บทที่ 544 ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ขนนก
บทที่ 544 ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ขนนก
มหาปราชญ์ย่ำสวรรค์ทะลวงผ่านท้องนภาด้วยร่างที่สูงตระหง่านเทียบเท่าขอบฟ้า เสียงคำรามของเขาในขณะนี้ดังเหมือนกับเสียงมังกรยักษ์คำราม ซึ่งก่อให้เกิดคลื่นเสียงโหมกระหน่ำราวกับกระแสน้ำที่ดังก้องไปทั่วทั้งสวรรค์และปฐพี จนพื้นที่โดยรอบสั่นสะเทือนไม่หยุดและเริ่มยุบตัว
สีหน้าของทูตแห่งแดนภวังค์ทมิฬเริ่มซีดเผือด พวกเขารีบเปิดใช้เคล็ดวิชาเพื่อปกป้องเหล่าลูกศิษย์ที่อยู่ด้านข้าง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้วิญญาณของพวกเขาถูกคลื่นเสียงนี้ทำลาย
และที่เฉินซีกับพวกพ้องยังรอดปลอดภัยอยู่ได้นั้นเป็นเพราะการคุ้มกันจากวิปลาสหลิ่ว
ทว่าเรื่องที่น่าตกใจที่สุดคือความหมายที่มหาปราชญ์ย่ำสวรรค์สื่อออกมา เขากล่าวว่าเจิ้นหลิวชิงเป็นศิษย์น้องของเขา! เรื่องนี้เป็นดั่งสายฟ้าที่ฝ่ากลางหัวใจทุกคน พวกเขาตกใจจนกรามแทบหลุด
คนหนึ่งเป็นปีศาจกระทิงอันน่าเกรงขามซึ่งมาจากแดนไร้นาม มีชีวิตอยู่มาหลายปีนับไม่ถ้วน และมีข่าวลือว่าเคยกำจัดเซียนสวรรค์มาแล้ว ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นหญิงสาวผู้บ่มเพาะจากราชวงศ์ซ่งซึ่งอยู่เพียงขอบเขตจุติเท่านั้น
สองคนนี้มาจากนิกายเดียวกันได้อย่างไร!?
แม้แต่เฉินซีก็ยังประหลาดใจอย่างมาก เพราะเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าภูมิหลังของเจิ้นหลิวชิงจะยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้
แม้แต่ฝ่ายของเจิ้นหลิวชิงเองก็งุนงงเช่นกัน นางไม่อาจเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น อาจารย์ของนางคือจ้าวหอวารีหมอกแห่งราชวงศ์ซ่ง และท่านอาจารย์มีตัวตนที่น่าเกรงขามเยี่ยงนี้มาเป็นศิษย์ตั้งแต่เมื่อใดกัน?
“โอ้ ข้าอาจจะใจร้อนไปหน่อย ศิษย์น้อง เจ้าจะเข้าใจทุกอย่างเองเมื่อกลับไปยังที่ที่อาจารย์อยู่กับข้า” เมื่อเห็นหญิงสาวแสดงท่าทางหวาดระแวง มหาปราชญ์ย่ำสวรรค์จึงหยุดเสียงหัวเราะของเขาโดยพลัน และเกาศีรษะพลางอธิบาย
โครม!
โดยไม่คาดคิด เพียงแค่การเกาศีรษะก็ทำให้อาคารที่อยู่ใกล้เคียงพังทลาย เนื่องด้วยแขนซึ่งหนาเหมือนเสาที่พยุงโลกาของเขากวาดผ่าน
เมื่อเห็นท่าทางหวาดกลัวของเจิ้นหลิวชิง มันก็ทำให้เจ้าตัวรู้สึกอับอาย จึงตบศีรษะของตัวเองก่อนที่จะลดขนาดตัวลง กลายเป็นชายร่างกำยำสูงหนึ่งจั้ง ผู้แผ่กลิ่นอายอันทรงอำนาจและดุดันไม่แพ้กันออกมา
ทว่าเมื่อทุกคนได้เห็นสิ่งนี้ พวกเขาก็พากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะร่างที่สูงเท่าฟ้านั้นน่าตกตะลึงเกินรับไหว
“ศิษย์น้อง ไปกันเถิด เริ่มจะมีพวกบ้าในภพเซียนสังเกตเห็นการมาเยือนของข้าแล้ว แม้ว่าข้าจะไม่กลัวพวกเขา แต่อาจารย์คงจะไม่ปล่อยข้าไปอย่างแน่นอนหากรู้เข้า” มหาปราชญ์ย่ำสวรรค์หัวเราะเบา ๆ พลางกล่าว
“คงจะไม่ใช่เรื่องดี” เจิ้นหลิวชิงกลับมาตั้งสติ นางชี้ไปยังปิงซื่อเทียนที่อยู่ห่างไกล “เซียนสวรรค์ผู้นี้บอกว่าจะไม่ยอมให้ข้าออกจากสมรภูมิบรรพกาลในครั้งนี้เด็ดขาด”
ร่างกายของทุกคนสั่นคลอนเมื่อได้ยินสิ่งนี้
ช่างเป็นเจตนาแก้แค้นอันชัดเจนยิ่งนัก! ไม่ว่าในวันข้างหน้าข้าจะขัดใจผู้ใดก็ตาม ต้องไม่ขัดใจสตรีผู้นี้!
สีหน้าของปิงซื่อเทียนนั้นกลายเป็นไม่น่าดูอย่างยิ่ง เขาไม่นึกไม่ฝันว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นจริง และเขายังเผลอยั่วยุผู้ยิ่งใหญ่ที่แม้แต่เขายังหวาดกลัวเข้าให้!
“สิ่งที่ศิษย์น้องของข้ากล่าวนั้นเป็นความจริงหรือไม่?” ดวงตาที่เหมือนกงล้อโลหิตของมหาปราชญ์ย่ำสวรรค์จ้องมองอย่างเย็นชาไปยังปิงซื่อเทียน สายตาเต็มไปด้วยความดุร้าย เผยท่าทีราวกับกำลังรอโอกาสที่จะกลืนกินชายหนุ่มเข้าไปทั้งตัว
“ฮึ่ม! มหาปราชญ์ย่ำสวรรค์ ข้าคือทูตเซียนผู้ถือครองประกาศิตภพเซียน! อยากจะมีปัญหากันอย่างนั้นรึ?” ใบหน้าของปิงซื่อเทียนหม่นลงขณะที่เขาคำรามอย่างดุดัน
แต่แม้ว่าเขาจะพูดเช่นนี้ ทุกคนก็ยังรู้สึกได้ว่าท่าทางของชายหนุ่มนั้นอ่อนลงมาก และทั้งหมดนี้เป็นเพราะการมีอยู่ของมหาปราชญ์ย่ำสวรรค์!!
ชายร่างยักษ์มองไปยังประกาศิตภพเซียนซึ่งเปล่งแสงสีทองอยู่ในมือของปิงซื่อเทียน แล้วเขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วพลางกล่าวว่า “ช่างลำบากเสียจริง! อาจารย์คงจะสั่งให้ข้ากลับไปปิดด่านบ่มเพาะอีกหมื่นปีหากข้าสังหารเจ้า ช่างมัน ศิษย์น้อง ไปกันเถิด ข้าจะช่วยเจ้าลอบฆ่าไอ้สารเลวนี้เมื่อมีโอกาส”
ทุกคนประหลาดใจ
ไม่ใช่ว่าเจ้านี่เปิดโปงตัวเองอย่างโจ่งแจ้งไปหน่อยหรือ? กล้าที่จะบอกกล่าวในสิ่งที่เป็นความลับได้อย่างไร?
ใบหน้าของปิงซื่อเทียนกระตุกอย่างรุนแรงขณะที่สีหน้าของเขาดูหม่นหมองอย่างมาก หากเป็นร่างจริงของเขาอยู่ที่นี่ ก็คงจะไม่เกรงกลัวมหาปราชญ์ย่ำสวรรค์แม้แต่น้อย ทว่าน่าเสียดาย… ตอนนี้เขาเป็นเพียงร่างแยก จึงไม่อาจสู้มหาปราชญ์ย่ำสวรรค์ได้เลย ดังนั้นจึงทำได้เพียงเก็บคำสบประมาทเอาไว้ในใจ
“คงไม่ดีนัก” เจิ้นหลิวชิงส่ายหัวอีกครั้ง
“เหตุใดเล่า? หรือว่ายังมีคนที่รังแกเจ้าอยู่?” ดวงตาของมหาปราชญ์ย่ำสวรรค์เบิกกว้างในขณะที่กวาดสายตาไปยังผู้คนโดยรอบ ท่าทางดุร้ายอำมหิตอย่างที่สุด
“ไม่มี พวกเขาล้วนเป็นสหายของข้า เป็นสหายที่แน่นแฟ้น เจ้าต้องพาพวกเขาทั้งหมดมากับข้าหากต้องการออกไป มิฉะนั้น…” นางชี้ไปยังเฉินซีและพวกพ้องที่อยู่เคียงข้างพลางกล่าวออกมาช้า ๆ
“ไม่มีปัญหา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศิษย์พี่เถอะ” ก่อนที่หญิงสาวจะพูดจบ มหาปราชญ์ย่ำสวรรค์ก็ตอบตกลงอย่างง่ายดาย หลังจากนั้นเขาก็ครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งและพูดว่า “ศิษย์น้อง ข้าพาพวกเขาไปด้วยได้ แต่ข้าไม่อาจนำพวกเขากลับมาที่นิกายของเราได้ เพราะมันเป็นกฎที่อาจารย์ตั้งขึ้น แม้แต่ศิษย์พี่ของเจ้าก็ยังทำอะไรไม่ได้”
เจิ้นหลิวชิงยิ้มหวาน “นั่นก็เพียงพอแล้ว ขอบพระคุณศิษย์พี่”
แม้ว่านางจะยังไม่เข้าใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับนิกายของมหาปราชญ์ย่ำสวรรค์ แต่มันก็ไม่ได้หยุดนางจากการใช้เขาเพื่อช่วยเฉินซีและพวกพ้อง
นางพอใจแล้วเมื่อเห็นอีกฝ่ายตอบตกลงอย่างง่ายดาย และในวันข้างหน้า เฉินซีและพวกพ้องจะสามารถมุ่งหน้าไปยังนิกายกระบี่เก้าเรืองรองไปพร้อมกับวิปลาสหลิ่วเพื่อบ่มเพาะได้
สิ่งเดียวที่ทำให้นางเสียดายเล็กน้อยคือไม่สามารถสั่งสอนปิงซื่อเทียนให้น่วมได้ในตอนนี้…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...