บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 491

บทที่ 491 เพียงแค่ดูข้าฆ่า

บทที่ 491 เพียงแค่ดูข้าฆ่า

แรงเหยียบของหงจัวนั้นรุนแรงมาก ทำให้ใบหน้าของจ้าวชิงเหอบิดเบี้ยว โหนกแก้มของเขาเปล่งเสียงแตกหักและใกล้จะแตกในไม่ช้า

การทุบตีไม่ควรตบไปที่หน้า นับประสาอะไรกับการถูกเหยียบย่ำหน้าด้วยฝ่าเท้า ความอัปยศอดสูที่รุนแรงนี้ทำให้ร่างกายของจ้าวชิงเหอสั่นจนควบคุมไม่ได้ ดวงตาของเขาแทบจะถลนจนเลือดไหลออกมา ถ้าเป็นไปได้ เขาก็ไม่ต้องการสิ่งใดนอกจากฆ่าตัวตาย ดีกว่าถูกศัตรูทรมานและทำให้ขายหน้าด้วยวิธีนี้

เขาพยายามดิ้นรนอย่างสุดความสามารถ แต่การกระทำนี้กลับดูไร้เรี่ยวแรง เนื่องจากเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บสาหัสจึงไม่มีเรี่ยวแรงเหลือแม้แต่น้อย อีกทั้งตอนนี้ยังถูกมัดด้วยเชือกหวาย จึงไม่จำเป็นต้องพูดถึงการดิ้นรน เพราะเขาไม่มีแม้แต่แรงที่จะขยับนิ้วเลยด้วยซ้ำ

“อย่าจ้องข้าแบบนี้ อย่างไรเสียวันนี้เจ้าก็ต้องตาย แล้วเหตุใดเจ้าไม่ผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับเคล็ดทรมานของข้าล่ะ? ข้ามีเคล็ดวิชาอยู่มากมายจนเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการได้อย่างแน่นอน”

หงจัวคุกเข่าลง จ้องมองไปยังดวงตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและโกรธเกรี้ยวของจ้าวชิงเหอ ก่อนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะด้วยความยินดี จากนั้นจึงยกมือขึ้นและตบลงไปที่ใบหน้าของจ้าวชิงเหอเบา ๆ พร้อมกับกล่าวช้า ๆ ว่า ”เจ้าเป็นผู้ขัดเกลากายาหรือ? งั้นข้าจะใช้มีดทื่อเฉือนเนื้อของเจ้าทีละนิด จากนั้นจะวางมดกินไขกระดูกไว้ทั่วตัวเจ้า แล้วปล่อยให้เจ้าเฝ้าดูเจ้าตัวเล็กน่ารักเหล่านี้ค่อย ๆ กลืนกินกระดูกของเจ้าทีละนิด แค่คิดถึงขั้นตอนอันยอดเยี่ยมนี้ ก็ทำให้ข้าตื่นเต้นแล้ว…”

เสียงของหงจัวนั้นอ่อนโยน แต่กลับแฝงไปด้วยความพึงพอใจและโหดเหี้ยม แต่เมื่อมันเข้าสู่หูของจ้าวชิงเหอ กลับไม่เกิดผลกระทบใด ๆ แม้แต่น้อย เขายังคงเม้มริมฝีปากแน่นสนิทและจ้องเขม็งไปที่หงจัวอย่างนิ่งเงียบ

เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของจ้าวชิงเหอ หงจัวจึงแลบลิ้นสีแดงสดออกมาเพื่อเลียริมฝีปากที่แห้งผาก จากนั้นเจ้าตัวก็กล่าวอย่างเย้ยหยันด้วยน้ำเสียงเหี้ยมว่า ”เจ้ากล้าหาญดีนี่ ข้าล่ะชอบคนที่ดื้อรั้นเช่นเจ้าจริง ๆ เพราะว่าในโลกใบนี้จะมีสักกี่คนที่เป็นคนดื้อรั้น และนายน้อยคนนี้ก็เชี่ยวชาญวิธีทรมานที่หลากหลาย แต่ข้ากลับต้องได้ยินเสียงโหยหวนของการยอมจำนนและร้องขอความเมตตา ทั้งที่ข้ายังใช้มันไม่หมดเลยด้วยซ้ำ มันจึงน่าเบื่อยิ่งนัก! ดังนั้นทุกครั้งที่ข้าเจอคนดื้อรั้นเช่นเจ้า นายน้อยคนนี้จึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกยินดี”

ในขณะที่กล่าว หงจัวยกขาของเขาขึ้นเพื่อย่ำไปที่ขาขวาของจ้าวชิงเหออย่างช้า ๆ จากนั้นก็ออกแรงขยี้ด้วยปลายเท้า ทำให้เสียงแตกดังก้องออกมา กระดูกที่หักได้แทงทะลุผ่านเนื้อหนังของจ้าวชิงเหอ เผยให้เห็นกระดูกสีขาวที่น่าสยดสยองและแหลมคม ในขณะที่เลือดสีแดงสดได้ไหลไปทั่วพื้นทันทีราวกับสายน้ำ

ด้วยความเจ็บปวดที่ได้รับ ทำให้เส้นเลือดบนหน้าผากของจ้าวชิงเหอปูดออกมาอย่างน่าสะพรึงกลัว ลำคอของเขาส่งเสียงอู้อี้และผ่อนลมหายใจอย่างหนักหน่วง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงกัดฟันแน่นและนิ่งเงียบ

จ้าวชิงเหอยังคงนิ่งเงียบ และไม่ได้ร้องโหยหวนเพื่อขอความเมตตา แต่หงจัวก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะนี่เป็นเพียงอาหารเรียกน้ำย่อยเท่านั้น ยังมีเคล็ดวิชาทรมานอีกหลายพันวิธี และเขาไม่เชื่อว่าจ้าวชิงเหอจะสามารถอดทนได้จนถึงที่สุด ปลายเท้าของหงจัวยกขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะเริ่มบดขยี้กระดูกขาของจ้าวชิงเหอทีละนิด การเคลื่อนไหวของเขาเชื่องช้าและระมัดระวัง ซึ่งดูเหมือนจะต้องพยายามอดกลั้นเป็นอย่างมาก

เมื่อพวกเขามองไปที่จ้าวชิงเหอซึ่งนอนหายใจโรยรินอยู่บนพื้น จากนั้นจึงมองไปที่หงจัวที่กำลังทรมานชายหนุ่มด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน ผู้เยี่ยมยุทธ์ของราชวงศ์ต้าเฉียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเย็นวาบอยู่ในใจ เนื่องจากวิธีทรมานขององค์รัชทายาทนั้นวิปริตเกินไป!

“ถ้าเจ้าแน่จริง ก็จงฆ่าข้าซะ มิฉะนั้น ตราบใดที่ข้ารอดชีวิต ข้าจะตอบแทนความทรมานในวันนี้กลับไปให้เจ้าเป็นร้อยเท่า!” จ้าวชิงเหอกล่าวเป็นระยะขณะที่เลือดไหลออกมาจากมุมปาก เสียงของเขาแหบแห้งและแผ่วเบาราวกับถูกรีดเค้นออกมาจากหน้าอกด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมด

“ฆ่าเจ้าหรือ? นั่นจะไม่ตายง่ายเกินไปหน่อยหรือ?” หงจัวกล่าวด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะกระชากผู้เยี่ยมยุทธ์ของราชวงศ์ต้าเฉียนมาถาม “บอกข้าสิ หากเป็นเจ้า เจ้าจะยอมให้เขาตายง่าย ๆ แบบนี้หรือ?”

คนที่ถูกกระชากรีบส่ายศีรษะ “ไม่พ่ะย่ะค่ะ”

หงจัวจ้องมองไปยังคนอื่น ๆ และก่อนที่เขาจะทันได้ถาม คนเหล่านั้นต่างส่ายศีรษะพร้อมกัน “เราก็ไม่ยอมเหมือนกันพ่ะย่ะค่ะ”

“ฮ่า ๆ เจ้าได้ยินหรือไม่? พวกเขาไม่ต้องการให้เจ้าได้ตายเร็วขนาดนั้น เหตุใดจึงสูญสิ้นความหวังและรนหาที่ตายเสียเล่า” หงจัวหัวเราะดังลั่นและพึงพอใจอย่างมาก ความรู้สึกที่ได้ควบคุมชีวิตและความตายของคนอื่นเช่นนี้ ช่างวิเศษจริง ๆ!

“ถ้าใครกล้าฆ่าเจ้า ข้าก็ไม่ยอมที่จะปล่อยให้คนนั้นได้ตายเร็วเช่นกัน” จู่ ๆ ก็มีเสียงที่เย็นชาและเฉยเมยดังก้องมาจากระยะไกลอย่างกะทันหัน และเสียงยังไม่ทันจางหาย กลับมีร่างหนึ่งปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วที่ด้านข้างของจ้าวชิงเหอ เสมือนกับร่างนั้นได้เคลื่อนย้ายมิติมา อีกทั้งยังเหมือนภูตผีที่จู่ ๆ ก็โผล่มาด้วยความเร็วที่ไม่ธรรมดา

รูม่านตาของหงจัวหดลงทันใด ในขณะที่เสียงหัวเราะของเขาก็หยุดลงทันที ก่อนที่ใบหน้าจะแข็งทื่อ ส่วนคนอื่น ๆ ก็ตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันนี้ จนถึงขั้นต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว

“เฉิน… ซี… เจ้า… มาแล้ว” เมื่อเห็นร่างนั้นอย่างชัดเจน ลมหายใจของจ้าวชิงเหอก็เร็วขึ้นจากความตื่นเต้น และเขาก็หมดสติไปก่อนที่จะกล่าวจบ ความอัปยศอดสูที่ได้รับก่อนหน้านี้นั้นเลวร้ายเกินไป กอปรกับร่างกายของเขาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าตัวจึงอ่อนโรยอย่างสมบูรณ์ และเขาได้พึ่งพละกำลังเฮือกสุดท้ายเพื่อยืนหยัดมาจนถึงตอนนี้

เฉินซีมองไปที่บาดแผลอันน่ากลัวบนร่างกายของชายหนุ่ม จากนั้นจึงมองไปยังใบหน้าของจ้าวชิงเหอซึ่งถูกเหยียบย่ำจนเกิดเป็นรอยฝ่าเท้าสีแดงและบ่วมเป่ง แล้วมองไปที่เชือกหวายสีเขียวที่มัดอีกฝ่ายไว้…

ทันใดนั้น เฉินซีดูจะกลายเป็นคนละคน ดวงตาของเขาส่องประกายเย็นชาและเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า พลังชีวิตในร่างกายที่ปะทุออกมาทั้งเย็นชาและดุร้าย เขาเป็นเหมือนสัตว์ป่าที่บ้าคลั่งและต้องการที่จะกลืนกินศัตรู

เขาเหลือบมองไปยังหงจัวและคนอื่น ๆ อย่างเฉยเมย ก่อนจะย่อตัวลงพร้อมกับยื่นนิ้วนางและนิ้วชี้ออกไปเพื่อเกี่ยวเชือกหวายที่มัดร่างจ้าวชิงเหอ หลังจากนั้น สมบัติวิเศษระดับสวรรค์ขั้นสุดยอดนี้ก็แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างง่ายดายด้วยการกระตุกอย่างรุนแรง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]