บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 474

บทที่ 474 ความหมายที่แท้จริงของการจุติ

บทที่ 474 ความหมายที่แท้จริงของการจุติ

อาณาเขตภายในเกาะสมบัติที่ร่วงหล่นนั้นกว้างใหญ่อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ราวกับทวีปที่ลอยอยู่เหนือทะเลบรรพกาล มันเต็มไปด้วยซากปรักหักพังและดินสีแดงเข้มที่แห้งแล้งอย่างสิ้นเชิง ยิ่งไปกว่านั้น สมบัติที่ส่องประกายเจิดจ้าจะพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและคอยดึงดูดเหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์กลุ่มแล้วกลุ่มเล่าเป็นครั้งคราว

สมบัติเหล่านี้เป็นสมบัติที่ถูกทวยเทพทิ้งไว้หลังจากล้มตายจากการต่อสู้ในสมัยโบราณ และตราบใดที่สามารถสยบชิ้นใดชิ้นหนึ่งได้ มันก็เพียงพอที่จะส่งเสริมผู้บ่มเพาะอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

แต่เฉินซีไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านี้ เขาใช้ปีกนภาดารกะด้วยพลังทั้งหมดและทะยานไปยังฟ้าดินที่ไร้ขอบเขตด้วยความเร็วสูงสุด ราวกับสายฟ้าที่พุ่งผ่านความว่างเปล่า

ร่างกายของเขาอาบไปด้วยเลือดและเต็มไปด้วยบาดแผล อีกทั้งยังเจ็บปวดสาหัสจากการที่ร่างกายถูกเผาไหม้ แต่สีหน้าของเขากลับแข็งทื่อและเย็นชาสุดขีด ราวกับเป็นหุ่นเชิดที่ไม่รู้จักความเจ็บปวด

ลมเย็นยะเยือกพัดใส่ใบหน้าของเขาและรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกใบมีดกำลังเชือดเฉือน ซึ่งได้พัดกระหน่ำใส่เสื้อผ้าและเผ้าผมที่เปื้อนเลือดจนปลิวไสวไปตามสายลม แต่มันก็ไม่อาจพัดพาความดื้อรั้นและจิตใจมุ่งมั่นที่ส่องประกายอยู่ในดวงตาของเฉินซีออกไปได้

มวลเมฆทัณฑ์สวรรค์บนท้องฟ้ากำลังโอบล้อมรอบและไล่ตามเขาไปในระหว่างที่ชายหนุ่มทะยานไปยังท้องฟ้า และสายฟ้าพร่างพราวสีแดงเข้มกำลังกลายเป็นโลกใบเล็ก ๆ ที่แผ่กลิ่นอายแห่งการทำลายซึ่งปรารถนาจะบดขยี้ฟ้าดิน

มันคือพลังแห่งสวรรค์และการลงทัณฑ์ ซึ่งไม่อาจหยั่งถึงและคาดเดาได้

ในขณะนี้ มันลอยอยู่เหนือท้องฟ้าและสายฟ้าก็ไม่ได้ผ่าลงมานานแล้ว ทำให้มันดูเหมือนกับกระบี่แหลมที่กำลังจ่ออยู่ที่คอและห้อยมาจากท้องฟ้าที่อยู่เหนือศีรษะ ซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกสิ้นหวังและอึดอัดใจ

“ความลับของสวรรค์ เต๋าแห่งสวรรค์ เจตจำนงของสวรรค์ การลงทัณฑ์ของสวรรค์… ฮ่า ๆ” สายฟ้าแห่งทัณฑ์สวรรค์ที่ส่องประกายอยู่บนท้องฟ้าสะท้อนอยู่ในดวงตาของเฉินซี ขณะที่ริมฝีปากของเขาก็เต็มไปด้วยการเยาะเย้ย ซึ่งดูราวกับชายหนุ่มกำลังเยาะเย้ยเต๋าแห่งสวรรค์ แต่ก็ดูเหมือนว่าเขากำลังเยาะเย้ยตัวเองเช่นกัน แต่ในไม่ช้า การเยาะเย้ยก็แปรเปลี่ยนเป็นความเด็ดเดี่ยวและความเหี้ยมโหด

ถึงแม้ต้องตาย เขาก็จะไม่ยอมแพ้!

เฉินซีได้รับบาดเจ็บสาหัสและใกล้จะตาย อีกทั้งยังมีภัยคุกคามจากทัณฑ์สวรรค์ที่อยู่บนท้องฟ้าและศัตรูอันทรงพลังก็กำลังไล่ตามอยู่ทางด้านหลัง การไล่ล่าที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่เคยมีมาก่อนได้เริ่มต้นขึ้น ทำให้ทั้งเกาะสมบัติที่ร่วงหล่นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

ข่าวนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วสมรภูมิบรรพกาล ซึ่งได้ก่อให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ในทันทีเมื่อทุกคนได้ทราบข่าว

ประการแรก ผู้เยี่ยมยุทธ์อัจฉริยะทั้งหมดของราชวงศ์เสวี่ยหง ราชวงศ์เทียนหลาง และราชวงศ์ตงเซี่ยที่เข้ามาในเกาะสมบัติที่ร่วงหล่นในครั้งนี้ ล้วนถูกทำลายล้างจนหมดสิ้น ซึ่งข่าวนี้น่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก แต่ผู้ทำให้เกิดสิ่งนี้กลับเป็นชายหนุ่มเพียงคนเดียวที่ต่อสู้กับศัตรูมากมายและทำการเข่นฆ่าทุกคนด้วยพลังที่ไม่อาจหยุดยั้งได้

ยิ่งกว่านั้น เขายังทำลายประกาศิตเซียนสวรรค์ของเผยอวี่ลงเช่นกัน ซึ่งความสามารถที่ท้าทายสวรรค์อันร้ายกาจเช่นนี้ ทำให้พวกเขารู้สึกงุนงงสับสนและไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น

เรื่องนี้ได้กลายเป็นหัวข้อโต้เถียงครั้งใหญ่ไปทั่วทั้งสมรภูมิบรรพกาล และทุกคนต่างก็พูดถึงเรื่องนี้ ทำให้ผู้เยี่ยมยุทธ์อัจฉริยะแห่งราชวงศ์ต้าจิ้นที่ไม่ได้เข้าไปในเกาะสมบัติที่ร่วงหล่นรู้สึกละอายใจจนไม่อาจเงยหน้าขึ้นได้

นอกจากนั้น เฉินซียังได้ชักนำทัณฑ์สวรรค์ในขณะที่ถูกผู้เยี่ยมยุทธ์จำนวนมากปิดล้อม และตั้งใจที่จะบรรลุสู่ขอบเขตจุติในระหว่างการต่อสู้ ซึ่งเขาก็เกือบจะทำสำเร็จเสียด้วยซ้ำ แม้ว่าจะล้มเหลวในท้ายที่สุด แต่ก็น่าตกตะลึงอย่างมากเช่นกัน

ในวันนี้ ผู้เยี่ยมยุทธ์ที่เป็นอัจฉริยะจากราชวงศ์ต่าง ๆ ในสมรภูมิบรรพกาลทั้งหมดล้วนได้ยินถึงเรื่องนี้ และทุกคนกำลังกล่าวคุยกันอย่างอึกทึกครึกโครม

“จงมุ่งหน้าไปยังเกาะสมบัติที่ร่วงหล่น เพื่อสังหารเฉินซีซะ!”

คำสั่งนี้ได้ปรากฏขึ้นในราชวงศ์ต่าง ๆ มากมาย เช่น ราชวงศ์ระดับสูงอย่างราชวงศ์ต้าฉิน ราชวงศ์ต้าจิ้น ราชวงศ์ต้าเสวียน และราชวงศ์ต้าเฉียน ส่วนราชวงศ์ระดับกลางอื่น ๆ ก็ได้แก่ราชวงศ์เสวี่ยหง ราชวงศ์เทียนหลาง และราชวงศ์ตงเซี่ย ท้ายที่สุด ผู้เยี่ยมยุทธ์ที่ล้มตายด้วยน้ำมือของเฉินซีต่างก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผู้เยี่ยมยุทธ์ทั้งหมดจากราชวงศ์เหล่านี้ เมื่อได้ยินว่าสหายของพวกเขากำลังประสบปัญหาในขณะนี้ พวกเขาก็ไม่อาจนิ่งเฉยได้

ที่เกาะสมบัติที่ร่วงหล่นเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทางเข้าสู่ทะเลบรรพกาลและเกาะสมบัติที่ร่วงหล่นได้ถูกปิดตาย

หลายราชวงศ์ได้ร่วมมือกันเพื่อค้นหาและไล่ล่าเฉินซี เพราะพวกเขาตั้งใจที่จะฆ่าเขาบนเกาะสมบัติที่ร่วงหล่น โดยไม่ให้โอกาสชายหนุ่มรอดชีวิต

พวกเขาสาบานว่าจะไม่หยุดจนกว่าจะฆ่าเฉินซีได้ มิฉะนั้นคงจะไม่อาจกินหรือนอนได้อย่างสงบ

นี่เป็นเหตุนองเลือดและกลียุคครั้งใหญ่ ทำให้พื้นที่ซากปรักหักพังทั้งหมดของเกาะสมบัติที่ร่วงหล่นตกอยู่ในความโกลาหล

อีกด้าน เฉินซีไม่ได้นอนหรือพักผ่อนมาติดต่อกันหลายวัน เนื่องจากเขาต้องหลบหนีอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะไปที่ใด ศัตรูของเขาก็จะไล่ล่ามาอย่างรวดเร็ว เพราะมวลเมฆทัณฑ์สวรรค์มักจะปกคลุมท้องฟ้าเหนือศีรษะและตามติดดั่งเงาอยู่เสมอ ซึ่งสะดุดตาเป็นอย่างมาก

ในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ เขาได้เผชิญกับการปิดล้อมนับครั้งไม่ถ้วนและต่อสู้โดยไม่หยุดหย่อน ทำให้ร่างกายอาบไปด้วยเลือด และในระหว่างการเผชิญหน้าที่รุนแรงที่สุด เขาได้พบกับฉินเซียวและปี้หลิงอวิ้นอีกครั้ง!

ในการต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่าได้ทำให้อาการบาดเจ็บของเขาสาหัสและร้ายแรงยิ่งขึ้น อีกทั้งพลังชีวิตในร่างกายก็ใกล้จะเสื่อมถอย

แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ทางออกของเกาะสมบัติที่ร่วงหล่นได้ถูกปิดตาย และได้รับการปกป้องจากผู้เยี่ยมยุทธ์มากมาย ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางหนีออกจากที่แห่งนี้ได้อย่างสิ้นเชิง

สถานการณ์นี้ดำเนินต่อไปเป็นเวลาครึ่งเดือน ซึ่งในช่วงเวลานี้ ปราณจ้าววิญญาณของเฉินซีใกล้จะเหือดแห้งหมดแล้ว และเขาก็ไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะฟื้นฟูอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นทั่วร่างกายไหว ดังนั้นร่างกายของชายหนุ่มจึงมีสภาพย่ำแย่และเต็มไปด้วยอาการบาดเจ็บนับไม่ถ้วนในตอนนี้ ทำให้เขาสามารถตายได้ทุกเมื่อ และได้แต่พึ่งพาลมหายใจเฮือกสุดท้ายเพื่อประคองตัวเอง

ในที่สุดเขาก็หนีการตามล่าอีกครั้งและซ่อนตัวอยู่ในถ้ำบนเทือกเขาก่อนที่จะรักษาอาการบาดเจ็บอย่างเงียบ ๆ เนื่องจากเวลาของเขามีจำกัดและต้องใช้เวลาให้ดีที่สุด มิฉะนั้น ศัตรูของเขาจะไล่ตามมาถึงอีกครั้ง

รูปลักษณ์ของชายหนุ่มในตอนนี้ ดูคล้ายกับหมาป่าเดียวดายที่ได้รับบาดเจ็บและกำลังเลียบาดแผลของตัวเองอยู่ ซึ่งแสดงถึงความดุร้าย ไม่ยอมใคร และจะไม่ละทิ้งความหวังที่จะมีชีวิตรอด

เทือกเขาแห่งนี้ถูกปกคลุมด้วยหมอก ท้องฟ้ามีพายุฝนฟ้าคะนองตลอดทั้งปี ดังนั้นการซ่อนตัวอยู่ภายในถ้ำจะทำให้เขาสามารถปกปิดตัวตนจากมวลเมฆทัณฑ์สวรรค์ที่ชักนำมาด้วยได้ในระดับหนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]