บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 430

บทที่ 430 พลังอำนาจทั้งสาม

บทที่ 430 พลังอำนาจทั้งสาม

ร่างของศิษย์พี่สามนั้นสูง เส้นผมหนวดเคราดำสนิทราวกับน้ำหมึก รูปร่างหน้าตาของเขาดูสง่างามและดุดันยิ่งนัก

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นกระดูกในมือของเฉินซีก็กลับกลายเป็นเด็กช่างสงสัย ยื่นมือออกมาสัมผัสกระดูกก่อนจะที่ทิ้งมารยาททั้งหมดไปและนั่งยองบนพื้น พลางยกกระดูกขึ้นอย่างระมัดระวังในขณะที่เผยความร่าเริงราวกับว่าได้พบกับสมบัติล้ำค่า

นอกจากความรู้สึกขบขันแล้ว เฉินซีก็อดไม่ได้ที่จะนึกสงสัยขึ้นในใจ ‘หรือว่ากระดูกนี้จะมีอะไรพิเศษแฝงอยู่?’

กระดูกชิ้นนี้เป็นสมบัติของฉินอวี้เหว่ยแห่งตระกูลฉิน ณ เมืองพฤกษ์ชาด ตามปกติสมบัติชิ้นนี้จะถูกส่งต่อจากบรรพชนของนาง ทว่าก็ยังไม่ทราบดีว่ากระดูกชิ้นนี้มีประโยชน์อย่างไร เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณที่ช่วยชีวิตไว้ นางจึงมอบกระดูกชิ้นนี้เป็นของขวัญให้กับเฉินซี

หลังจากนั้นเฉินซีจึงพยายามตรวจสอบกระดูกชิ้นนี้ ทว่าน่าเสียดายที่ไม่อาจสืบได้ว่ามีความลับอะไรซ่อนอยู่ในนั้น เพราะว่าสิ่งที่เขามั่นใจก็คือ กระดูกชิ้นนี้ต้องไม่ธรรมดา ดังนั้นเขาจึงพกติดตัวไว้ตลอด

หากไม่ใช่เพราะพบกับศิษย์พี่สาม ตอนนี้เขาคงจะลืมกระดูกไปแล้ว

กริ้ง!

ทันใดนั้น ค้อนเหล็กขนาดเล็กก็ปรากฏขึ้นในมือของศิษย์พี่สาม ตัวค้อนเป็นสีเขียวหยก มีขนาดเท่าฝ่ามือ เมื่อตอกลงบนกระดูกเบา ๆ เสียงที่ดังชัดเจนราวกับเสียงแห่งธรรมชาติดังก้องออกมา

หลังจากนั้นก็เกิดเหตุน่าตกใจขึ้น กระดูกพลันเปล่งแสงออกมา แสงเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นจากอักขระยันต์อันแสนลึกล้ำนับไม่ถ้วน แสงไฟสาดลงมาดั่งน้ำตกหลากสี มีความงดงามตระการตา

กิ๊!

เสียงคำรามดังสนั่นไปทั่วโลกา ร่างของปีศาจวิหคยักษ์อาบเพลิงบินทะยานสู่ท้องนภาก่อนจะโก่งคอขึ้นเพื่อส่งเสียงร้อง ดูเหมือนจะเป็นจักรพรรดิแห่งบรรดาสัตว์ปีกที่เปล่งรัศมีอันสูงส่งและยิ่งใหญ่

ตู้ม!

ทันทีที่ปีศาจตัวนี้ปรากฏกายขึ้น ทะเลสาบ ภูเขา โขดหิน และพืชพรรณในรัศมีหนึ่งหมื่นลี้พลันสั่นสะท้านไปพร้อมกัน ในขณะที่สัตว์อสูรทุกตัวที่อยู่ใกล้เคียงต่างหวาดกลัวจนตัวสั่นและถึงกับต้องหมอบลงกับพื้น

ดูเหมือนเฉินซีจะเคยเห็นเฟิงหวงที่มีขนที่สง่างาม มีคอและร่างเป็นเต่า มีหางปลา และผิวเกล็ดมังกรมาก่อน มันกระพือปีกสูงขึ้นไปบนท้องนภาขณะที่ควบคุมธาตุทั้งห้า สายตาของมันจ้องมองไปยังพื้นที่ด้านล่าง!

“เฟิงหวง! ฮ่า ๆๆ! เป็นกระดูกของเฟิงหวงจริง ๆ ด้วย!” ศิษย์พี่สามดีใจจนกระโดดโลดเต้นไปมาขณะตะโกนอย่างบ้าคลั่ง “เฟิงหวงเกิดใหม่ในเปลวเพลิงเพื่อเข้าสู่วงจรแห่งชีวาวายปราณ พวกมันมีชีวิตอยู่โดยไม่แปดเปื้อน ตายโดยไม่ทิ้งร่องรอย แต่ถึงกระนั้น มันได้ทิ้งกระดูกอันทรงอานุภาพที่ห่อหุ้มด้วยอักขระยันต์แก่นแท้ไว้ นี่…นี่คือปาฏิหาริย์ชัด ๆ!”

เป็นกระดูกของเฟิงหวงจริง ๆ รึ?!

เฉินซีตกตะลึง เท่าที่เขาทราบ สัตว์ศักดิ์สิทธิ์เช่นเฟิงหวงถือกำเนิดจากแก่นแท้แห่งโลกาในช่วงกำเนิดโลก ซึ่งมีความโกลาหลอยู่ทุกหนทุกแห่ง และแม้ว่าจะเป็นในช่วงเวลานั้น มันก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอยู่ในตำนานเท่านั้น เหมือนภาพลวงตาที่ไม่มีจริง

“กระดูกเฟิงหวง? ช่างเป็นสมบัติที่พิเศษยิ่งนัก…” จี้อวี๋ถอนหายใจก่อนซักถามศิษย์พี่สาม “กระดูกนี้มีมูลค่าเท่าไร?”

“มิอาจประเมินค่าได้!” ศิษย์พี่สามเล่นกับกระดูกในมือพลางตอบอย่างสบายใจเฉิบ

“ความล้ำลึกของกระดูกชิ้นนี้ยังไม่ถูกปลดผนึก ฉะนั้นจึงไม่มีค่ากับศิษย์น้องเล็กของเจ้าเช่นกัน ข้าสามารถเป็นตัวแทนของเขาเพื่อมอบกระดูกชิ้นนี้ให้กับเจ้าได้ แต่เจ้าจะไม่มอบของบางอย่างให้กับศิษย์น้องเล็กหน่อยหรือ?” จี้อวี๋ยิ้มกว้าง

ศิษย์พี่สามเข้าใจในทันทีว่าท่านอาจารย์ลุงกำลังช่วยศิษย์น้องเล็กรีดไถตนอยู่ ทว่าเพราะได้รับกระดูกเฟิงหวงมาโดยบังเอิญ เขาจึงดีใจจนลืมตัวและตอบตกลงทันที

“ไม่ว่าจะเป็นพลังอิทธิฤทธิ์หรือกระบวนยุทธ์ระดับเต๋า คุณภาพย่อมสำคัญกว่าปริมาณเสมอ ในเมื่อเจ้าได้มอบกระดูกคุนเผิงให้กับเฉินซีแล้ว ก็สอนวิธีทำความเข้าใจ ‘ก่ออัสนีผสานดารา’ ให้แก่เขาด้วยเลยสิ” จี้อวี๋ชี้แจง

“ทราบแล้วขอรับ” ศิษย์พี่สามไม่ลังเลแต่อย่างใด

“เจ้าคิดว่าอย่างไร?” จี้อวี๋ถามเฉินซี

เฉินซียิ้มตอบ “ข้าจะรับฟังทุกอย่างที่ศิษย์พี่กล่าว”

เขาทราบตั้งแต่แรกแล้วว่า แม้จะมีกระดูกคุนเผิงอยู่ แต่ก็จำต้องขอให้ศิษย์พี่สามสอน ซึ่งจี้อวี๋ก็พยายามช่วยให้เขาได้รับผลประโยชน์จากศิษย์พี่คนนี้อย่างเต็มที่ ดังนั้นการฟังจี้อวี๋ก็คงไม่ผิดนัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]