บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 40

บทที่ 40 สังหารเหล่าโจร
บทที่ 40 สังหารเหล่าโจร

ชายวัยกลางคนร่างกำยำผู้นี้มีนามว่า ‘เหลียงหู’ เขาเป็นหัวหน้าโจรที่มีชื่อเสียงเลวร้ายของซ่องโจรแห่งเมืองหมอกสน การฝึกฝนของเขาอยู่ในระดับขอบเขตก่อกำเนิดขั้นสมบูรณ์เท่านั้น แต่ด้วยความฉลาดแกมโกงและความระมัดระวัง เขาจึงมักจะหลุดพ้นจากการจับกุมและใช้ชีวิตอย่างสุขสบายยิ่งนัก

และที่สำคัญคือ เขาไม่เคยรุกรานศิษย์จากนิกายที่มีชื่อเสียงหรือตระกูลที่ยิ่งใหญ่ เพียงแค่ปล้นชิงและฆ่าผู้บ่มเพาะไร้สังกัดที่ไม่มีสถานะ หรือตำแหน่งใด ๆ ที่อยู่ในชนชั้นต่ำสุดของสังคม

เมื่อสามปีที่แล้ว เหลียงหูได้เข้าร่วมการทดสอบในดินแดนรกร้างใต้พิภพ อีกทั้งยังรู้ทุกอย่างที่อยู่ภายในนั้นราวกับหลังมือ เขารู้ว่าที่แห่งนี้เชื่อมกับหุบเขาอาบโลหิตและเขตนรกฝันร้ายที่เต็มไปด้วยฝุ่นผง โดยปกติแล้วเขามักได้รับผลตอบแทนมหาศาล เมื่อเขาใช้ม่านหมอกควันเพื่อปกปิดตัวตนของกลุ่มโจรก่อนจะดำเนินการลอบโจมตี ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงกายและจิตใจในการล่าสัตว์อสูรเพียงเพื่อรับไข่มุกปีศาจ

ที่สำคัญที่สุด ตราบใดที่เขาระมัดระวังสม่ำเสมอ เหลียงหูก็ไม่ต้องกังวลว่า ตัวตนของเขาจะรั่วไหลออกไปเมื่อเขาลอบจู่โจมในที่แห่งนี้ และแม้ว่าศิษย์ของนิกายเหล่านั้นจะตกตาย แต่นิกายของพวกเขาส่วนใหญ่จะคิดแค่ว่า พวกเขาตกตายภายใต้คมเขี้ยวของอสูรปีศาจและหาได้มีข้อสงสัยอื่นใดไม่

ด้วยเหตุผลดังกล่าว เหลียงหูจึงได้นำเหล่าสมุนที่มีระดับขอบเขตก่อกำเนิดกว่าสิบคน เข้าร่วมในการทดสอบของดินแดนรกร้างใต้พิภพในครั้งนี้ เพื่อแย่งชิงของจากผู้บ่มเพาะคนอื่น

ความจริงก็เป็นดั่งที่เหลียงหูคิด ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วยาม ด้วยการปล้นชิงและเข่นฆ่าผู้บ่มเพาะนับสิบที่เดินทางคนเดียว ทำให้เขาได้รับไข่มุกปีศาจมาจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม เหลียงหูหาได้หน้ามืดตามัวจากชัยชนะเพียงแค่นี้ เขายังคงเลือกผู้บ่มเพาะอย่างระมัดระวัง คือเลือกแค่ผู้ที่มักเดินทางคนเดียวเป็นเป้าหมายสำหรับการลอบโจมตี

อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้เขาพลันตระหนักได้ทันทีว่า พวกที่เดินทางคนเดียวก็หาได้อ่อนแอเสมอไป อย่างเช่นเด็กหนุ่มที่มีรูปลักษณ์อ่อนเยาว์ก็ไม่ได้เป็นลูกนกในกำมือที่รอความเมตตาจากเขา

เช่นเดียวกับ… เฉินซีที่อยู่เบื้องหน้า

เพียงชั่วพริบตาเดียว นับตั้งแต่เขาเริ่มออกจู่โจมจนไปถึงตอนที่เขาสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่ถูกเก็บซ่อนไว้อย่างเงียบงัน สายตาของเฉินซีปลดปล่อยจิตสังหารออกมา และเป็นตอนนั้นเองที่เหลียงหูรู้สึกได้ถึงอันตรายอย่างแรงกล้า ชายวัยกลางคนไม่ลังเลอีกต่อไป เขากระทืบเท้าข้างขวาลงกับพื้นอย่างรุนแรง จากนั้นใช้แรงถีบจากการกระทืบบิดร่างกาย ก่อนจะกระโดดหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว

แต่อนิจจา มันสายเกินไปแล้ว

ฟึ่บ!

แสงกระบี่อันน่าทึ่งพลันปรากฏขึ้นในกลางอากาศ แล้วพุ่งออกไปด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าฟาด

เวลาเดียวกันนั้น ร่างกายของเหลียงหูยังคงอยู่กลางอากาศ แต่แล้วจู่ ๆ รูกระบี่ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านขวาของช่องท้อง ก่อนที่แรงฉีกกระชากนั้นจะไหลผ่านไปยังแผ่นหลังของเขาจนเป็นแนวเส้นตรง ทำให้โลหิตเข้มข้นพุ่งกระฉูดออกมาในทันใด

“เป็น… เป็นไปได้อย่างไร? ข้าบรรลุถึงระดับขอบเขตก่อกำเนิดขั้นสมบูรณ์เมื่อแปดปีที่แล้ว มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่ข้าจะไม่อาจป้องกันการโจมตีนี้ได้แม้แต่ครั้งเดียว?” เหลียงหูล้มลงกับพื้น จากนั้นก้มศีรษะลงมองดูอาการบาดเจ็บที่หน้าท้องด้านขวาซึ่งมีโลหิตหลั่งไหลออกมา ใบหน้าของเขานิ่งอึ้งไปด้วยความเหลือเชื่อ

“หัวหน้า!”

“หัวหน้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”

“เป็นไปได้อย่างไรกัน!?”

เหล่าลูกสมุนของเหลียงหูต่างตกตะลึง เมื่อเห็นว่าการจู่โจมของหัวหน้าล้มเหลว ซ้ำยังถูกแทงกลับด้วยกระบี่ของศัตรูแทน และเมื่อพวกเขาตื่นขึ้นจากความตกตะลึง ก็ต้องส่งเสียงอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ

เหลียงหูเป็นหัวหน้าโจรของพวกมัน อีกทั้งยังมีการบ่มเพาะอยู่ในระดับขอบเขตก่อกำเนิดขั้นสมบูรณ์ ย่อมถือได้ว่ายืนอยู่ในจุดสูงสุดของการทดสอบในดินแดนรกร้างใต้พิภพ แต่เวลานี้เขากลับได้รับบาดเจ็บและถึงกับล้มลงกองกับพื้นดิน ภายใต้การเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียว นี่…นี่เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง!

ในสายตาของโจรที่ใช้ชีวิตอาบโลหิตปลายกระบี่มาตลอด ผู้เยาว์ที่ยืนถือกระบี่อยู่ตรงหน้ากลับเปลี่ยนจากแกะอ้วนตัวเล็กไปเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ที่เย็นชาในทันใด ทั้งยังทำให้หัวใจของพวกเขาสั่นไหวด้วยความหวาดกลัวไม่หยุด

อันที่จริงแล้ว ด้วยการบ่มเพาะในปัจจุบันของเฉินซี หากเขาต้องต่อสู้กับเหลียงหูจริง ๆ เขาก็ไม่กล้ารับประกันว่าจะสามารถทำร้ายอีกฝ่ายจนบาดเจ็บสาหัสด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวได้ ทว่าเหตุผลเดียวที่เขาสามารถทำได้อย่างง่ายดายในครั้งนี้ มันเป็นผลมาจากญาณตระหนักรู้ของเขา

ในคราแรกนั้น เมื่อเฉินซีได้ยินเสียงตะโกนจากกลุ่มของเหลียงหู เขาก็ใช้ญาณตระหนักรู้ตรวจสอบบริเวณโดยรอบทันที ญาณตระหนักรู้ของเฉินซีเทียบเท่ากับผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิล ซึ่งสามารถตรวจสอบรอบตัวได้อย่างชัดเจนภายในพื้นที่ยี่สิบห้าลี้ และเขาก็ไม่พบเงาของฝูงสัตว์อสูรแต่อย่างใด ด้วยเหตุนี้เขาจะตกหลุมพรางของเหลียงหูได้เยี่ยงไร?

ในขณะที่เหลียงหูหาได้รับรู้เรื่องนี้โดยสิ้นเชิง และเขามองเฉินซีเป็นดั่งลูกนกที่ไร้ประสบการณ์เท่านั้น ภายใต้ความประมาทและลดการป้องกัน ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวจากเฉินซี ผู้ซึ่งรับรู้ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้แล้ว

แซ่ก! แซ่ก! แซ่ก!

เสียงฝีเท้ามั่นคงและเป็นจังหวะพลันดังขึ้น เฉินซีเผยท่าทีเย็นชาขณะที่กำกระบี่ไว้ในมือ เขาก้าวเดินไปข้างหน้าด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยจิตสังหารพรั่งพรู

เขาไม่มีความรู้สึกเช่นว่า ต้องปรานีหรือเมตตาต่อพวกโจรที่ลอบจู่โจมและเข่นฆ่าผู้คนเลยแม้แต่น้อย หากไม่ใช่เพราะญาณตระหนักรู้ของเขาที่สังเกตเห็นบางสิ่งไม่ถูกต้อง เขาคงตกหลุมพรางของพวกมันและตกตายไปแล้ว เพราะอย่างนั้น ยามนี้เขาจะปล่อยให้พวกโจรมันหนีออกไปได้อย่างไร?

เหลียงหูอดทนต่อความเจ็บปวดแสนสาหัส ในขณะที่เขาพยายามหยัดกายขึ้นจากพื้นดิน และตะโกนออกมาเสียงดังราวกับระเบิด “เหล่าพี่น้อง โจมตีพร้อมกัน! ถึงมันจะน่าเกรงกลัวสักเพียงใด แต่มันก็มีเพียงผู้เดียว ฆ่ามันซะ แล้วไข่มุกปีศาจที่มันครอบครองจะเป็นของพวกเรา!”

“หัวหน้าพูดถูก มันมีเพียงผู้เดียว เหตุใดเราต้องกลัวด้วย?”

“ถูกต้อง! เจ้าเด็กบัดซบผู้นี้อาจมีไข่มุกปีศาจจำนวนมากอยู่ในครอบครองก็เป็นได้!”

“ฆ่ามัน!”

หัวหน้าโจรปลุกความบ้าบิ่นของเหล่าสมุนได้สำเร็จ โดยฉับพลัน พวกมันทั้งหมดต่างมีแววตาบ้าคลั่ง ขณะที่ขยับเข้ามารุมล้อมเฉินซี

ทว่าชายหนุ่มยังคงมีท่าทีไร้อารมณ์เช่นเคย ตลอดช่วงสามเดือนที่ผ่านมา เขาได้ผ่านการบ่มเพาะอย่างยากลำบากในเทือกเขาป่าเถื่อนตอนใต้ทุกค่ำคืน ซ้ำยัง ผ่านการต่อสู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกับสัตว์อสูรที่มีระดับเหนือกว่าขอบเขตก่อกำเนิดจำนวนมาก มันจึงทำให้เฉินซีลืมไปแล้วว่าเขาเคยได้รับบาดเจ็บและหลั่งโลหิตไปมากมายเพียงใดในตอนนั้น

ประสบการณ์การต่อสู้จริงที่เฉินซีฝึกฝนผ่านการเข่นฆ่านองเลือด ทำให้เฉินซีเข้าสู่สภาวะพร้อมสู้ในทันทีที่เขาตัดสินใจจะเผชิญหน้ากับศัตรู

ไม่มีความลังเล ล่าช้า หรือกล่าววาจาไร้สาระใด ๆ ทั้งสิ้น สมาธิทั้งหมดของเฉินซีจดจ่ออยู่กับการเข่นฆ่าที่ใกล้เข้ามา อีกทั้งจิตใจของเขาก็สงบนิ่งและเปี่ยมไปด้วยจิตสังหาร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]