บทที่ 382 พื้นที่ตอนกลาง
บทที่ 382 พื้นที่ตอนกลาง
ดินแดนเต๋าแห่งการต่อสู้ ณ พื้นที่ตอนกลาง
แม้จะห่างออกไปอีกหลายพันจั้ง เฉินซีก็ยังมองเห็นจัตุรัสกลางอันกว้างใหญ่ไพศาลในยุคโบราณตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้น มันปกคลุมไปด้วยหินสีดำที่กะดำกะด่างไร้ความมันวาว ดูเหมือนว่าจะผ่านการสึกกร่อนมานับหลายปี อีกทั้งยังอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งยุคโบราณ
ขณะนี้ มีร่างนับไม่ถ้วนยืนล้อมรอบลานกว้าง
เฉินซีกวาดสายตาไปยังร่างเหล่านั้นก่อนลงสู่พื้นที่ตอนกลาง สถานที่แห่งนั้นเป็นเพียงแท่นบูชาธรรมดาที่สร้างด้วยหินและดินเหนียว ทว่ามันกลับปลดปล่อยกลิ่นอายที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเต็มไปด้วยความโบราณและเปล่าเปลี่ยวราวกับว่าผู้คนสมัยโบราณเคยบวงสรวงสวรรค์ ณ ที่แห่งนี้ กลิ่นอายนี้ปล่อยพลังอันศักดิ์สิทธิ์ตรงเข้าสู่หัวใจ
ขณะที่จ้องมองไปยังแท่นบูชา เฉินซีก็นึกถึงแท่นบูชาสังเวยเก้ามังกรในนครหลวงธารสายไหมขึ้นมาทันใด เขารู้สึกถึงความเชื่อมโยงระหว่างแท่นบูชาทั้งสองนี้ได้ราง ๆ
“ระวังตัวด้วย หลังจากเก็บป้ายคำสั่งเต๋าแห่งการต่อสู้ครบสามพันหกร้อยชิ้น บัลลังก์เทพเต๋าแห่งการต่อสู้หนึ่งร้อยบัลลังก์จะปรากฏในลานกว้างแห่งนี้” เสียงของฟ่านอวิ๋นหลานดังก้องในหูของอีกฝ่าย “บัลลังก์เทพเต๋าแห่งการต่อสู้จะปรากฏขึ้นรอบแท่นบูชาและแยกออกเป็นชั้น ๆ ในยามนั้น เหล่าผู้บ่มเพาะทั้งสามพันหกร้อยคนจะเริ่มแย่งชิงบัลลังก์เทพเต๋าแห่งการต่อสู้กัน ยิ่งบัลลังก์อยู่ใกล้แท่นบูชามากเท่าใด ยิ่งมีผู้คนแก่งแย่งชิงบัลลังก์มากขึ้นเท่านั้น ทำให้สถานการณ์ตึงเครียด”
เฉินซีชะลอความเร็วลงพลางกล่าวด้วยความตกใจ “แสดงว่าบัลลังก์เทพเต๋าแห่งการต่อสู้ต้องมีอะไรสำคัญใช่หรือไม่?”
“ข้าก็ไม่มั่นใจมากนัก แต่ดูจากเหตุการณ์ในการชุมนุมดาวรุ่งครั้งก่อน ยิ่งบัลลังก์เทพเต๋าแห่งการต่อสู้อยู่ใกล้แท่นบูชามากเท่าใด คุณภาพของวิชากระบวนยุทธ์ระดับเต๋าที่ได้รับมาจะยิ่งทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น ฉะนั้นจึงอาจเป็นเพราะเช่นนี้” ฟ่านอวิ๋นหลานกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา
จนถึงตอนนี้เฉินซีจึงเข้าใจ ทั้งสองคนนี้หยุดอยู่ไม่ไกลจากจัตุรัสกลาง มีศิษย์วัยหนุ่มสาวจากหลายนิกายหลายสำนักรวมตัวกันอยู่รอบจัตุรัสกลาง ท่ามกลางพวกเขาเฉินซีมองเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยอยู่มากมาย
ชิงซิ่วอี้ จ้าวชิงเหอ หวงฝู่ฉางเทียน เจิ้นหลิวชิง หวงฝู่ฉิงอิง หลินโม่เซวียน เซียวหลิงเอ๋อร์และอีกหลายคน เหล่าสุดยอดผู้บ่มเพาะวัยเยาว์ที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์ถูกแยกเป็นกลุ่ม ๆ
เบื้องหลังผู้บ่มเพาะที่ดูเหมือนอัจฉริยะแห่งสวรรค์จอมอหังการเหล่านี้คือศิษย์ในนิกายของพวกเขา ผู้มากพรสวรรค์รวมกลุ่มกันเป็นกองกำลังที่น่าสะพรึงกลัว และบัลลังก์ที่พวกเขายึดไว้คือเบื้องหน้าที่อยู่ไกลออกไป ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดในจัตุรัสกลาง
ในบรรดาพวกเขามีเพียงจ้าวชิงเหอกับเจิ้นหลิวชิงที่อยู่อย่างเด็ดเดี่ยว พละกำลังของพวกเขาน่าเกรงขามจนทุกคนหวาดหวั่น ไม่มีใครกล้ายุ่งกับทั้งสองคนที่ยืนอยู่ตำแหน่งหน้าสุดเลย
เมื่อเฉินซีเห็นหน้าตาที่คุ้นชิน ชายหนุ่มจึงอดไม่ได้ที่จะระลึกถึงสิ่งที่เผชิญมาตลอดหลายปี ความรู้สึกหลากหลายวนเวียนอยู่ภายในใจ
ในอดีตเขามักถูกผู้คนในกลุ่มนี้ไล่ล่า ซึ่งเป็นช่วงเวลาชีวิตที่มีแต่ความวิตกกังวล ต้องเผ่นหนีตลอดราวกับเป็นสุนัขหางจุกก้น เพียงแค่นึกถึงก็ทำให้เขาถอนหายใจยาว
ทว่าตอนนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว จากประสบการณ์ทนทุกข์ยากลำบากมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา พละกำลังที่เขามีนั้นมากพอที่จะไม่เกรงกลัวผู้ใดอีกต่อไป
“พี่ใหญ่ เจ้านั่นมาที่นี่ด้วย” แม้ว่าเฉินซีกับฟ่านอวิ๋นหลานจะเก็บตัวอยู่เงียบ ๆ แต่ผู้คนรอบข้างก็ยังสังเกตได้ และหวงฝู่ฉงหมิงคือหนึ่งในนั้น เมื่อเห็นเฉินซี ใบหน้าของเขาพลันหม่นหมอง เจตนาสังหารฉายวาบในดวงตา
หวงฝู่ฉงหมิงยืนขึ้นพร้อมกับมือไพล่ไว้ข้างหลัง สายตาของเขากวาดหาเฉินซีทันทีที่ได้ยินคำกล่าว จากนั้นจึงหยุดและหันไปมองแท่นบูชา ณ พื้นที่ตรงกลางพลางกล่าวด้วยอารมณ์เฉยเมย “ถ้าจะพูดเปรียบเทียบละก็ การแย่งชิงบัลลังก์เทพเต๋าแห่งการต่อสู้ให้ได้นั้นเป็นสิ่งที่ข้าเป็นห่วงที่สุด แต่เจ้านี่คงจะไม่ยอมไปไหน ตอนนี้พวกเจ้าจงไปรวมทัพกับคนอื่น ๆ และจัดการกับเขาซะ”
หวงฝู่ฉงหมิงผงกศีรษะพลางกล่าวว่า “ข้าเข้าใจดี ศัตรูของพี่ใหญ่คือชิงซิ่วอี้ จ้าวชิงเหอ ส่วนคนอื่น ๆ ส่วนเรื่องนี้ปล่อยให้ข้าจัดการเถิด”
หวงฝู่ฉางเทียนตบไหล่น้องชายพลางกล่าว “อย่าวู่วามล่ะ เจ้าจะเสียตำแหน่งบัลลังก์เทพเต๋าแห่งการต่อสู้เพราะเขาไม่ได้”
“วางใจเถิด” หวงฝู่ฉงหมิงยิ้ม แม้ว่าพละกำลังของเฉินซีอาจแตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างมาก เขาก็ยังคงมั่นใจว่าจะสามารถหยุดเฉินซีได้
เพราะเขาก็ไม่ต้องการสิ่งใดนอกจากสังหารเฉินซี มันไม่ใช่เพียงแค่ทำร้ายร่างกาย สำหรับหลินโม่เซวียน เซียวหลิงเอ๋อร์ หลิวเฟิ่งฉือ หม่านหง และคนอื่น ๆ ต่างมองเฉินซีเหมือนหนามยอกอก ฉะนั้นตราบใดที่เขาร่วมมือกับบุคคลเหล่านั้น คงเพียงพอที่จะกำจัดเฉินซีได้อย่างง่ายดาย!
ไม่เพียงหวงฝู่ฉงหมิงเท่านั้นที่คาดการณ์ได้ หลินโม่เซวียน เซียวหลิงเอ๋อร์ และพวกพ้องต่างก็สังเกตเห็นการมาถึงของเฉินซีได้เช่นกัน พวกเขาต่างก็แสดงออกอย่างเย็นชา ดวงตาแฝงเจตนาสังหารและไม่อาจซ่อนแม้กระทั่งความโกรธแค้นได้เลย
“ดูเหมือนเจ้าจะมีศัตรูมากเหลือเกิน และพวกเขาล้วนเป็นสุดยอดผู้บ่มเพาะในสำนักหรือนิกายอันยิ่งใหญ่และเลื่องลือ”
เฉินซีลูบจมูกของเขาพลางยิ้มอย่างเฉยชา “อันที่จริงมันก็ถึงเวลาที่จะสะสางบัญชีแค้นแล้ว หากพวกเขากล้าลงมือ แน่นอนว่าข้าก็กล้ารับมือ แต่มั่นใจว่าคนที่จะต้องเสียใจนั้นไม่ใช่ข้าอย่างแน่นอน”
แม้ว่าคำพูดจะดูจืดชืด แต่มันยังคงแฝงความรู้สึกมุ่งมั่นและแน่วแน่ไว้ได้อย่างดี แม้กระทั่งเผยความมั่นใจอันแกร่งกล้าของเฉินซีและพละกำลังของเขาอีกด้วย
เป็นครั้งแรกที่ฟ่านอวิ๋นหลานเห็นอีกมุมหนึ่งที่แน่วแน่ไม่ย่อท้อของเฉินซี ดวงตาอันงดงามของนางกำลังดื่มด่ำไปกับความรู้สึกอันแรงกล้า หลังจากเวลาผ่านไปชั่วครู่ นางจึงกล่าวว่า “หากถึงยามนั้น ข้าคงจะไม่ยอมอยู่เฉย ๆ โดยไม่ช่วยหรอก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...