บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 397

บทที่ 397 การประลองดำเนินต่อไป

บทที่ 397 การประลองดำเนินต่อไป

ความแข็งแกร่งของหานเจิ้นตงนั้นถือได้ว่าอยู่ในอันดับต้น ๆ ในหมู่คนรุ่นเดียวกัน ยิ่งไปกว่านั้น ความสามารถของเขาก็ถือได้ว่าโดดเด่นเหนืออัจฉริยะนับหมื่น และการติดอันดับหนึ่งในร้อยของการชุมนุมดาวรุ่ง ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าเขาแข็งแกร่งถึงเพียงใด แต่น่าเสียดายที่คู่ต่อสู้คือเฉินซี และผลที่ตามมาก็คือการพ่ายแพ้

“ข้ายอมรับความพ่ายแพ้!” เมื่อเห็นเฉินซีเดินเข้ามาหา หานเจิ้นตงก็ตัวสั่นทันทีและตะโกนออกมาเสียงดัง ก่อนจะจ้องไปที่คู่ต่อสู้ ราวกับเขาต้องการจดจำเฉินซีไว้ในส่วนลึกของหัวใจ เนื่องจากครั้งนี้ตนได้พ่ายแพ้อย่างน่าสังเวชเกินไป…

“หึ ดูเหมือนโอสถกลั่นแรกเริ่มห้าล้านเม็ดจะเป็นของข้าแล้ว” เฉินซีหยุดเดินและหัวเราะเบา ๆ ออกมา

เมื่อเขาได้ยินเช่นนี้ หานเจิ้นตงแทบขาดใจด้วยความอับอายและความโกรธแค้น เนื่องจากเมื่อครู่ เขาได้โอ้อวดว่าจะมอบความพ่ายแพ้ให้แก่เฉินซีและจะคว้าโอสถกลั่นแรกเริ่มจำนวนห้าล้านเม็ดเป็นของรางวัล แต่กลับกลายเป็นว่าตนต้องพ่ายแพ้แก่เฉินซี ราวกับถูกตบหน้าด้วยฝ่าเท้า นี่มันน่าอัปยศเกินไป!

เฉินซีไม่สนใจเขาอีกต่อไปและทะยานขึ้นเพื่อออกจากสังเวียนปีศาจสังหาร

‘ข้าไม่เคยคาดคิดว่าพวกเขาจะมาเร็วกว่าข้า ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วยกระบวนท่าเดียวเช่นกัน ราวกับพวกเขาไม่อยากเสียเวลากับคู่ต่อสู้…’ ทันทีที่เขามาถึงกลางอากาศ เฉินซีก็สังเกตเห็นทันทีว่า มีคนนับสิบคนที่อยู่ในสังเวียนระยะไกล ได้ยุติการต่อสู้ของพวกเขาไปตั้งนานแล้ว ซึ่งในหมู่พวกเขาคือชิงซิ่วอี้ จ้าวชิงเหอ หวงฝู่ฉางเทียน เจิ้นหลิวชิง และคนอื่น ๆ

ในเวลาไม่นาน การต่อสู้ทั้งสี่สิบแปดสังเวียนของรอบแรกก็สิ้นสุดลง

โดยทั่วไปแล้ว การต่อสู้รอบนี้ค่อนข้างผ่อนคลาย เรียบง่ายและธรรมดา ซึ่งไม่มีอะไรที่ควรค่าแก่การใส่ใจ

เพราะการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายนั้นถูกกำหนดให้จับคู่กับผู้แข็งแกร่งและผู้อ่อนแอ ซึ่งการจับคู่ในลักษณะนี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงยอดฝีมือระดับสูงบางคนที่อาจปะทะกันตั้งแต่เริ่มต้น และอาจถูกกำจัดออกไปโดยไม่ตั้งใจ นอกจากนี้ยังสามารถหลีกเลี่ยงผู้บ่มเพาะที่อ่อนแอกว่าที่จะสามารถเอาชนะผู้ที่แข็งแกร่งโดยบังเอิญอีกเช่นกัน

“พี่ใหญ่เฉินซี… ได้เข้าสู่สี่สิบแปดอันดับแรกแล้ว! น่าทึ่ง น่าทึ่งจริง ๆ!” มู่เหวินเฟยตื่นเต้นจนเผลอกำหมัดแน่นและตะโกนออกมาเสียงดัง

“อย่าตื่นเต้นกับเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ได้ไหม? ผลลัพธ์นี้ไม่ได้อยู่ในความคาดหวังของเราตั้งนานแล้วหรอกหรือ” ย่าชิงและหญิงสาวคนอื่น ๆ กลอกตาใส่มู่เหวินเฟยด้วยสีหน้าสงบนิ่งอย่างมาก

มู่เหวินเฟยตกตะลึงทันที ตอนนี้เขาเพิ่งตระหนักได้ว่าคนอื่น ๆ ต่างมีท่าทางที่นิ่งสงบ และแม้แต่เฉินอวี่ตัวเล็ก ๆ ก็ยังมีความสงบมากกว่าตัวเขาเอง…

“การเป็นส่วนหนึ่งของสี่สิบแปดอันดับแรกของการชุมนุมดาวรุ่งนั้น หรือว่ามันไม่คู่ควรกับการยินดี?” มู่เหวินเฟยเม้มปากและไม่อาจทำความเข้าใจต่อความเฉยเมยของทุกคน เขารู้สึกว่าหญิงสาวเหล่านี้สมกับเป็นสตรีจริง ๆ เพราะพวกนางขาดจิตวิญญาณที่มีในบุรุษ

ที่กลางอากาศ

จักรพรรดิซ่งพยักหน้าให้กับตัวเองในขณะมองไปที่เหล่าผู้ชนะทั้งสิบแปดคนในรอบแรก ราวกับไม่มีอะไรที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เนื่องจากทั้งสี่สิบแปดคนนี้ เป็นเหล่ายอดฝีมือที่เขาได้คาดหวังไว้ตั้งนานแล้ว

“พวกเจ้าทั้งสี่สิบแปดคนสามารถเอาชนะในการต่อสู้รอบแรกและได้แสดงผลงานที่ไม่ธรรมดาออกมา ดังนั้นพวกเจ้าทุกคนจะได้รับโอสถกลั่นแรกเริ่มจำนวนห้าล้านเม็ด ตอนนี้ข้าจะมอบมันให้กับพวกเจ้าทุกคน และหวังว่าพวกเจ้าทุกคนจะรักษามันไว้!”

ฟิ้ว!

ทันทีที่เขากล่าวจบ จักรพรรดิซ่งก็สะบัดแขนเสื้อ แหวนมิติทั้งสี่สิบแปดวงก็กลายเป็นลำแสงที่บินไปอยู่ในมือของเฉินซีและคนอื่น ๆ

“เป็นจำนวนโอสถที่มากจริง ๆ และเพียงพอที่จะซื้อสมบัติวิเศษระดับปฐพีขั้นสุดยอดมากกว่าสิบชิ้น! ข้าจะให้มันแก่เฉินฮ่าว แม้ว่าตระกูลเฉินในปัจจุบันจะครอบครองความมั่งคั่งที่ได้มาจากภายในเทือกเขาแดนเถื่อนตอนใต้ แต่ตระกูลกำลังขยายตัว ดังนั้นยิ่งมีความมั่งคั่งมากเท่าไรก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น” เฉินซีตรวจสอบโอสถที่เก็บอยู่ในแหวนมิติและถอนหายใจยาว เนื่องจากเขาเห็นโอสถกลั่นแรกเริ่มที่ซ้อนกันเป็นภูเขาอยู่ภายในแหวนมิติ หากตระกูลขนาดกลางมีความมั่งคั่งเช่นนี้ ก็คงจะเรียกได้ว่าน่าตื่นตาเป็นอย่างแน่นอน

“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ/เพคะ ฝ่าบาท!” ทุกคนโค้งคำนับและแสดงความขอบคุณ

จักรพรรดิซ่งเพียงโบกมือและสั่งให้มหาเสนาบดีประกาศรายชื่อสำหรับการประลองในรอบที่สอง หลังจากนั้นเขาก็นั่งตัวตรงอยู่ที่บังลังก์ที่ลอยเหนือท้องฟ้าและหลับตาลงเพื่อทำสมาธิ

มหาเสนาบดีทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นก็กวาดสายตามองเฉินซีและคนอื่น ๆ ก่อนที่เขาจะกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “การประลองในรอบนี้จะไม่เหมือนกับรอบแรก การต่อสู้ของรอบที่สองจะจัดขึ้นทีละคู่ และจะดำเนินไปจนถึงยี่สิบสี่คู่ ข้าคิดว่าพวกเจ้าทุกคนคงจะเข้าใจกฎแล้ว”

ยอดฝีมือรุ่นเยาว์ทั้งหมดพยักหน้ารับ การประลองในรอบที่สองไม่ได้จัดขึ้นพร้อมกัน หลังจากคู่แรกประลองตัดสินได้ผู้ชนะแล้ว คู่ที่สองก็จะดำเนินไปตามเช่นนี้ จนกว่าจะได้ผู้ชนะทั้งยี่สิบสี่คน จึงเป็นอันเสร็จสิ้น

“เอาล่ะ เริ่มการประลองในรอบที่สอง การประลองคู่ที่หนึ่งระหว่างอวี่เซียวจื่อจากนิกายกระบี่ห้าขุนเขากับหวังเต้าซวี่จากนิกายแสงจรัส”

ไม่ว่าจะเป็นอวี่เซียวจื่อหรือหวังเต้าซวี่ ทั้งสองคนต่างก็เป็นศิษย์ที่เหลืออยู่ในการชุมนุมดาวรุ่งครั้งนี้ และนิกายโบราณทั้งสองก็หวังว่าศิษย์ของพวกเขาจะสามารถชนะได้

แต่ในสายตาของผู้บ่มเพาะทุกคนของนครหลวงธารสายไหม เมื่อเทียบกับการประลองในรอบแรก การประลองในรอบที่สองของคู่แรกอาจกล่าวได้ว่ายอดเยี่ยม! ทั้งสองฝ่ายใช้เวลาต่อสู้กันเพียงหนึ่งถ้วยน้ำชา ก็สามารถตัดสินผลแพ้ชนะได้แล้ว!

เป็นหวังเต้าซวี่ที่สามารถเอาชนะอวี่เซียวจื่อด้วยความเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด

“หวังเต้าซวี่นั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง แต่ดูเหมือนว่าข้าจะเคยได้ยินมาว่า เขาพ่ายแพ้ให้เจ้ามากกว่าหนึ่งครั้ง?” เจิ้นหลิวชิงที่ยืนอยู่ที่ด้านข้างของเฉินซี กล่าวพร้อมรอยยิ้ม

ในขณะนี้ ศิษย์คนอื่น ๆ ที่การต่อสู้ยังไม่เริ่มขึ้น กำลังเฝ้าดูการต่อสู้จากด้านข้างของสังเวียน เจิ้นหลิวชิงก็ยืนอยู่เคียงข้างเฉินซีโดยไม่มีความรังเกียจแม้แต่น้อย แน่นอนว่าฟ่านอวิ๋นหลานก็ยืนอยู่เคียงข้างเช่นกัน

ส่วนนายน้อยโจว อันเชี่ยนอวี้ ฮวาโม่เป่ย และคนอื่น ๆ ได้กลับไปอยู่เคียงข้างยอดฝีมือขอบเขตเซียนปฐพีในนิกายของพวกเขาและฟังคำแนะนำด้วยความเคารพ

“ความแข็งแกร่งของเขาไม่เลวเลย” เฉินซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม หวังเต้าซวี่ได้แพ้ให้แก่เขาถึงสองครั้ง ครั้งแรกที่การชุมนุมธารทอง และอีกครั้งที่จวนจ้าวอัสนี “การประลองคู่ที่สอง หลิงอวี๋ปะทะกับหวังเจิ้นเฟิงแห่งจวนจ้าวอัสนี” มหาเสนาบดีกล่าว

“การมีโอกาสได้ประลองกับนายน้อยแห่งจวนจ้าวอัสนีนั้น ถือเป็นโชคของหลิงอวี๋อย่างแท้จริง” หลิงอวี๋ผู้อ้วนท้วมกล่าวทักทายหวังเจิ้นเฟิงด้วยรอยยิ้ม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]