บทที่ 492 บดขยี้คู่ต่อสู้
บทที่ 492 บดขยี้คู่ต่อสู้
หงจัวไม่ใช่คนหยิ่งยโสหรือมีความคิดเรียบง่าย เขากลับเป็นคนเจ้าแผนการและมีความคิดลึกล้ำ ในช่วงเวลาที่เขากล่าวกับเฉินซี ก็ลอบบอกคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบตัวผ่านกระแสปราณ “เฉินซีอยู่ที่นี่แล้ว และเป็นโอกาสอันดีที่จะสังหารมัน พวกเจ้าจงฟังไว้ ทันทีที่ได้ยินคำพูดของข้า จงสร้างค่ายกลเพื่อฆ่ามันซะ!”
เหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์ของราชวงศ์ต้าเฉียนเหล่านี้ ล้วนผ่านการต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วน เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของพวกเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลงเลยสักนิด แต่พวกเขาได้ลอบเตรียมการเพื่อดำเนินการตามแผนเอาไว้แล้ว
ทว่าพวกเขากลับไม่ได้คาดคิดว่า เฉินซีจะชิงลงมือก่อนที่เสียงของหงจัวจะดังออกไป
โอม!
เสียงคำรามของกระบี่แผ่ออกไปราวกับกระแสน้ำและสั่นสะเทือนไปรอบ ๆ ในขณะที่ปราณกระบี่อันยิ่งใหญ่ได้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและปล่อยพลังอันเจิดจ้าออกมา
ปราณกระบี่สายนี้ปกคลุมไปด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ลุกโชน มีดวงดาราเคลื่อนคล้อยอยู่ภายในนั้น รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของธาตุทั้งห้า หยินและหยาง เมื่อมองจากระยะไกล ท้องฟ้า ผืนดินและมิติกำลังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ก่อนที่จะพังทลาย เนื่องจากไม่อาจทนต่อพลังที่แฝงอยู่ในปราณกระบี่ได้
“บัดซบ! สร้างค่ายกลซะ!” รูม่านตาของหงจัวหดตัวทันทีเมื่อเห็นฉากนี้ จากนั้นเขาจึงตะโกนลั่นออกมา
เปรี้ยง!
แต่น่าเสียดายที่ปฏิกิริยาของเขานั้นช้าเกินไป ปราณกระบี่ของเฉินซีนั้นประสานด้วยจิตสังหารกับความเกลียดชังเข้าด้วยกัน ปราณกระบี่อันทรงพลังก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของผู้เยี่ยมยุทธ์ที่อยู่ใกล้เขาที่สุดในพริบตา ก่อนจะฟันไปที่ผู้เยี่ยมยุทธ์ตรงหน้าจนกลายเป็นกองเนื้อ ทำให้คนผู้นั้นไม่มีโอกาสแม้แต่จะร้องโหยหวนออกมา
หงจัวและคนอื่น ๆ ต่างหวาดกลัวและโกรธเกรี้ยวเมื่อเห็นฉากนี้ ซึ่งพวกเขาเองก็ไม่อยากเชื่อว่าการโจมตีเพียงกระบวนท่าเดียว จะทำให้ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตจุติกลายเป็นเนื้อสับและล้มตายไป
ในทางกลับกัน หวงฝู่ฉิงอิงกับนายน้อยโจวที่เฝ้าดูจากด้านข้าง ต่างก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เพราะนั่นคือผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตจุติ แต่เขากลับตายอย่างง่ายดายเช่นนี้เลยหรือ?
“เร็วเข้า รีบสร้างค่ายกลและฆ่ามันซะ!” หงจัวมีไหล่ที่กว้าง ใบหน้าของเขาหยาบกร้าน และมีกลิ่นอายของผู้สูงศักดิ์ที่แข็งแกร่ง ทันทีที่เขาเคลื่อนไหวในขณะนี้ ร่างกายของเขาก็ระเบิดดวงแสงเจิดจ้าออกมา ซึ่งทำให้เขาดูเหมือนกับพระอาทิตย์ที่แผดเผา กงล้อศักดิ์สิทธิ์ลอยอยู่บนท้องฟ้า ทำให้เขาดูเหมือนเทพมาร และเผยให้เห็นกลิ่นอายสง่าผ่าเผยที่น่าตกตะลึงขององค์รัชทายาทแห่งราชวงศ์ระดับสูง
ที่ข้างหลังเขา ผู้เยี่ยมยุทธ์อีกสี่คนกำลังยืนล้อมรอบกันและเปล่งกลิ่นอายอันน่าสะพรึงกลัวของผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตจุติเช่นเดียวกัน ซึ่งพวกเขาได้สร้างค่ายกลที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาโดยมีหงจัวเป็นผู้นำ
เปรี้ยง!
ในเวลาเดียวกัน หงจัวได้โยนสมบัติที่ดูเหมือนแผ่นจานที่มีแผนผังทั้งแปดจารึกเอาไว้ขึ้นไป แผ่นจานนั้นเก่าแก่และมีขนาดใหญ่ โดยมีหมอกสีเทาปกคลุมอยู่รอบ ๆ ซึ่งได้ก็ก่อตัวเป็นมังกรที่ลอยอยู่กลางอากาศ มันให้ความรู้สึกราวกับโลกกำลังจะก่อกำเนิดขึ้นอีกครั้ง อีกทั้งยังคงรักษาธาตุต่าง ๆ เอาไว้ จากนั้นมันก็เปล่งแสงสวรรค์ที่เจิดจรัสออกมา โดยปกคลุมหงจัวและคนอื่น ๆ เอาไว้ภายใน
ทันใดนั้น กลิ่นอายของพวกเขาทั้งห้าคนก็เชื่อมโยงและประสานกัน ก่อตัวเป็นค่ายกลที่ยิ่งใหญ่และแปลกประหลาด มันเหมือนกับรูปแบบของธาตุทั้งห้า โดยมีหงจัวก็อยู่ในนั้นและทำหน้าที่เป็นแกนหลักของค่ายกล
ฉากที่น่าอัศจรรย์ได้ปรากฏขึ้น แรงกดดันบนร่างกายของหงจัวกำลังแผ่ขยายขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับหน่อไม้ที่ได้รับน้ำฝนหลังจากเผชิญความแห้งแล้งมาอย่างยาวนาน และเติบโตอย่างรวดเร็ว และดูเหมือนว่ามันจะเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ
“เฉินซี เจ้าถึงวาระแล้ว! เจ้าคิดว่าจะรับมือกับพวกข้าได้อย่างง่ายดายหรือ? หึ เจ้าช่างไร้เดียงสายิ่งนัก! เผยอวี่ไม่ใช่คนเดียวในโลกนี้ที่มีประกาศิตเซียนสวรรค์ ข้าหงจัวก็มีค่ายกลผสานสวรรค์หกจรัสเป็นไพ่ตายเช่นกัน! ซึ่งตอนนี้ข้าได้ผสานพลังกับผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตจุติอีกสี่คนแล้ว การฆ่าเจ้านั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป!”
หลังจากได้รับพลังจากค่ายกลผสานสวรรค์หกจรัส หงจัวก็ดูจะความมั่นใจมากขึ้น เขาจึงทะยานขึ้นไปและตะโกนลั่นออกมาดั่งระเบิด
ครืนนน!
ท้องฟ้าถล่ม แผ่นดินแตกเป็นเสี่ยง ๆ
หงจัวชักนำพลังของผู้บ่มเพาะขอบเขตจุติทั้งสี่คน จากนั้นก็ระเบิดหมัดใส่เฉินซีอย่างดุเดือด
แต่ชายหนุ่มกลับจ้องมองอย่างเย็นชา ใบหน้าของเขาปราศจากความรู้สึกโดยสิ้นเชิง เขาเพียงเฝ้าดูการโจมตีของหงจัวอย่างเงียบ ๆ โดยไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย เมื่อพลังหมัดอันน่าสะพรึงกลัวได้มาถึงตรงหน้า เขาก็ยกแขนขึ้นและชกหมัดออกไป
พายุสายฟ้านับไม่ถ้วนได้พุ่งออกมาจากหมัดนี้ ในขณะที่เต๋ารู้แจ้งแห่งสายฟ้าซึ่งอยู่ห่างจากการบรรลุสู่ความสมบูรณ์เพียงไม่กี่ก้าว ก็เติมเต็มพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่สามารถทำลายล้างโลกไว้ในหมัดที่ชกออกไป โดยใคร ๆ ก็สามารถสังเกตเห็นได้ว่า หมัดของเขาได้กลายเป็นตาพายุ พายุสายฟ้าเหล่านั้นกระทบกระแทกกันไปมาไม่หยุดและทำให้ท้องฟ้าสั่นสะเทือน
พลังหมัดทั้งสองปะทะกัน
ตู้ม!
โดยมีพวกเขาทั้งสองเป็นจุดศูนย์กลาง คลื่นพลังทำลายระลอกแล้วระลอกเล่าได้แผ่ขยายออกไป ทุกที่ที่มันผ่านไป ทุกสิ่งจะกลายเป็นเถ้าถ่านและสลายหายไป
ท่ามกลางระลอกคลื่นพลังเหล่านี้ สมบัติวิเศษที่มีรูปร่างเป็นแผ่นจานซึ่งลอยอยู่เหนือศีรษะของหงจัวนั้น ก็ส่งเสียงร้องคร่ำครวญอย่างรุนแรงราวกับใกล้จะพังทลาย ส่วนผู้บ่มเพาะทั้งสี่คนที่อยู่ข้างกายหงจัวนั้นก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก ร่างกายของพวกเขาซวนเซไปมาจนแทบล้มลง
การโจมตีเพียงกระบวนท่าเดียว ค่ายกลผสานสวรรค์หกจรัสก็แทบถูกเฉินซีทำลาย!
“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?! เหตุใดเจ้าถึงแข็งแกร่งขนาดนี้! นั่นคือพลังอิทธิฤทธิ์แบบใดกัน?” ใบหน้าของหงจัวพลันซีดลง ราวกับเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ด้วยพลังที่รวบรวมจากคนทั้งห้า กลับไม่สามารถเอาชนะเฉินซีได้ ทำให้เขาตะโกนออกมาด้วยโทสะ “ข้าไม่เชื่อว่าจะไม่สามารถฆ่าเจ้าได้ คัมภีร์จักรพรรดิมังกร!”
ครืนนนนน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...