บทที่ 473 เอาชีวิตรอด
บทที่ 473 เอาชีวิตรอด
ปี้หลิงอวิ้นและฉินเซียวต่างแสดงความดูถูกเหยียดหยามผ่านสายตา จากนั้นพวกเขาก็โคจรพลังอย่างรวดเร็ว โดยตั้งใจที่จะใช้พลังเพื่อฉีกร่างของเฉินซีจากภายใน
“ดูดซับ!”
เฉินซีในขณะนี้คำรามเสียงดังกึกก้อง อีกทั้งยังไม่เพียงแต่ไม่ต้านทานพลังเหล่านี้เท่านั้น เขายังชักนำกระแสพลังทั้งสองเข้าสู่ร่างกายด้วยความตั้งใจ เนื่องจากเขาต้องการใช้มันผสานกับปราณแท้ เพื่อพิชิตเพลิงลงทัณฑ์ที่อยู่ภายในท้องทะเลแห่งลมปราณของเขา
ในเวลาเดียวกัน จิตวิญญาณของเขาได้เชื่อมโยงเข้ากับฟ้าดิน โดยตั้งใจจะชักนำสายฟ้าลงทัณฑ์ที่อยู่บนท้องฟ้าลงมา
ครืนนน!
คลื่นความผันผวนที่น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่งได้แผ่ออกมาจากจุดที่เขายืนไปยังทุกทิศทุกทาง ทำให้ซากปรักหักพังโดยรอบราบเป็นหน้ากลอง ซึ่งมันไม่ต่างกับคลื่นยักษ์ที่ซัดสาดอย่างเกรี้ยวกราด จึงทำให้สีหน้าของผู้เยี่ยมยุทธ์ที่เฝ้าดูการต่อสู้อยู่ในระยะไกลดูตกตะลึงในทันที จากนั้นพวกเขาก็รีบล่าถอยอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเกรงว่าตนเองจะได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ
ก้อนหินและภูเขาในระยะพันลี้ถูกคลื่นพลังจนสลายเป็นผุยผง ในขณะที่พื้นดินได้แยกออกจากกันจนเป็นรอยแยกขนาดใหญ่ที่เหมือนกับใยแมงมุมที่มีความยาวถึงหกลี้ นอกจากนั้น มิติยังแตกเป็นเสี่ยง ๆ แผ่นดินทรุดลงและโลกทั้งใบก็ดูจะบิดเบี้ยว
เฉินซีร้องครวญครางอย่างเจ็บปวด ขณะที่ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว เขาเจ็บปวดราวกับถูกเฉือนด้วยใบมีดนับหมื่นเล่ม เช่นเดียวกับวิญญาณที่รู้สึกราวกับกำลังถูกแยกออกจากกันทีละนิด อีกทั้งยังรู้สึกถูกเผา ถูกทรมาน ถูกฟาดและถูกบดขยี้
ความรู้สึกต่าง ๆ ที่เขาเผชิญอยู่นั้น เหมือนกับทั้งร่างกายถูกเผาไหม้อยู่ในเตากลั่นแห่งการชำระล้าง ซึ่งมันยากที่จะทานทน!
และถึงแม้ว่าเฉินซีจะเผชิญกับความยากลำบากที่เกิดขึ้นในระหว่างบ่มเพาะจนกระทั่งถึงตอนนี้ แต่เขาก็สามารถผ่านพ้นมันมาได้เสมอ
แต่ความทรมานที่ได้รับในวันนี้ เกือบทำให้ชายหนุ่มพังทลาย เนื่องจากในแต่ละช่วงเวลาที่ผ่านพ้นไป เขาต้องทนทุกข์กับความเจ็บปวดและการทรมานที่ไม่มีใครเทียบได้
เพลิงลงทัณฑ์ลุกโชนขึ้นอยู่รอบตัวเขา จากนั้นก็โหมกระหน่ำไปมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และดูเหมือนว่าพวกมันกำลังจะควบแน่นเข้าด้วยกัน แต่กลับแยกออกจากกัน
ในขณะที่บนท้องฟ้าเหนือศีรษะ สายฟ้าลงทัณฑ์กำลังส่งเสียงคำรามดังกึกก้องและสายฟ้าสีแดงเข้มก็ส่องประกายเจิดจ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งดูเหมือนว่าพวกมันใกล้จะผ่าลงมาในไม่ช้า
“เขาดูจะหยิบยืมพลังของคู่ต่อสู้เพื่อบดขยี้เพลิงลงทัณฑ์ ยิ่งไปกว่านั้น ยังชักนำสายฟ้าลงทัณฑ์เพื่อควบแน่นกงล้อสังสารวัฏในท้องทะเลแห่งลมปราณของเขาและพิชิตทัณฑ์สวรรค์!”
ผู้ชมทั้งหมดอ้าปากค้าง
“เฉินซีคนนี้กล้าหาญจริง ๆ หรือว่าเขาจะไม่รู้ตัวว่าความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจทำให้เขาเสียชีวิตได้!”
ซึ่งไม่ต้องกล่าวถึงปี้หลิงอวิ้นกับฉินเซียว ซึ่งจะไม่มีวันให้ความร่วมมืออย่างเชื่อฟังเลย!
ความเป็นจริงก็เป็นไปตามที่ทุกคนคาดไว้ ปี้หลิงอวิ้นและฉินเซียวไม่ต้องการสิ่งอื่นใด นอกจากอยากให้เฉินซีตายโดยเร็วที่สุด ดังนั้นพวกเขาย่อมไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มมีโอกาสเอาชีวิตรอด จากนั้นพวกเขาก็ระดมพลังทั้งหมดเพื่อพุ่งเข้าใส่ร่างของเฉินซีอย่างรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเหมือนกับสัตว์ประหลาดดุร้ายสองตัวที่กำลังอาละวาดด้วยความตั้งใจที่จะแยกร่างชายหนุ่มออกจากกัน
ร่างกายของเฉินซีเจ็บปวดจนเขาครวญครางออกมาและไอเป็นเลือดไม่หยุด เส้นลมปราณทั่วร่างกายของเขารู้สึกราวกับถูกแผดเผา และมีรอยแตกจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นบนเนื้อหนัง ทำให้ดูเหมือนกับว่าร่างของเขากำลังจะระเบิดในไม่ช้า
แต่ความรู้สึกเจ็บปวดที่รุนแรงอย่างมากนี้กลับกระตุ้นความดุร้ายของเฉินซีแทน
เขาคำรามออกมาด้วยความโกรธา ขณะที่พายุสายฟ้าก็ส่งเสียงดังก้องเหมือนเสียงฟ้าร้อง จากนั้นเขาก็ชักนำพลังของปี้หลิงอวิ้นและฉินเซียว ทะลวงเข้าสู่ท้องทะเลแห่งลมปราณของตน และใช้พลังของพวกเขาบดขยี้เพลิงลงทัณฑ์!!
ถูกต้อง! เฉินซีไม่ได้คิดที่จะยอมแพ้ แม้ว่ามันจะเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายอย่างมาก แต่เขาก็ไม่ได้ท้อถอยเลยและยังคงพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อจะใช้พลังของศัตรูในการพิชิตทัณฑ์สวรรค์แห่งการจุติที่แสนอันตรายนี้
ครืนน!
พายุสายฟ้าส่งเสียงคำรามดังกึกก้องและเมื่อมันมาถึงจุดสูงสุด มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ก็ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นมา และภายในนั้นได้มีปลาสีดำขนาดใหญ่กำลังแหวกว่ายก่อนจะกลายเป็นร่างเงาที่บดบังท้องฟ้าของคุนเผิง!
คุนเผิงได้เปลี่ยนร่างจากปลากลายเป็นวิหคเมื่อทะยานออกจากทะเล ปีกของมันลอยอยู่บนท้องฟ้าและปกคลุมพื้นที่นับหมื่นลี้ มันกำลังกระพือปีกเพื่อขึ้นสู่สวรรค์ทั้งเก้า ขณะท่องไปในจักรวาลอันไร้ขอบเขต และกลืนกินทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
ร่างเงาสีทองของคุนเผิงได้ปรากฏขึ้นในขณะนี้และได้กลืนกินพลังงานทั้งหมดที่อยู่รอบข้าง ซึ่งแท้จริงแล้ว มันได้กลืนกินและขัดเกลาพลังงานทั้งหมดที่เฉินซีชักนำเข้ามาโดยตรง
“บัดซบ!” ใบหน้าของปี้หลิงอวิ้นกับฉินเซียวดูเคร่งขรึมเมื่อพวกเขาพบว่าสถานการณ์นั้นเกินความคาดหมาย ปราณแท้ พลังชีวิต หรือแม้แต่แก่นโลหิตของพวกเขากำลังพุ่งเข้าสู่ร่างกายของเฉินซีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดูเหมือนว่ามันกำลังสนับหนุนชายหนุ่มในการระงับเพลิงลงทัณฑ์อยู่
“ทุ่มพลังออกไปให้หมด!” ทั้งคู่ตัดสินใจทันทีและใช้พลังทั้งหมดด้วยความตั้งใจที่จะพลิกสถานการณ์
ทว่าพวกเขากลับต้องประหลาดใจแทน เนื่องจากการต่อต้านและดิ้นรนของพวกเขาดูจะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ซึ่งมันถึงขั้นที่พวกเขารู้สึกราวกับตัวเองได้ตกลงไปในหนองน้ำอันไร้ก้นบึ้ง ทำให้พวกไม่สามารถเคลื่อนไหวและถูกขังอยู่ตรงนั้น
“อะไรกัน! เขากำลังจะสำเร็จแล้วจริง ๆ หรือ?”
“ไม่ ทัณฑ์สวรรค์ยังไม่จุติลงมา และยังมีโอกาสที่จะสังหารมันอยู่ เร็วเข้า! ฉวยโอกาสนี้หยุดมันซะ! อย่าปล่อยให้มันได้โอกาสและพิชิตทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จเป็นอันขาด!”
ในขณะนี้ เหวยคง เฉิงเฟิง และคนอื่น ๆ อีกสองสามคนที่ยังคงอยู่หลังจากเผชิญกับการต่อสู้อันน่าสะพรึงกลัวก่อนหน้านี้ พวกเขาสังเกตเห็นว่าสถานการณ์ไม่ได้ราบรื่นนัก จึงพุ่งเข้าใส่ทันที
ซึ่งแม้แต่เผยอวี่ก็พุ่งเข้าหาเฉินซีโดยปราศจากความลังเล
เนื่องจากคนทั้งหมดไม่อาจทนได้หากเฉินซีจะมีโอกาสรอดชีวิต แล้วนับประสาอะไรกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เพราะเมื่อเฉินซีทำได้สำเร็จ มันจะเป็นหายนะครั้งใหญ่อย่างแน่นอน!!
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะเข้าถึงตัวเฉินซี พวกเขากลับถูกคลื่นผันผวนอันน่าสะพรึงกลัวขัดขวางเอาไว้ ทำให้ร่างของพวกเขาสั่นสะเทือนจนกระอักเลือดออกมาคำใหญ่ ดังนั้นพวกเขาจึงกระจายตัวไปรอบ ๆ และพบว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะรุกเข้าไปใกล้กว่านี้
อาณาเขตที่น่าสะพรึงกลัวจนเกินจะพรรณาได้ก่อตัวขึ้นที่นี่!
เมื่อสัมผัสได้ถึงสิ่งนี้ ใบหน้าของเผยอวี่และคนอื่น ๆ พลันบิดเบี้ยวเหยเกทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...