บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 456

บทที่ 456 สยบเหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์

บทที่ 456 สยบเหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์

ในสมรภูมิบรรพกาลแห่งนี้ เนื่องจากความแตกต่างทางกฎของเต๋าแห่งสวรรค์ ผู้บ่มเพาะจึงไม่ถูกจำกัดการบ่มเพาะเมื่อใช้สมบัติวิเศษไม่ว่าระดับใดก็ตาม

ตัวอย่างเช่น พัดนกยูงเพลิง ซึ่งเป็นสมบัติกึ่งอมตะของซวีเหลิ่งเยี่ย และกระบี่โศกนภา ซึ่งเป็นสมบัติกึ่งอมตะของเผยอวี่ ล้วนเป็นเช่นนี้ทั้งสิ้น

แม้ว่ากระบี่บินสีแดงสดที่โม่หลิงครอบครองอยู่จะไม่ใช่สมบัติกึ่งอมตะ แต่มันเป็นสมบัติวิเศษระดับสวรรค์ขั้นสุดยอดที่ได้รับการขัดเกลาด้วยเหล็กผลึกอัคคีจากแกนกลางของโลก และถูกห่อหุ้มด้วยอักขระยันต์ที่ความลึกล้ำหลากหลาย ทำให้มันดูน่าอัศจรรย์อย่างหาที่เปรียบมิได้

อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ กระบี่บินเล่มนี้กลับแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยหมัดเดียวของเฉินซี และกลายเป็นฝนโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าก่อนที่จะหายไปราวกับดอกไม้ไฟ ถึงแม้ฉากนั้นจะงดงาม แต่กลับทำให้ใจของผู้คนสั่นไหวได้

ทุกคนตกตะลึงและไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่า พลังอันน่าสะพรึงกลัวที่อยู่ในการโจมตีเมื่อครู่ของเฉินซี จะสามารถทำลายสมบัติวิเศษระดับสวรรค์ขั้นสุดยอดได้ง่ายดาย

พรวด!

กระบี่บินของเขาถูกทำลาย ทำให้จิตใจของโม่หลิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เขากระอักเลือดออกมาเต็มปากทันที ก่อนที่สีหน้าของชายหนุ่มจะซีดเซียวและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

เดิมทีเขาคิดว่า หากอาศัยกระบี่บินระดับสวรรค์ขั้นสุดยอดที่ไร้สุ้มเสียงนี้ เขาจะสามารถฆ่าเฉินซีด้วยการลอบจู่โจมได้ แต่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเฉินซีจะแข็งแกร่งอย่างน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้!

ความแข็งแกร่งที่เปิดเผยออกมาของเฉินซีน่าสะพรึงกลัวยิ่ง!!

เหมือนสุภาษิตที่ว่า ‘การพูดนั้นง่าย แต่ลงมือทำนั้นยาก’ มีเพียงผู้เคยต่อสู้กับเฉินซีเท่านั้นที่จะสามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ว่า ชายหนุ่มนั้นน่าสะพรึงกลัวเพียงใด

ฟุ่บ!

ในขณะนี้ เฉินซีพุ่งเข้าใส่อีกครั้ง ฝ่ามือขวาของเขาพลันกดลงเบื้องหน้า ทำให้พายุสายฟ้าควบแน่นอยู่บนฝ่ามือ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นสายฟ้าที่คดเคี้ยวไปมาและแหลมคม

พรวด!

ประกายสีแดงเลือดปรากฏขึ้นบนแขนขวาที่เกือบจะถูกตัดขาดของโม่หลิง และเลือดสด ๆ ก็ไหลออกมาเป็นทาง

ตู้ม!

ต่อจากนั้น เฉินซีก็ฟันพายุฝนฟ้าคะนองที่สว่างไสวและเปล่งประกายออกไปอีกครั้ง คราวนี้มันพุ่งเข้าใส่ร่างของโม่หลิงที่บาดเจ็บสาหัส และอีกฝ่ายไม่มีทางที่จะป้องกันมันได้

“อ๊าก!!” โม่หลิงส่งเสียงร้องโหยหวน ร่างกายของเขาไหม้เกรียมและถูกระเบิดกระเด็นปลิวดั่งว่าวที่สายป่านขาด จึงไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้อีก

ตั้งแต่เยี่ยนอวี๋เอ๋อร์หมดสติหลังได้รับบาดเจ็บสาหัส จนกระทั่งเฉินซีออกหมัดอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าเพื่อระเบิดโม่หลิงให้กระเด็นออกไป การโจมตีอย่างต่อเนื่องได้เสร็จสิ้นอย่างราบรื่นในคราวเดียว ซึ่งเกิดขึ้นในเวลาไม่กี่อึดลมหายเท่านั้น อีกทั้งยังรวดเร็วเสียจนทุกคนไม่อาจตอบสนองทัน

ตุบ! ตุบ!

เยี่ยนอวี๋เอ๋อร์และโม่หลิงถูกเฉินซีโยนไปทางด้านข้าง ซึ่งนอนเคียงข้างอยู่กับหลีจวิ้นและตี๋ว่านโหลวที่บาดเจ็บสาหัสและหมดสติอยู่

ภาพนี้ทำให้ทุกคนตัวสั่นด้วยความกลัว เวลาผ่านไปเพียงช่วงสั้น ๆ แต่ผู้เยี่ยมยุทธ์ที่ทรงพลังทั้งสี่คนกลับพ่ายแพ้ด้วยเงื้อมมือของเฉินซี และพวกเขาก็ไม่คู่ควรกับชายหนุ่มอย่างสิ้นเชิง รูปลักษณ์ที่น่าสังเวชของพวกเขาทำให้ทุกคนไม่อาจทนดูได้

เผยอวี่ ฉินเซียว และคนอื่น ๆ ล้วนมีสีหน้าตกใจ ซึ่งดูเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่

“เขาแข็งแกร่งจริง ๆ ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนเช่นนี้อยู่ด้วย เพียงแค่การขัดเกลากายาของเขาก็เพียงพอที่จะเทียบกับลูกหลานของเทพอสูรโบราณได้แล้ว!!” ดวงตาที่ใสกระจ่างของปี้หลิงอวิ้นดูลึกซึ้งขึ้นมา ขณะพึมพำกับตัวเองด้วยเสียงอันแผ่วเบา และผลึกสีเขียวระหว่างคิ้วของนางก็เปล่งประกายแวววาว

เฉินซีกวาดสายตามองทุกคนที่อยู่โดยรอบ จึงได้เห็นว่าคนส่วนใหญ่มีสีหน้าหวาดกลัว โดยเฉพาะผู้เยี่ยมยุทธ์อัจฉริยะของราชวงศ์เสวี่ยหงและราชวงศ์เทียนหลาง แม้ว่าจะจ้องมองมายังเขาอย่างเกลียดชัง แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวอย่างผลีผลาม ส่วนผู้เยี่ยมยุทธ์อัจฉริยะจากราชวงศ์ตงเซี่ยที่อยู่อีกด้านหนึ่ง ยังคงเฝ้าดูอย่างเย็นชาตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่ได้กระทำการอุกอาจ

ตั้งแต่มาถึงเกาะสมบัติที่ร่วงหล่น สถานการณ์ของหวงฝู่ฉิงอิง นายน้อยโจวและตัวเขาก็ยังห่างไกลจากคำว่าดี เนื่องจากมีศัตรูจำนวนมากจ้องมองพวกเขาอย่างคุกคามจากบริเวณใกล้เคียงและพันธมิตรที่ซ่อนเจตนาร้ายอยู่เคียงข้าง ทำให้สถานการณ์ของพวกเขาน่าเป็นห่วง

หากต้องการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ชั่วคราว เขาก็ทำได้เพียงแต่เผยเขี้ยวอันแหลมคมและความแข็งแกร่งออกมาเพื่อคุกคามทุกคน ด้วยวิธีนี้ จึงจะกระตุ้นความหวาดกลัวในใจของศัตรูจนไม่กล้าผลีผลามลงมือ

ดังนั้นจึงเกิดเหตุการณ์เช่นก่อนหน้านี้

อาจกล่าวได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เอาชนะตี๋ว่านโหลวและหลีจวิ้น หรือทำให้เยี่ยนอวี๋เอ๋อร์กับโม่หลิงได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาก็แทบไม่มีการยั้งมือ ชายหนุ่มได้ใช้พลังทั้งหมดเพื่อบดขยี้ศัตรูของเขาในช่วงเวลาที่สั้นที่สุด เพื่อสร้างความตกใจและส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในหัวใจของผู้บ่มเพาะที่เฝ้าดูอยู่ทั้งหมด

เมื่อราชาแห่งสัตว์ร้ายคำราม มันสามารถสยบสัตว์ร้ายได้นับร้อยตัวและสามารถสั่งการสัตว์ร้ายอีกนับหมื่นได้ ดังนั้นไม่ต้องกล่าวถึงเฉินซีที่บดขยี้ผู้เยี่ยมยุทธ์อัจฉริยะทั้งสี่คนด้วยตัวคนเดียว

สิ่งนี้เรียกว่าอำนาจสยบฟ้า!

“ถึงแม้ชิงซิ่วอี้แห่งราชวงศ์ซ่งจะไม่ได้มา แต่เฉินซีก็มาแทน และความแข็งแกร่งของเขาก็น่าตกใจเช่นกัน หากคนผู้นี้ไม่ถูกกำจัดโดยเร็วที่สุด เขาจะต้องเติบโตเป็นบุคคลชั้นนำที่สามารถควบคุมกองกำลังอันยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน” ภายในฝูงชนที่อยู่ห่างไกล ชายหนุ่มสองสามคนกำลังสนทนากันผ่านกระแสปราณอย่างลับ ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]