บทที่ 446 วานรวารีเพลิงคลั่ง
บทที่ 446 วานรวารีเพลิงคลั่ง
บทที่ 446 วานรวารีเพลิงคลั่ง
อสูรทะเลกลุ่มนี้มีรูปร่างสูงใหญ่ มีหัวเป็นปลามีร่างกายมนุษย์ ใบหน้าน่าเกลียด พวกมันสวมชุดเกราะขาดรุ่งริ่ง และถือง้าวทองสัมฤทธิ์เอาไว้ในมือ อักขระยันต์เปล่งประกายเฉียบคมไหววูบอยู่บนตัวง้าว
โดยเฉพาะปีกสีดำสนิทคู่หนึ่งบนหลัง ที่ทำให้พวกมันเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและว่องไวท่ามกลางพายุ กลิ่นอายของพลังดาราจักรแห่งความตายที่แผ่ออกมาจากกายของพวกมันชวนให้ผู้คนรู้สึกใจสั่น
“ระวัง พวกนี้คืออสูรมัจฉาวิญญาณ เทียบกับเผ่าพันธุ์อื่นที่อยู่ในทะเลบรรพกาลแล้ว พวกมันถือเป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์อสูรทะเลที่แข็งแกร่งยิ่งกว่า เพราะสามารถบินบนท้องฟ้าและดำดิ่งลงไปในทะเลได้ ความแข็งแกร่งของพวกมันเทียบได้กับผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง ทำให้สังหารได้ยากยิ่ง” หวงฝู่ฉิงอิงเตือนพวกเขาทันทีที่นางเห็นกองทัพอสูรปลาโผล่ออกมาจากพายุที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
“อสูรมัจฉาวิญญาณเหล่านี้เชี่ยวชาญเต๋ารู้แจ้งแห่งสายลมและวารี อีกทั้งยังมีไข่มุกต้นกำเนิดถูกควบแน่นอยู่ภายในร่างกายของพวกมัน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการบ่มเพาะเต๋าแห่งลมและน้ำของเราอย่างมากด้วย” เหลิ่งเชี่ยนชิวกล่าวเสริม ขณะที่เหวี่ยงโซ่กระดูกในมือออกไป โซ่กระดูกสีขาวกลายเป็นสายรุ้งเส้นยาวข้ามผ่านท้องฟ้า ทำลายแนวทัพของอสูรมัจฉาวิญญาณ และแยกพวกมันออกจากกันอย่างดุเดือด
ในชั่วพริบตาเดียว ร่างของอสูรมัจฉาวิญญาณกว่าร้อยตัวก็ระเบิดออก ไข่มุกต้นกำเนิดสีดำแวววาวและโปร่งแสงกว่าหนึ่งร้อยเม็ด ถูกโซ่กระดูกยาวรวบกลับสู่ฝ่ามือของเหลิ่งเชี่ยนชิว
“ผู้บ่มเพาะมนุษย์!”
“ดูเหมือนว่าสมรภูมิบรรพกาลได้เปิดขึ้นอีกครั้งแล้ว ฮ่า ๆๆ! ในที่สุดเราก็ได้กินเนื้อมนุษย์สด ๆ แล้ว!”
“ฆ่า ฆ่าพวกมันทั้งหมด อย่าปล่อยให้พวกมันรอดไปได้แม้แต่คนเดียว!”
ทันใดนั้น จิตสังหารหนาแน่นและเสียงหอนแหลมบาดหูที่ดังขึ้นจากกลุ่มอสูรมัจฉาวิญญาณก็สะท้อนก้องไปทั่วทุกทิศ อสูรทะเลเหล่านี้ไม่ต่างจากผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยางทั่วไป พวกมันมีสติปัญญาอยู่ในระดับสูง และรู้วิธีที่จะร่วมมือกันในการต่อสู้ อึดใจต่อมา พวกมันก็รวมพลังกันเพื่อเปิดการโจมตีโต้กลับ
ตู้ม!
อสูรมัจฉาวิญญาณรวมตัวกันเป็นค่ายกลขนาดมหึมา ซึ่งก่อให้เกิดสายฟ้าและใบมีดลมจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาทำลายโซ่กระดูกของเหลิ่งเชี่ยนชิว
“น่าทึ่งจริง ๆ พวกมันรู้วิธีนำค่ายกลมาใช้เป็นกลยุทธ์การต่อสู้เสียด้วย ทว่าค่ายกลนี้หยาบเกินไป หากข้าเป็นผู้จัดขบวนทัพค่ายกลที่ใหญ่ขนาดนี้ อย่างน้อยมันก็น่าจะมีพลังมากกว่านั้นถึงสิบเท่า…” เฉินซีตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหัวและใช้วิชาก่ออัสนีผสานดารา แล้วชกกำปั้นออกไป
เพียงหมัดเดียว คลื่นพายุฝนฟ้าคะนองนับไม่ถ้วนก็หมุนรวมกลายเป็นกระแสน้ำวนอันรุนแรง พุ่งเข้าใส่ศูนย์กลางของค่ายกลที่ก่อตัวขึ้นโดยเหล่าอสูรมัจฉาวิญญาณ ทันใดนั้น ค่ายกลก็พังทลายลงมาพร้อมกับเสียงระเบิดดังก้อง อสูรมัจฉาวิญญาณจำนวนมากถูกบดขยี้เป็นผุยผงในทันที ในขณะที่แก่นโลหิต ปราณอสูรและไข่มุกต้นกำเนิดจำนวนมากถูกดูดเข้าสู่กระแสน้ำวนของพายุฝนฟ้าคะนองลูกนั้น
“กลืนสวรรค์พลิกปฐพี แปรเปลี่ยนทุกสิ่งให้เป็นของตน พลังอิทธิฤทธิ์ที่ศิษย์พี่สามสร้างขึ้นมานี้ช่างทรงพลังจริง ๆ!” ภายในใจของเฉินซีเต็มไปด้วยความชื่นชม แก่นโลหิตและปราณอสูรถูกกลืนเข้าไปในร่างกายของเขา ทันใดนั้น สัมผัสอันอบอุ่นก็ไหลผ่านไปทั่วทั้งร่างกาย และเติมเต็มพลังงานทั้งหมดที่ชายหนุ่มใช้ไปให้กลับคืนมาในทันที
ผลของการขัดเกลาแก่นโลหิตและปราณอสูรให้กลายเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ และเติมปราณจ้าววิญญาณในตัวให้เต็มอีกครั้งนับเป็นสิ่งที่ท้าทายสวรรค์อย่างหนึ่ง แม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยในเรื่องการบ่มเพาะของเฉินซีเลย แต่ตราบใดที่เขาสามารถดูดกลืนแก่นโลหิตและปราณอสูรได้มากพอ เฉินซีก็จะสามารถทำให้ปราณจ้าววิญญาณของเขาไร้ที่สิ้นสุดได้ ไม่ต่างจากหุ่นเชิดที่ต่อสู้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ส่วนไข่มุกต้นกำเนิดนั้นเต็มไปด้วยร่องรอยและกลิ่นอายของเต๋าแห่งลมและน้ำอยู่ มูลค่าของมันจึงเทียบเท่าได้กับสมุนไพรวิญญาณระดับเต๋า!
เพราะถึงอย่างไร ความแข็งแกร่งของอสูรมัจฉาวิญญาณเหล่านี้ก็เทียบได้กับผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำหยินหยาง และไข่มุกต้นกำเนิดของพวกมันก็ไม่ต่างอะไรกับแกนทองคำของผู้บ่มเพาะมากนัก ดังนั้นมูลค่าของมันจึงน่าอัศจรรย์ยิ่ง
“ไข่มุกต้นกำเนิดสามร้อยยี่สิบลูก… กระเป๋าของข้ายามนี้แห้งเหี่ยวและสะอาดสะอ้านยิ่งนัก แม้ว่ามูลค่าของไข่มุกต้นกำเนิดเหล่านี้จะยังไม่สามารถประเมินได้ แต่ถ้าสะสมได้มากกว่านี้ก็จะมีมูลค่าโดยรวมที่มหาศาลแน่นอน” เฉินซีมองดูครู่หนึ่ง ก่อนจะเก็บไข่มุกต้นกำเนิดเข้าไปในเจดีย์บำเพ็ญทุกข์
ในขณะเดียวกันนั้น คนอื่น ๆ เองก็เริ่มตามล่าและโจมตีอสูรมัจฉาวิญญาณเต็มกำลังอย่างต่อเนื่อง มูลค่าของไข่มุกต้นกำเนิดเหล่านี้สูงมาก และพวกเขาทุกคนย่อมรู้ดีว่ามันคือความมั่งคั่งที่มหาศาลจนน่าตกใจ เพราะหากเป็นในโลกภายนอก การที่พวกเขาจะเจออสูรทะเลจำนวนมหาศาลให้สามารถไล่ล่าและฆ่าได้มากมายเช่นนี้แทบเป็นไปไม่ได้เลย
โชคลาภดังกล่าวสามารถหาพบได้ในทะเลบรรพกาลของสมรภูมิบรรพกาลเท่านั้น
“ฆ่า!”
แสงจากพลังอิทธิฤทธิ์กวาดไปทั่วท้องฟ้า เต๋ารู้แจ้งกระจายตัวออก การโจมตีแทบทุกรูปแบบได้ปกคลุมทั่วทั้งผืนฟ้าและพื้นดิน อสูรมัจฉาวิญญาณกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าถูกสังหารทิ้ง ดุจใบไม้ที่ร่วงหล่นเมื่อต้องลมในฤดูใบไม้ร่วง
พวกเขาต่างเป็นหนึ่งในอัจฉริยะอันดับต้น ๆ ของโลก ระดับการบ่มเพาะ ความเชี่ยวชาญในกระบวนยุทธ์และสมบัติวิเศษของพวกเขายังห่างไกลกว่าที่อสูรเหล่านี้จะเอาตัวมาเปรียบเทียบได้ ดังนั้น เมื่อพวกเขาเริ่มลงมือไล่สังหารอย่างเต็มกำลัง ภาพที่ปรากฏจึงเป็นฉากที่พวกเขากวาดผ่านฝูงอสูรด้วยกำปั้น ประหนึ่งกวาดใบไม้แห้งตามพื้น
แต่คนที่โดดเด่นที่สุดในหมู่พวกเขานั้นคือเฉินซี การโจมตีแต่ละครั้งของชายหนุ่มนั้นราวกับมีพายุสายฟ้าฟาดลงมา ระเบิดผืนน้ำออกเป็นเสี่ยง ๆ ทำให้เกิดกระแสน้ำวนนับไม่ถ้วนห้อมล้อมรอบตัวเขาเอาไว้ วังวนพายุอัสนีแต่ละลูกได้เปลี่ยนเป็นอ่างเลือดขนาดใหญ่พัดพาและกลืนกินทุกสิ่งที่อยู่รอบข้างในเวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจ อสูรปลานับหมื่นก็ถูกมันกลืนหายจนหมดสิ้น
จนแล้วจนรอด คนอื่น ๆ ก็ไม่ได้ลงมือเคลื่อนไหวมากมายอะไรนัก เพราะอสูรปลาทั้งหลายถูกเฉินซีกำจัดจนหมดก่อนที่พวกเขาจะทันทำสิ่งใดแล้ว ดั่งฝูงตั๊กแตนโหยที่ไม่เหลือทิ้งสิ่งใดไว้เบื้องหลังเลย
“พลังอิทธิฤทธิ์นั่นมันอะไรกัน? ช่างรุนแรงนัก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...