บทที่ 530 ทหารม้ามรณะเกราะทองคำ
บทที่ 530 ทหารม้ามรณะเกราะทองคำ
เป็นไปตามที่อวิ๋นหลานเซิงกล่าวเอาไว้ กองทัพมรณะนี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันออกไป
ตัวอย่างเช่น ทหารม้ามรณะที่มีสีดำสนิท จะมีความแข็งแกร่งที่เทียบได้กับผู้บ่มเพาะขอบเขตจุติทั่วไป และเหนือกว่านั้นคือทหารม้าเพลิงนรก ทหารม้ามรณะเกราะทองคำ ทหารช้างมรณะและขุนพลมรณะ!
ทหารม้าเพลิงนรกเทียบได้กับผู้บ่มเพาะขอบเขตจุติระดับห้า
ทหารม้ามรณะเกราะทองคำนั้นเทียบได้กับผู้บ่มเพาะขอบเขตจุติระดับหก
ทหารช้างมรณะอยู่ในระดับเดียวกับผู้บ่มเพาะขอบเขตจุติขั้นสมบูรณ์
ท้ายที่สุด ขุนพลมรณะที่เป็นหัวใจของกองทัพมรณะ มีความแข็งแกร่งที่สามารถเทียบได้กับผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพี!
หากเทียบกันแล้ว จำนวนของทหารม้ามรณะมีมากที่สุด พวกมันมีอยู่ทุกหนทุกแห่งเหมือนกับมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ไพศาลอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในทางกลับกัน ทหารม้าเพลิงนรกกลับมีจำนวนน้อยกว่า แต่พวกมันก็ปะปนอยู่ภายในกองทัพมรณะดุจนายกองของกองทัพมนุษย์ และจำนวนของมันก็ถือว่าไม่น้อยเช่นกัน
เหนือพวกมันไปขึ้นไปก็คือ ทหารม้ามรณะเกราะทองคำและทหารช้างมรณะ พวกมันเป็นกองกำลังชั้นยอดในกองทัพและมีจำนวนที่น้อยมาก โดยปกติแล้ว พวกมันจะประจำอยู่แนวหลังของกองทัพ และจะไม่บุกขึ้นหน้าถ้าไม่จำเป็น
ส่วนขุนพลมรณะนั้น แทบจะไม่ปรากฏตัว เว้นเสียแต่ว่าพวกมันจะประสบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันครั้งใหญ่
ดังเช่นเหตุผลที่อวิ๋นหลานเซิงและเหล่าทูตคนอื่น ๆ ที่ตั้งหลักอยู่ในเมืองโดยไม่ลงมือนั้น ก็เพื่อสะกดขุนพลมรณะ เพื่อที่พวกมันจะได้ระวังและไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่าม
…
ห่างออกไป กลุ่มทหารม้าเพลิงนรกกำลังปิดล้อมผู้บ่มเพาะหลายคนราวกับกระแสน้ำวน
ทหารม้าเพลิงนรกเหล่านี้สวมชุดเกราะ หมวก อาวุธและม้าศึกที่มีสีแดงเข้มเหมือนเปลวเพลิง ยิ่งไปกว่านั้น พวกมันยังแผ่กลิ่นอายอันน่ากลัวและคุกคามออกมา
ทหารม้าเพลิงนรกทุกตัวดูจะถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิงแห่งนรกที่โหดร้าย รุนแรง และนองเลือด
นอกจากนี้ยังแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก พวกมันได้ใช้วิชากระบวนยุทธ์ระดับเต๋าที่หลากหลายซึ่งฉีกทะลุท้องฟ้า พร้อมกับระเบิดอานุภาพที่ทรงพลังและยิ่งใหญ่ออกมา
“อ๊า!” เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นท่ามกลางกลุ่มผู้บ่มเพาะที่ถูกปิดล้อม ผู้บ่มเพาะหญิงที่มีปฏิกิริยาตอบสนองช้า ถูกหอกของทหารม้าเพลิงนรกแทงเข้าที่ช่องท้องโดยตรงจากทางด้านข้าง จากนั้นมันก็สะบัดนางกระเด็นขึ้นไปบนฟ้า ทำให้เลือดสีแดงสดสาดกระจายไปทั่ว เพียงชั่วพริบตา ร่างกายของนางถูกแทงทะลุพร้อมกับเสียงร้องโหยหวนที่น่าสังเวชของนาง ก่อนที่หญิงสาวจะสูญเสียสัญญาณชีพไป
วูบ!
ทหารม้าเพลิงนรกทำท่าจะคว้าอะไรบางอย่าง ก่อนจะปรากฏเป็นเปลวเพลิงอันเจิดจ้าพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับเผาศพของผู้บ่มเพาะหญิงคนนั้น จากนั้นศพของนางก็กลายเป็นดวงวิญญาณอาฆาต ซึ่งพุ่งเข้าสู่ร่างของทหารม้าเพลิงนรก
ทันใดนั้น ความแข็งแกร่งของทหารม้าเพลิงนรกตัวนี้ก็เพิ่มขึ้น!
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ผู้บ่มเพาะสามารถเพิ่มฐานการบ่มเพาะของพวกเขาผ่านการกลืนกินเศษเสี้ยวของพลังเทวะที่ได้จากการสังหารกองทัพมรณะเหล่านี้ และพวกมันก็สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งโดยการสังหารผู้บ่มเพาะเช่นเดียวกัน!
“บัดซบ! ไอ้สารเลว!”
ผู้บ่มเพาะคนอื่น ๆ โกรธแค้นอย่างมาก ซึ่งบางคนก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไปและตั้งใจที่จะฝ่าออกจากวงล้อม ทว่าพวกเขาก็ถูกสังหารจากการประสานการโจมตีของทหารม้าเพลิงนรกกว่าสิบตัว และกลายเป็นวิญญาณอาฆาตที่ถูกพวกมันกลืนกิน
“พวกเรา ถอยก่อน! ทหารม้าเพลิงนรกเหล่านี้แข็งแกร่งเกินกว่าที่เราจะต่อกรได้ เราต้องหนีกลับเข้าเมืองก่อน แล้วเราจะได้รับการปกป้องจากสมบัติแห่งทวยเทพที่อยู่ที่นั่น” ผู้บ่มเพาะคนหนึ่งตะโกนเสียงดัง
“ฮึ่ม! ปกป้องหรือ? ครั้งนี้สมบัติของทวยเทพก็จักถูกทำลายเช่นกัน!”
ในขณะนี้ แสงสีทองเจิดจ้าส่องลงมาอย่างท่วมท้น มันคือนักรบที่สวมชุดเกราะสีทองและอาบด้วยแสงสีทอง ซึ่งมีกลิ่นอายที่น่าเกรงขามและดุร้ายเสมือนเป็นวัตถุ อีกทั้งยังทำให้สุญญะโดยรอบสั่นสะเทือนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แท้จริงแล้ว มันคือทหารม้ามรณะเกราะทองคำและความแข็งแกร่งของมันก็เทียบได้กับผู้บ่มเพาะขอบเขตจุติขั้นสมบูรณ์!
แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือ มันสามารถพูดได้ เห็นได้ชัดว่ามันมีสติปัญญาและมีสถานะค่อนข้างสูง
“อย่าปล่อยให้พวกมันรอดชีวิตแม้แต่คนเดียว จงฆ่าและทรมานผู้บ่มเพาะเหล่านี้ทั้งหมด แล้วค่อยสกัดวิญญาณของพวกมันเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับพวกเจ้า คราวนี้เราจักต้องยึดเมืองบรรพกาลให้จงได้!”
ทหารม้าเพลิงนรกทั้งหมดคำรามอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับพุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง
“บัดซบ! หนีเร็ว!” ผู้บ่มเพาะคำรามอย่างบ้าคลั่งและหลบหนีอย่างสุดกำลัง
“พวกเจ้าคิดว่าจะหนีได้หรือ?” ทหารม้ามรณะเกราะทองคำรามขณะที่ประกายเยือกเย็นและโหดร้ายฉายอยู่ในดวงตาสีทองของมัน จากนั้นมันก็ตวัดหอกทองคำในมือ ทำให้มันกลายเป็นเมฆสีทองที่มีขนาดใหญ่ราวร้อยยี่สิบจั้งและปกคลุมไปทั่วทั้งฟ้าดินทันที
ครืนนนน!
เมฆสีทองที่แหลมคมอย่างไม่มีใครเทียบได้ อีกทั้งยังสูงส่งดุจขุนเขาที่ตั้งตระหง่านและแฝงไปด้วยความลึกล้ำของมหาเต๋าแห่งโลหะที่น่าสะพรึงกลัว ทันใดนั้นมันก็ถาโถมลงมาจากฟากฟ้า ทำให้ผู้บ่มเพาะเหล่านั้นถูกห่อหุ้มอยู่ภายในก่อนที่พวกเขาจะหลบหนีได้ทัน
แตก!
เมื่อผู้บ่มเพาะเหล่านี้กำลังจะถูกทำลายล้างจนสูญสิ้น จู่ ๆ สายฟ้าก็ฟาดลงมาจากท้องฟ้าและฉีกเมฆสีทองออกจากกันโดยตรง จากนั้นมันก็หอหุ้มผู้บ่มเพาะทั้งหมดไว้ข้างในและช่วยชีวิตพวกเขาไว้ได้
หลังจากนั้น ร่างที่มีกลิ่นอายสูงส่งดุจขุนเขาก็ร่อนลงมาจากท้องฟ้า ร่างนี้มีสามเศียรหกกร อีกทั้งยังมีเสียงฟ้าร้องคำรามอยู่ทั่วตัวเขา ทำให้ดูเหมือนกับเทพมารที่จุติมาจากฟากฟ้า และร่างนี้ก็คือเฉินซีที่รีบรุดมาหลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น!
“ที่แท้มันก็คือทหารม้ามรณะเกราะทองคำ ข้าไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่ามันจะมาปรากฏตัวที่นี่…” เฉินซีรู้สึกประหลาดใจ เพราะเท่าที่ทราบมา ทหารม้ามรณะเกราะทองคำและทหารช้างมรณะส่วนใหญ่จะรักษาแนวหลังของกองทัพ และจะไม่บุกมาที่แนวหน้าถ้าจำไม่เป็น ดังนั้นเขาจึงไม่เคยคิดว่าจะเจอมันที่นี่
“เขาคือเฉินซีแห่งราชวงศ์ซ่ง!” ผู้บ่มเพาะเริ่มโห่ร้องด้วยความยินดีเมื่อเห็นอีกฝ่าย เพราะขณะนี้ผู้กอบกู้ของพวกเขาได้มาถึงแล้ว!!!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...