ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
ทันทีที่พูดจบ หลี่ไฮว่กระโดดอย่างต่อเนื่องสามครั้ง จนเกิดเป็นภาพติดตามากมาย นี่คือความเร็วระดับที่สายตาไม่อาจจับได้ทัน
ช่างว่องไวยิ่งนัก!
หลี่ไฮว่เป็นเหมือนผีในขณะที่เขาเคลื่อนไปมาไร้รูปแบบ ปราณกระบี่ปกคลุมทั่วร่างกายของเขาหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ทว่ายิ่งหนาแน่นปราณกระบี่เหล่านี้ยิ่งดูไม่เสถียรคล้ายกับเป็นลูกศรคมจำนวนมากที่สะสมกำลังง้างขึ้นสายรอจะถูกยิงออก!
ฟิ้ว! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ร่างของหลี่ไฮว่ถูกปกคลุมด้วยปราณกระบี่เป็นชั้น ๆ ขณะที่เขาเคลื่อนไหวโดยใช้วิชา ‘ย่างลักษณ์วายุลวงตา’ เขาประหนึ่งเป็นเม่นที่ปกคลุมไปด้วยหนามแหลมจากปราณกระบี่จำนวนมากที่ส่องประกายด้วยแสงอันเยือกเย็นรุนแรง
เนื่องจากการเคลื่อนไหวของเขาเร็วเกินไป เมื่อเขาเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ ตัวของเฉินซีจึงทำให้ปราณกระบี่ของเขาเข้าใกล้ชายหนุ่มจากทุกทิศทาง โดยมุ่งเป้าไปที่คอ ตา หัวใจ ท้อง แผ่นหลัง และด้านหลังศีรษะของเฉินซี
‘ต้องการเอาชนะข้าด้วยทักษะการเคลื่อนไหวของเจ้า?’
แสงจ้าปรากฏออกจากดวงตาที่เฉยเมยของเฉินซี จากนั้นร่างของชายหนุ่มก็พุ่งทะยานเข้าหาหลี่ไฮว่ด้วยย่างก้าวที่แปลกพิสดารล้ำลึกไม่อาจจำทางได้
“เผชิญกับการโจมตีรอบทิศไร้ช่องโหว่เช่นนี้กลับไม่ตั้งรับแต่พุ่งเข้าหา เป็นไปได้ไหมว่าเฉินซีตัวซวยกำลังปรารถนาที่จะตาย?” ใครบางคนในฝูงชนอดไม่ได้ที่จะอุทานเสียงดัง
ทว่าทันทีที่คนผู้นั้นพูดจบ ผู้ชมทั้งหลายต่างสังเกตเห็นว่าขณะที่เฉินซีพุ่งไปข้างหน้า ท่วงท่าของเขาดูแปลกประหลาดและน่าหวาดเสียว ทว่าชายหนุ่มกลับสามารถหลบปราณกระบี่ที่รุมล้อมตัวเขาได้ทั้งหมด ราวกับปลาไหลที่สามารถเล็ดลอดผ่านช่องว่างที่เล็กที่สุดไปได้ แม้ว่าจะมีบางส่วนของเสื้อผ้าที่ถูกปราณกระบี่เฉือนออกไป แต่ร่างกายกลับไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย เฉินซีรอดพ้นจากคมปราณกระบี่อย่างสมบูรณ์!
“นี่คือ… แปดก้าวมังกรสวรรค์?” ต้วนมู่เจ๋ออุทานด้วยความตกใจ และเมื่อเขาเปล่งเสียงคำพูดออกไป ตนเองก็รู้สึกกระอักกระอ่วนอับอายในทันที ‘วันนี้ข้าเป็นบ้าอะไร? ข้าสูญเสียความสงบอยู่ตลอดเวลา ข้าแทบจะเหมือนคนโง่เง่าที่ไม่เคยเห็นโลก…’
ต้วนมู่เจ๋อจะไม่สูญเสียความสงบของเขาเช่นนี้หากเคล็ดวิชาที่เฉินซีใช้ออกมานั้นคือเคล็ดวิชาระดับสูง แต่ขณะนี้ทุกเคล็ดวิชาที่ชายหนุ่มใช้นั้นล้วนเป็นเพียงแค่เคล็ดวิชาธรรมดาที่สามารถซื้อได้ดาษดื่นในท้องตลาด!
แต่หลังจากที่พวกมันถูกใช้โดยเฉินซี ไม่เพียงแต่รูปแบบและแก่นแท้ของวิชาจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ทว่าอำนาจที่สำแดงออกมานั้นกลับเหนือชั้นซึ่งดูไม่ได้ด้อยไปกว่าเคล็ดวิชาต่อสู้ระดับสูงของนิกายใหญ่ ๆ เลย ด้วยเหตุนี้ ต้วนมู่เจ๋อจึงไม่อาจทำใจเชื่อได้ลงและสูญเสียความสงบโดยสิ้นเชิง
ตู้ชิงซีก็สับสนเช่นกัน แต่นางยังคงสามารถรักษาความสงบไว้ได้เพราะนางรู้ว่าซ่งหลินที่อยู่ด้านข้างจะต้องให้คำตอบที่น่าพอใจแก่นางได้อย่างแน่นอน
ตามที่คาดไว้ หลังจากที่เห็นแปดก้าวมังกรสวรรค์ซึ่งเฉินซีกำลังใช้ออก ดวงตาของซ่งหลินพลันสว่างขึ้นพลางเอ่ยด้วยความตื่นเต้น “แน่นอนว่านี่คือเคล็ดวิชาแปดก้าวมังกรสวรรค์ที่ถูกปรับปรุงโดยผู้เลิศล้ำ! เฉินซีจะต้องมีผู้หนุนหลังเป็นแน่แท้ มิเช่นนั้นเขาไม่มีทางมีเคล็ดวิชาเช่นนี้อยู่ในครอบครอง!”
แคว่ก!
เสื้อผ้าบนร่างกายของเฉินซีถูกเฉือนฉีกออกอีกครั้ง แต่สีหน้าของชายหนุ่มยังคงไม่สะทกสะท้านขณะที่เขายังคงก้าวย่างตามเคล็ดวิชาแปดก้าวมังกรสวรรค์เอาชนะย่างลักษณ์วายุลวงตาของหลี่ไฮว่
‘ทักษะการเคลื่อนไหวของไอ้สารเลวผู้นี้ก็น่าเกรงขามเช่นกัน!?’
ในใจของหลี่ไฮว่ตกตะลึงอีกครั้ง จากนั้นเขาลอบกัดฟันและปลดปล่อยปราณกระบี่ให้หนาแน่นยิ่งขึ้น เหมือนกับห่าฝนที่ปกคลุมเฉินซีอย่างไม่หยุดยั้ง
วูบ! วูบ! วูบ!
เฉินซีรู้สึกกดดันมากขึ้นทันทีเมื่อต้องเผชิญกับปราณกระบี่ที่บ้าคลั่งกว่าเดิมของหลี่ไฮว่ และท้ายที่สุดเมื่อไม่สามารถหลบได้ กระบี่อัสนีครามในมือขวาของเขาคล้ายกับมีตา มันแทง ฟัน สะบัด สับ กวาด… บดขยี้ปราณกระบี่ที่เข้าใกล้อย่างแม่นยำ
สามสิบก้าว!
ยี่สิบก้าว!
สิบก้าว!
…
เหล่าผู้ชมที่มองดูตาไม่กะพริบอดไม่ได้ที่จะหลั่งเหงื่อเย็นในทุกย่างก้าวที่เฉินซีเริ่มเข้าประชิดหลี่ไฮว่ พร้อมกับความตกตะลึงของพวกเขาที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น แววตาของพวกเขาที่มองไปยังเฉินซีค่อย ๆ แฝงไปด้วยความเคารพและความชื่นชม
มันคล้ายกับการกระทำของคนโง่เขลาเบาปัญญาที่พุ่งเข้าหาปราณกระบี่อันตรายจำนวนนับไม่ถ้วนตรงหน้า ทั้ง ๆ ที่มันย่อมมีวิธีการอีกมากมายที่จะหลบหลีกการโจมตีนี้โดยไม่จำเป็นต้องทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย ทว่าเมื่อการกระทำที่ดูโง่เง่านี้ทำให้เฉินซีเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นเรื่อย ๆ มันกลับทำให้ท่าทางของชายหนุ่มดูงามสง่าและกล้าหาญจนผู้คนต้องชื่นชม
“หลี่ไฮว่กำลังตกอยู่ในอันตราย อยากให้ข้าช่วยหรือไม่?” ฉางปินขมวดคิ้วและถาม
“ไม่ มันยังไม่ถึงเวลา” ซูเจียวกัดริมฝีปากขณะที่นางพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา แม้ว่านางจะพูดแบบนี้ แต่สายตาของนางยามมองไปที่หลี่ไฮว่กลับเผยให้เห็นถึงความผิดหวังและหงุดหงิดใจ
การหลบหลีกและต้านรับปราณกระบี่ทั้งหลายนั้นน่ากลัวหวาดเสียวอย่างยิ่ง แต่ฝีเท้าของเฉินซียังคงมั่นคง เขาคล้ายกับเป็นเซียนผู้ไร้เทียมทานที่ฟาดฟันกระบี่ไปข้างหน้า ใบหน้าไม่แยแสต่อความเป็นตายแม้แต่น้อย
‘สิ่งนี้เป็นไปได้อย่างไร? ไอ้สารเลวตัวนี้เป็นเพียงขยะจากตระกูลที่ล่มสลาย มันรู้เพียงวิธีสร้างยันต์พื้นฐานเท่านั้นไม่ใช่หรือ? เหตุใดมันจึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้?’
จิตใจของหลี่ไฮว่เริ่มปั่นป่วนมากขึ้นเรื่อย ๆ เขามองเฉินซีที่ก้าวเข้าใกล้อย่างไม่หยุดยั้งด้วยแววตาวิตกกังวล แม้ว่าผลแพ้ชนะจะยังไม่ได้ตัดสิน แต่สถานการณ์ตอนนี้มันเกินความคาดหมายของชายหนุ่มโดยสิ้นเชิงแล้ว
‘ไอ้ขยะผู้นี้สามารถต่อสู้อันยืดเยื้อกับข้าได้อย่างไรกัน!?’
‘แล้วแบบนี้คุณหนูซูจะคิดเช่นไรกับข้า? แล้วทุกคนในที่นี้จะคิดอย่างไรกับข้า?’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...
ลงวันละหลายตอนใต้ใหม่ครับ...
ไม่ลงต่อแล้วหรือครับ ผมยังรออยู่นะครับ...