บทที่ 440 องค์รัชทายาทแห่งราชวงศ์ต้าจิ้น
บทที่ 440 องค์รัชทายาทแห่งราชวงศ์ต้าจิ้น
นายน้อยโจวหัวเราะเสียงดัง “แม้แต่องค์หญิงน้อยก็ยังกล้าหาญเช่นนี้ แล้วข้าจะถอยกลับได้อย่างไร ข้าเองก็อยากจะไปดูว่าเกาะสมบัติที่ร่วงหล่นมหัศจรรย์เพียงใดเช่นกัน”
เฉินซีถอนหายใจ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เห็นด้วยที่จะไปสำรวจเกาะสมบัติที่ร่วงหล่น แต่เพราะเขาไม่ค่อยเห็นด้วยกับการเป็นพันธมิตรระหว่างพวกเขากับเผยอวี่แห่งราชวงศ์ต้าจิ้น
แต่ในเวลานี้ เขาพูดอะไรไม่ได้มากนัก เพื่อป้องกันไม่ให้หวงฝู่ฉิงอิงเกิดความเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็น อีกทั้งความคิดของเขายังเป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น ดังนั้นทุกอย่างจึงยังไม่แน่นอนจนกว่าเขาจะได้พบกับเผยอวี่ หากมันไม่ตรงกับข้อเท็จจริง หรือเขาสงสัยอีกฝ่ายมากเกินไป ชายหนุ่มอาจกลายเป็นคนเลวในสายตาของผู้อื่นเอาได้
“เราไปรวมตัวกับสหายเต๋าเผยอวี่กัน” เมื่อเอ่ยถึงชื่อของเผยอวี่ ดวงตาของหวงฝู่ฉิงอิงก็เปล่งประกายแวววาว ราวกับว่าอดใจรอไม่ไหวที่จะได้พบกับอัจฉริยะผู้ทรงพลังจากราชวงศ์ต้าจิ้นคนนี้แล้ว
ฟิ้ว!
เรือมังกรพันขนนกออกเดินทางอีกครั้ง มันพุ่งตรงเข้าไปในทะเลบรรพกาลที่มีพายุและคลื่นลมปั่นป่วน ข้ามผ่านมหาสมุทรไปหลายพันลี้
เมื่อได้เข้าสู่เขตทะเลบรรพกาลแล้ว ภาพตรงหน้าก็เริ่มน่ากลัวมากขึ้นเรื่อย ๆ คลื่นลมที่ปั่นป่วนเชื่อมต่อกับท้องฟ้า เสียงของน้ำที่เชี่ยวกรากดังกึกก้องเหมือนเสียงฟ้าร้องที่ดังไม่รู้จักจบ เสาพายุที่หนาและรุนแรงจำนวนมากพัดผ่านผิวน้ำ ส่งเสียงครวญครางราวกับวิญญาณชั่วร้ายกำลังลาดตระเวนอยู่ทั่วมหาสมุทร ทำให้โลกทั้งใบดูจะตกสู่ความโกลาหลในชั่วพริบตา
ภายใต้แรงกดดันจากคลื่นที่รุนแรงและพายุที่น่ากลัว ความเร็วของเรือมังกรพันขนนกก็ลดลงอย่างมาก แม้แต่การแสดงออกของเฉินซีและอีกสามคนก็ดูจริงจังมากขึ้น พวกเขายืนอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น
โชคดีที่ระหว่างทางไม่มีอันตรายเกิดขึ้น ในไม่ช้า พวกเขาก็เห็นได้เกาะแห่งหนึ่งปรากฏขึ้นในสายตาของพวกเขา
“นี่คือเกาะส่องดารา ข้าและสหายเต๋าเผยอวี่จากราชวงศ์ต้าจิ้นได้นัดพบกันที่นี่ จากนั้นค่อยรวมตัวกันเดินทางไปยังเกาะสมบัติที่ร่วงหล่น เส้นทางที่มุ่งสู่เกาะนั้นยังอีกยาวไกลมาก ว่ากันว่ามันอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของทะเลบรรพกาล หากเราบินไปด้วยความเร็วสูงสุดอย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาสิบถึงสิบห้าวันจึงจะไปถึง และระหว่างทางยังมีสัตว์อสูรดุร้ายมากมายอาศัยอยู่ ทำให้มันอันตรายอย่างยิ่ง” หวงฝู่ฉิงอิงสั่งให้เรือมังกรพันขนนกบินตรงไปยังเกาะแห่งหนึ่ง
เฉินซีจ้องมองไปที่เกาะเบื้องหน้า ซึ่งกินพื้นที่กว้างใหญ่หลายพันลี้ แต่ในทะเลบรรพกาลที่กว้างใหญ่และไร้ขอบเขตนี้ มันก็เป็นเพียง ‘เกาะเล็ก ๆ’ แห่งหนึ่งเท่านั้น
หมู่เกาะเหล่านี้กระจายอยู่ทั่วมหาสมุทรเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า กระแสน้ำที่ดำสนิทและวุ่นวายในผืนทะเล เคลื่อนตัวผ่านระหว่างเกาะอย่างเชี่ยวกรากและรุนแรง เหนือสิ่งอื่นใด เฉินซียังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ดุร้ายของบางอย่างที่แฝงตัวอยู่ในทะเลด้วย
ด้วยจิตสัมผัสเทพของเขา เฉินซีจึงเห็นฝูงปลาประหลาดที่น่ากลัวจำนวนมากกำลังต่อสู้และกลืนกินกันเองภายในถ้ำนับไม่ถ้วนที่อยู่ลึกลงไปใต้ทะเล เกือบหนึ่งหมื่นลี้ พวกมันมีมากกว่าหมื่นตัว ในจุดที่ลึกกว่านั้น เฉินซียังเห็นกลุ่มอสูรทะเลที่มีรูปร่างคล้ายกับมนุษย์ถืออาวุธเอาไว้ในมือ กำลังเคลื่อนที่ผ่านกระแสน้ำใต้มหาสมุทรไป ร่างกายของพวกมันเต็มไปด้วยกลิ่นอายของพลังดาราจักรแห่งความตาย ทำให้พวกมันดูเหมือนวิญญาณร้ายหรือยักษา
ไม่มีใครรู้ว่าทะเลบรรพกาลนี้ลึกเพียงใด น้ำทะเลสีดำสนิทชั้นแล้วชั้นเล่าซ้อนทับกัน ขุ่นทึบหนักยิ่งกว่าเหล็กกล้าชั้นดี ในขณะที่พลังดาราจักรแห่งความตายกระจายไปทั่ว ทำให้ยิ่งน่าสะพรึงกลัว
อย่างไรก็ตาม ทะเลบรรพกาลแห่งนี้ก็ยังมีผลผลิต จำพวกวัตถุดิบและแร่วิญญาณล้ำค่าที่พบเจอในโลกภายนอกได้ยากอยู่มากมาย มันจึงเป็นเหมือนคลังสมบัติธรรมชาติแห่งหนึ่ง นับตั้งแต่การก่อตัวของสมรภูมิบรรพกาล ผู้บ่มเพาะจำนวนมากก็ได้มุ่งหน้าไปยังภายในของทะเลแห่งนี้ เพื่อรวบรวมสมบัติชนิดต่าง ๆ แต่คนเหล่านั้นกลับต้องถูกฝังและจบสิ้นลงที่มหาสมุทรแห่งนี้แทน
“สถานที่แห่งนี้ถือเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างปลอดภัย ซึ่งตั้งอยู่รอบนอกของทะเลบรรพกาล หากเราเข้าไปข้างในแล้ว จะพบว่าอสูรทะเลที่นั่นน่ากลัวมาก ตามที่เสด็จพ่อของข้าเคยได้ตรัสไว้เมื่อหลายพันปีก่อน กลุ่มอัจฉริยะของราชวงศ์ซ่งที่เข้ามาที่นี่ได้พบกับฝูงวิหคมรณา ซึ่งมีพละกำลังเทียบได้กับขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง ทำให้พวกเขาทั้งหมดถูกปิดล้อมและล้มตาย”
หวงฝู่ฉิงอิงเก็บเรือมังกรพันขนนกไป แล้วนางก็เล่าถึงอันตรายต่าง ๆ ในทะเลบรรพกาลให้เฉินซีกับนายน้อยโจวฟังในขณะที่รอ
“วิหคมรณา?” เฉินซีรู้ว่าวิหคมรณาดุร้ายมากและแข็งแกร่งกว่าวิหคมรณาทั่วไปหลายสิบเท่า พวกมันมีดวงตาสีแดงเข้มและเคลื่อนไหวว่องไวดุจสายฟ้า ในขณะที่ร่างกายของพวกมันแผ่พลังดาราจักรแห่งความตายออกมา ข้อต่อต่าง ๆ ล้วนคมดุจใบมีดจนเทียบได้กับสมบัติวิเศษระดับปฐพี สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหากวิหคมรณาปรากฏขึ้นสักตัว มันจะมาพร้อมฝูงที่มีจำนวนนับหมื่นหรือหลายแสนตัวจนบดบังท้องฟ้า
หากเป็นเพียงฝูงเล็กแค่ไม่กี่สิบหรือไม่กี่ร้อยตัว ผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางย่อมสามารถกวาดล้างพวกมันได้ในทันที แต่เมื่อวิหคมรณานับพันนับหมื่นตัวโจมตีพวกเขาในคราวเดียวกัน ก็เทียบจะไม่ต่างอะไรกับกองทัพอันทรงพลังถาโถมเข้าใส่ ไม่ต้องพูดถึงผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางเลย แม้แต่ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตจุติก็ยังไม่กล้าเผชิญหน้ากับพวกมันด้วยซ้ำ
เพราะเมื่อมีความได้เปรียบด้านจำนวน ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม ความน่าสะพรึงกลัวย่อมเกิดขึ้นตามมา
“ดูเหมือนว่าเราต้องระวังกันให้มากขึ้น หากมันเป็นอสูรทะเลเพียงตัวสองตัวก็คงไม่น่ากลัวอะไรนัก แต่ถ้าเราเจอฝูงของพวกมัน ก็คงรับมือได้ยากเหมือนกัน” เฉินซีพูดพลางพยักหน้า
พรึ่บ!
ชั่วพริบตานั้นเอง มุมหนึ่งของขอบฟ้าพลันสั่นไหวขึ้นอย่างกะทันหัน เมฆสีเทานับไม่ถ้วนไหววูบจนกระทั่งแตกกระจาย ปราณกระบี่ที่น่าหวาดกลัวพุ่งลงมาพร้อมกับแรงกดดันที่รุนแรงมาก จนฉีกอากาศและหินจำนวนมากที่อยู่รอบ ๆ เกาะจนแตกสลาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...