสายไหมได้” หวังเจิ้นเฟิงตอบอย่างสบาย ๆ

สมบัติอมตะที่แท้จริง!

ทันใดนั้น เฉินซีก็เข้าใจทุกสิ่งและจากนั้นก็นึกถึงเจดีย์บำเพ็ญทุกข์ของเขา ‘หลังจากที่มันได้รับการซ่อมแซมจนกลับมาสมบูรณ์แล้ว มันจะมีอานุภาพเหมือนพระราชวังธารสายไหมหลังนี้หรือไม่?’

“ไปกันเถอะ ท่านหญิงได้จัดที่พักในนครหลวงธารสายไหมให้แก่เราแล้ว ยังไม่สายที่เราจะไปเที่ยวชมเมืองอย่างละเอียดหลังจากที่ไปถึงที่นั่นก่อน” ย่าชิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

กลุ่มของเฉินซีก็ไม่ลังเลอีกต่อไปและบินออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อมุ่งสู่นครหลวงธารสายไหม

ผู้คนในนครหลวงธารสายไหมนั้นมากมายมหาศาล!

มีผู้คนอยู่ทุกหนทุกแห่งในระยะสายตาของพวกเขา บ้างก็กำลังขี่สมบัติวิเศษ นั่งรถม้าสมบัติหรือขี่สัตว์อสูรอยู่ และพวกเขาต่างเปล่งแสงหลากสีสันออกมาในระหว่างที่พวกเขาเดินเบียดเสียดไปมาจนไหล่กระทบกัน

แต่บรรยากาศโดยรอบกลับเงียบสงบเป็นอย่างมาก ไม่มีใครส่งเสียงรบกวนหรือพูดคุยใด ๆ และทุกคนล้วนเข้าแถวอย่างเชื่อฟังเพื่อเข้าไปในประตูเมืองอย่างเป็นระเบียบ

เหตุผลนั้นเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก เนื่องจากที่หน้าประตูทางเข้าเมืองที่สูงตระหง่านและมีขนาดมหึมาซึ่งมีความสูงถึงสองลี้จะมียอดฝีมือขอบเขตเซียนปฐพีเฝ้าอยู่ แม้ว่าเขานั่งหลับตาทำสมาธิอยู่ที่ด้านข้างประตูทางเข้าเมือง แต่กลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวที่ปล่อยออกมา ก็เหมือนกับมหาสมุทรที่คอยยับยั้งผู้คน ทำให้พวกเขาไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม

“นี่เป็นเพียงประตูทางเข้าเมืองทางทิศใต้เท่านั้น ว่ากันว่านครหลวงธารสายไหมมีประตูทางเข้าอยู่สิบหกทางและหากมียอดฝีมือขอบเขตเซียนปฐพีคอยประจำการอยู่ นั่นย่อมหมายความว่าจะมียอดฝีมือเซียนปฐพีอยู่สิบหกคนมิใช่หรือ? ทรัพยากรที่ซ่อนอยู่และทุนสำรองของนครหลวงธารสายไหมนั้นน่ากลัวยิ่งนัก!” เฉินซีอุทานด้วยความชื่นชม ในขณะที่เขามองไปยังยอดฝีมือขอบเขตเซียนปฐพีที่ดูธรรมดาอย่างมาก และเขาก็ได้เข้าใจเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของราชวงศ์ซ่งอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

หลังจากที่พวกเขาเข้ามาในนครหลวงธารสายไหมแล้ว กลิ่นอายของเมืองก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง มันมีชีวิตชีวาและครึกครื้นไปด้วยกระแสรถเกวียนและรถม้าที่คับคั่ง อีกทั้งยังมีเสียงจอกแจกจอแจของผู้คนและร้านค้ามากมายก็เป็นดั่งต้นไม้ในป่าใหญ่ ซึ่งถูกตั้งเรียงรายอยู่ตามท้องถนนที่สะอาดและกว้างขวางเหมือนจัตุรัส ทำให้มันให้ความรู้สึกที่เจริญรุ่งเรืองซึ่งไม่เหมือนที่ใดจะมีได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]