บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 455

บทที่ 455 บดขยี้ศัตรู

บทที่ 455 บดขยี้ศัตรู

พรวด!

ตี๋ว่านโหลวกระอักเลือดออกมาเต็มปาก ดวงตาของเขากลอกขึ้นและแทบจะหมดสติ แม้ว่าเขาจะมีปราณแท้คอยปกป้องอยู่ แต่การถูกเฉินซียกขึ้นและฟาดลงกับพื้นโดยตรง ก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสและเห็นดวงดาวลอยล่องไปทั่ว เขาพยายามคลานขึ้นมาด้วยความยากลำบาก

ตึง!

อย่างไรก็ตาม เฉินซีคว้าจับมือขวาของเขาและเหวี่ยงร่างขึ้นอีกครา ก่อนที่จะฟาดลงบนก้อนหินขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านข้าง การถูกฟาดในครั้งนี้ทำให้ตี๋ว่านโหลวหมดสติไป ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลที่ร้ายแรงและกระดูกหักหลายส่วน

“พี่ตี๋!” หลีจวิ้นโกรธจนตาแทบถลนออกมา เขาไม่สนใจทุกสิ่งและพุ่งเข้าหาเฉินซีอย่างดุดัน ด้วยการตวัดหอกเงินในมือ เงาหอกจึงปรากฏขึ้นเป็นชั้น ๆ ปลายหอกเปล่งประกายแสงราวกับดอกไม้ท่ามกลางพายุ ซึ่งได้พุ่งผ่านท้องฟ้าและโจมตีไปทางด้านหลังของเฉินซีอย่างรวดเร็ว

ปัง!

เฉินซีกระชากคนที่อยู่ในมือไปขวางหน้าเอาไว้ ทำให้เลือดกระเซ็นไปทั่ว ตี๋ว่านโหลวกรีดร้องโหยหวนและตื่นขึ้นจากการสลบไสล ร่างกายของเขาเกือบจะกลายเป็นตะแกรงจากการถูกแทงด้วยหอกของหลีจวิ้น

“ไร้ยางอาย!” หลีจวิ้นอุทานออกมาด้วยความตกใจ และรู้สึกหวาดกลัวยิ่ง เนื่องจากตนเกือบจะฆ่าตี๋ว่านโหลวแล้ว! สิ่งนี้ทำให้เขาเกลียดชังเฉินซีมากขึ้น หอกในมือตวัดขณะที่พุ่งออกไปพร้อมกับร่างที่เหมือนสายฟ้าฟาดของเขา และเข้าโจมตีเฉินซีอย่างดุเดือดอีกครั้ง

เฉินซีหันกลับมาในขณะที่มือขวายังคงจับเชลยไว้ มือซ้ายฟันไปกลางอากาศเบา ๆ ทำให้เกิดพายุสายฟ้าออกมา สายฟ้าฟาดและส่งเสียงคำรามที่สั่นสะเทือนท้องฟ้าขณะที่กวาดออกไปโดยตรง

สายฟ้าฟาดลงมา ทำให้มิติพังทลาย สวรรค์และโลกสั่นสะเทือน การโจมตีเบา ๆ ของเฉินซีกลับทำให้เกิดพลังทำลายที่น่าสยดสยองและยิ่งใหญ่ ราวกับเทพเจ้าแห่งสายฟ้ากำลังพิโรธ มารดาแห่งอัสนีกำลังกรีดร้องด้วยความกลัว ซึ่งน่าประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง

ตู้ม!

การโจมตีของหลีจวิ้นถูกสลายและบดขยี้ในทันที ทำให้ตัวคนเซไปข้างหลังพร้อมกับกระอักเลือดออกมาเต็มปาก เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีด้วยกระบวนท่าเดียว!

สิ่งนี้น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง แต่เฉินซีกลับดูไม่พอใจ เพราะนับตั้งแต่เดินทางมาถึงเกาะสมบัติที่ร่วงหล่น ชายหนุ่มก็เชี่ยวชาญก่ออัสนีผสานดาราทุกรูปแบบแล้ว และการโจมตีอย่างเต็มกำลังก็เพียงพอที่จะบดขยี้ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตจุติ ทว่าเขากลับไม่อาจฆ่าหลีจวิ้นด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว และทำให้อีกฝ่ายกระอักเลือดออกมาเท่านั้น มันจึงไม่บรรลุผลตามที่คาดหวังไว้

ด้วยเหตุนี้เองจึงแสดงให้เห็นว่า หลีจวิ้นนั้นแข็งแกร่งมาก มิฉะนั้น เขาจะไม่อาจหลีกหนีหายนะได้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของคนอื่นกลับแตกต่างออกไป เพราะมันเป็นเรื่องที่น่าสยดสยองอย่างมาก เนื่องจากเฉินซีทำให้ผู้เยี่ยมยุทธ์อีกคนของราชวงศ์เทียนหลางได้รับบาดเจ็บสาหัสในการโจมตีเดียว!

ฟิ้ว!

เฉินซีพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับพายุสายฟ้าที่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าและส่งเสียงดังกึกก้อง ทำให้มหาเต๋าแห่งอัสนีและเต๋ารู้แจ้งแห่งการกลืนกินปกคลุมพื้นที่ข้างหน้า

หลีจวิ้นที่บาดเจ็บสาหัสย่อมไม่อาจต้านทานได้ โดยเฉพาะความเร็วที่รวดเร็วเกินไปของเฉินซีและมาถึงที่เบื้องหน้าของหลีจวิ้นในชั่วพริบตา จึงทำให้ชายหนุ่มตกอยู่ในภาวะวิกฤตซึ่งคืบคลานใกล้เข้ามาทันที

ตู้ม!

หลีจวิ้นปลิวกระเด็นดั่งว่าวที่สายป่านขาด ร่างกายของเขาไหม้เกรียมและปล่อยควันสีขาวออกมา

หลังจากกระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง เขาก็ชักกระตุกอยู่ตรงนั้นและไม่อาจลุกขึ้นยืนได้อีก

อันที่จริง ผลลัพธ์เช่นนี้ยังถือว่าดีอยู่ หากเฉินซีตั้งใจจะบดขยี้ ชายหนุ่มย่อมสามารถกลืนกินหลีจวิ้นได้ทันที จากนั้นค่อยเปลี่ยนแก่นโลหิตและปราณแท้ของหลีจวิ้นให้กลายเป็นความแข็งแกร่งของเขา

แต่เฉินซีไม่ใช่สัตว์ร้าย การทำเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับการกินคน ถึงแม้มันจะสามารถเติมพลังได้ แต่เขาจะไม่ทำเช่นนี้อย่างแน่นอน เว้นเสียว่าจะไม่มีทางเลือกอื่น

จากนั้นเฉินซีก็โยนหลีจวิ้นไปกองอยู่ข้าง ๆ ตี๋ว่านโหลว คนทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อีกต่อไป

ทุกคนต่างประหลาดใจ “คนผู้นี้ร้ายกาจเกินไป เขาเพียงลงมือไม่กี่ครั้ง แต่กลับสามารถบดขยี้ผู้เยี่ยมยุทธ์อัจฉริยะทั้งสองคนของราชวงศ์เทียนหลาง เขา…ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือไม่?”

“ข้าเคยกล่าวไปแล้ว หากมาสองคนข้าก็จะฆ่าพวกมันทั้งคู่ หากมาเป็นหมู่ข้าก็จะสังหารพวกมันทั้งหมด พวกเศษสวะจากราชวงศ์เทียนหลาง หากต้องการท้าทายข้าแล้วละก็ ข้าก็จะจัดการกับพวกเจ้าจนถึงที่สุด!” เสียงที่ไม่แยแสและนิ่งสงบของเฉินซีดังก้องออกมา

เขามีรูปร่างสูงใหญ่ เสื้อผ้าปลิวไสวไปตามแรงลม อีกทั้งยังมีท่าทางที่ไม่ธรรมดา แต่พร้อมกับเสียงของเขาที่ดังก้องไปทั่วฟ้าดินในขณะนี้ กลิ่นอายที่หยิ่งผยองและคุกคามถูกแผ่ออกมาโดยไม่รู้ตัว หลังจากชายหนุ่มมองไปรอบ ๆ ก็ไม่มีใครสักคนกล้าสบตากับเขาอีก

ทุกคนตกตะลึงด้วยความไม่อยากเชื่อ “หรือว่าคนผู้นี้ต้องการกวาดล้างผู้เยี่ยมยุทธ์ทั้งหมดของราชวงศ์เทียนหลาง?”

“เขาช่างหยิ่งผยองนัก!”

“เขาช่างหยิ่งผยองอย่างแท้จริง!”

“ว่ากันว่าเขาเป็นยอดฝีมือรุ่นเยาว์อันดับหนึ่งของราชวงศ์ซ่ง และความแข็งแกร่งของเขายังเหนือกว่าชิงซิ่วอี้ผู้เป็นเซียนสวรรค์กลับชาติมาเกิดด้วยซ้ำ ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะแข็งแกร่งจริง ๆ และอยู่ในระดับเดียวกับผู้เยี่ยมยุทธ์ระดับสูงบางคนของราชวงศ์ระดับสูง”

ในขณะนี้ เยี่ยนอวี๋เอ๋อร์กับผู้เยี่ยมยุทธ์คนอื่น ๆ ของราชวงศ์เทียนหลางต่างรู้สึกวิตกกังวลเล็กน้อย ตี๋ว่านโหลวและหลีจวิ้นเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดของราชวงศ์เทียนหลาง แต่พวกเขากลับพ่ายแพ้เช่นนี้และถูกบดขยี้จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ดังนั้น แม้พวกเขาจะท้าทายเฉินซี แต่ก็คงไม่อาจทำสิ่งใดได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]