บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 444

บทที่ 444 ทำความเข้าใจกับเจตจำนงหมัด

บทที่ 444 ทำความเข้าใจกับเจตจำนงหมัด

ยิ่งเข้าไปภายในทะเลบรรพกาลมากเท่าใด มันก็จะยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น พายุประเภทต่าง ๆ เกิดขึ้นเป็นกระแสที่ไม่มีที่สิ้นสุดและพัดผ่านฟ้าดินเพื่อกลืนกินทุกสิ่งที่ขวางหน้า ยิ่งไปกว่านั้น สัตว์อสูรต่าง ๆ จะทะยานออกมาจากพายุเพื่อจับเหยื่อของพวกมัน

เนื้อหนังของสัตว์อสูรเหล่านี้มีประโยชน์ต่อผู้บ่มเพาะและมีมูลค่าจนน่าทึ่ง แต่สมบัติวิเศษ เคล็ดวิชาบ่มเพาะและร่างกายของเหล่าผู้บ่มเพาะก็มีประโยชน์ต่อสัตว์อสูรเหล่านี้อย่างมากเช่นเดียวกัน

ในทะเลบรรพกาลมีสัตว์อสูรจำนวนมากที่ซ่อนตัวอยู่ ซึ่งกำลังเฝ้ารอโอกาสโจมตีผู้บ่มเพาะที่เป็นมนุษย์ ส่วนสัตว์อสูรที่ทรงพลังยิ่งกว่า จะซ่อนตัวอยู่ในพายุและเปิดฉากโจมตีผู้บ่มเพาะจากที่นั่น

สัตว์อสูรเหล่านี้มีความเฉลียวฉลาด และภายใต้การหล่อเลี้ยงของพลังดาราจักรแห่งความตาย สัญชาตญาณของพวกมันจึงรุนแรงและกระหายเลือด ทำให้พวกมันน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง

ในตอนนี้ เฉินซี เผยอวี่ และคนอื่น ๆ ได้เผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้…พายุอสูรทะเล!

ครืนนนนน!

พายุส่งเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราด ทำให้ท้องฟ้ามืดหม่น ในขณะที่เมฆดำทะมึนเคลื่อนตัวมายังฟ้าดิน และก่อตัวเป็นกระแสวังวนที่น่าสะพรึงกลัวนับไม่ถ้วน ทุกที่ที่มันผ่านไป แม้แต่มิติก็ถูกฉีกออกเป็นเสี่ยง ๆ ก่อนที่จะถูกทำลายลง

กระแสวังวนพายุจำนวนมากกำลังโหมกระหน่ำอยู่บนผิวทะเลที่มีสีดำสนิท มีอสูรทะเลนับไม่ถ้วนที่มีรูปร่างต่าง ๆ กำลังซ่อนตัวอยู่ภายในพายุและสามารถมองเห็นได้อย่างเลือนราง พวกมันหนาแน่นจนดูเหมือนกองทัพอสูรทะเลที่มีอำนาจปกครองฟ้าดิน ในขณะที่ปราณอสูรก็สั่นสะเทือนไปทั่วท้องฟ้า จนทำให้หนังศีรษะของคนด้านชา

เฉินซีสังเกตเห็นได้ในแวบเดียวว่า ในกระแสวังวนที่ปกคลุมไปทั้งฟ้าดินนี้ อสูรทะเลที่อยู่บริเวณรอบนอกสุดมีระดับพลังอยู่ที่ขอบเขตตำหนักอินทนิล และจำนวนของพวกมันก็มีมากที่สุด

ถัดมาคืออสูรทะเล ขอบเขตเคหาทองคำ และที่จุดศูนย์กลางคืออสูรทะเลขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง!

อสูรทะเลเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นปลา แต่รูปลักษณ์ของพวกมันดุร้ายมากและมีรูปร่างแปลกประหลาดทุกประเภท กลิ่นอายของพวกมันรุนแรง ในขณะที่ร่างกายแปดเปื้อนไปด้วยพลังดาราจักรแห่งความตาย เปรียบดั่งมัจฉายักษ์ อสูรแห่งท้องทะเลที่ดุร้ายและกระหายเลือด

“มนุษย์!”

“ฆ่า!”

กลุ่มของเฉินซีประกอบด้วยผู้เยี่ยมยุทธ์ระดับแนวหน้าที่มีฐานการบ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง และกลิ่นอายของพวกเขาล้วนทรงพลัง แต่ในสายตาของอสูรทะเลเหล่านี้ มนุษย์เหล่านี้ก็เหมือนกับอาหารอันโอชะที่เย้ายวนที่สุดในโลก ทำให้พวกมันดูเหมือนกับแมลงวันที่ได้กลิ่นเลือด จึงพากันคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวขณะที่พวกมันพุ่งเข้าใส่

สีหน้าของเฉินซีและคนอื่น ๆ เคร่งเครียดขึ้นในทันที กระแสวังวนนับไม่ถ้วนและอสูรทะเลที่เป็นดั่งกองทัพอันทรงพลังได้ปิดกั้นเส้นทางข้างหน้าโดยสิ้นเชิง และหากต้องการเข้าไปในทะเลบรรพกาลให้ลึกกว่านี้ พวกเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับพวกมันเท่านั้น

ฝูงอสูรทะเลที่หนาแน่นเหมือนกับกระแสน้ำได้พุ่งออกมาจากพายุและปกคลุมฟ้าดินจนมืดมิดเหมือนกับฝูงตั๊กแตนที่ทะลักเข้ามา

สัตว์อสูรฝูงแรกที่กระโจนเข้ามาคือฝูงอสูรปูเกล็ดสีฟ้า อสูรเหล่านี้ถูกปกคลุมด้วยชุดเกราะที่เปล่งแสงสีเข้มเจิดจ้า พวกมันมีกลิ่นอายของขอบเขตตำหนักอินทนิล นอกจากนี้ยังมีจำนวนมากกว่าหนึ่งหมื่นตัว พวกมันได้รวมพลังเพื่อเปิดฉากโจมตีใส่เฉินซีกับคนอื่น ๆ ด้วยเคล็ดวิชาธาตุน้ำมากมาย!

เคล็ดวิชาธาตุน้ำดูจะสามารถพิชิตภูเขาและพลิกคว่ำทะเลด้วยพลังที่รุนแรงเหมือนกับสายฟ้า อีกทั้งยังมีกระแสพลังดาราจักรแห่งความตายอยู่ภายใน เคล็ดวิชานี้พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ปกคลุมไปทั้งผืนโลก และในไม่ช้ามันจะให้กำเนิดวารีลึกล้ำ

“หึ ก็แค่ฝูงอสูรขอบเขตตำหนักอินทนิลตัวน้อย กลับกล้าอาละวาดเช่นนี้เลยหรือ? พวกมันกำลังรนหาหาที่ตายอย่างแท้จริง!” นายน้อยโจวคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวขณะที่เต๋ารู้แจ้งกำลังแผ่ออกมาจากร่างกายของเขา จากนั้นก็ตวัดนิ้วออกไปในอากาศเบื้องหน้า

โอม!

แสงสีฟ้าพุ่งออกมาและส่องแสงเจิดจ้าบนท้องฟ้า จากนั้นนิ้วขนาดมหึมาที่ปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายโบราณ ก็ได้ฉีกทะลุท้องฟ้าเสมือนดัชนีของเทพเจ้า มันเขย่าไปทั่วทั้งฟ้าดิน ซึ่งเผยให้เห็นเจตนาฆ่าที่ไร้ขอบเขตและอำนาจขณะที่มันกดลงไปข้างหน้าอย่างรุนแรง

นี่คือดัชนีสูญวิญญาณฟ้า ซึ่งเป็นกระบวนยุทธ์ระดับเต๋าขั้นสมบูรณ์ที่นายน้อยโจวได้รับสืบทอดมาจากบัลลังก์เทพเต๋าแห่งการต่อสู้!

ทันทีที่นิ้วขนาดมหึมาปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า มันได้ทำลายเคล็ดวิชาของอสูรปูเกล็ดสีฟ้าโดยตรง จากนั้นพลังนั้นก็กระจายไปรอบ ๆ และบดขยี้อสูรปูเกล็ดสีฟ้านับพันตัวตายคาที่ ทำให้แขนขนและร่างกายของพวกมันฉีกเป็นเสี่ยง ๆ อีกทั้งยังย้อมผืนทะเลให้เป็นสีแดงฉาน

นายน้อยโจวเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะเข่นฆ่า เขากู่ร้องก่อนจะพุ่งออกจากเรือมังกรพันขนนก เคลื่อนตัวอยู่ภายในฝูงอสูรทะเลในขณะที่นิ้วปัดป่ายไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า และทุก ๆ การตวัดนิ้ว ก็จะพรากชีวิตของอสูรทะเลไปนับแสนตัว

ในขณะเดียวกัน เผยอวี่ ชุยซิวหง เว่ยมู่อวิ๋น และเหลิ่งเชี่ยนชิวก็เคลื่อนไหวเช่นกัน เคล็ดวิชาทั้งหมดที่พวกเขาได้ใช้นั้นเป็นกระบวนยุทธ์ระดับเต๋าที่สมบูรณ์แบบ พวกเขาเคลื่อนตัวได้อย่างอิสระภายในกองทัพอสูรทะเล ในขณะที่แสงศักดิ์สิทธิ์ร่ายรำอยู่บนท้องฟ้าและลำแสงได้กระแทกลงกับพื้น ทำให้อสูรทะเลฝูงแล้วฝูงเล่าถูกพวกเขาบดขยี้ได้อย่างง่ายดาย เปลี่ยนให้ตัวคนทั้งหมดในบริเวณนั้นดูเป็นอันตรายถึงชีวิตและน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง

โดยเฉพาะเผยอวี่ เขาสมควรที่จะเป็นอัจฉริยะแห่งสวรรค์ที่น่าภาคภูมิใจ ด้วยเขาเป็นผู้นำของทุกคน เสื้อผ้ากระพือไปมาในขณะที่ถือกระบี่สีขาวดั่งหิมะ ยามเคลื่อนตัวไปในฝูงสัตว์อสูรราวกับเขากำลังเดินเล่นอยู่ในลานบ้าน ซึ่งเผยให้เห็นความรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจ ในขณะที่ปราณกระบี่ของเจ้าตัวเหมือนสายฟ้าที่พาดผ่านท้องฟ้าและปกคลุมไปทั่วทั้งผืนดิน ทำให้อสูรทะเลนับไม่ถ้วนถูกฉีกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเหมือนกระดาษและเสียชีวิตภายใต้ปราณกระบี่นี้

เมื่อดูท่าทางที่ผ่อนคลายของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาใช้พลังไปไม่ถึงครึ่งเท่านั้น!

เมื่อเฉินซีเห็นภาพนี้ แม้แต่ชายหนุ่มก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องยอมรับว่าเผยอวี่เป็นคนที่ทรงพลัง ไม่เพียงแต่จะมีความสามารถในการวางอุบายได้อย่างน่าสะพรึง แม้แต่พลังต่อสู้ของเขาก็ไม่ธรรมดา!!!

ฟิ้ว!

อสูรทะเลมีจำนวนมหาศาลและดูไม่มีที่สิ้นสุด เฉินซีไม่อาจคิดเรื่องอื่นได้อีกต่อไป จากนั้นจึงกระโจนออกไปเพื่อพุ่งเข้าใส่ฝูงอสูรทะเลทันที

ตู้ม!

เขาชกหมัดออกไปโดยตรง เกิดเป็นปราณหมัดขนาดใหญ่ที่หลอมรวมเข้ากับไฟและน้ำ จากนั้นก็ระเบิดอย่างรุนแรงจนเกิดรอยแยกมิติขนาดสองลี้ ภายใต้การโจมตีครั้งนี้ ทำให้อสูรทะเลที่อยู่ใกล้เคียงเสียชีวิตทันทีและสลายกลายเป็นความว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวหลงเหลืออยู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]