บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 560

บทที่ 560 การทดสอบแห่งยอดเขาจรัส

บทที่ 560 การทดสอบแห่งยอดเขาจรัส

มีชายหนุ่มสองคนยืนอยู่ในทะเลเมฆซึ่งห่างไกลจากยอดเขาจรัสตะวันตกอย่างมาก

เมฆและหมอกรวมตัวกันอยู่รอบตัวพวกเขา ทำให้แขนเสื้อของพวกเขากระพือไปมา และทำให้คนทั้งสองดูไม่ธรรมดาราวกับชาวสวรรค์

มีผู้บ่มเพาะจำนวนมากยืนอยู่ข้างหลังพวกเขา จากนั้นร่างเหล่านี้ก็ได้ก่อตัวเป็นวงกลมสองวงที่แตกต่างกัน และล้อมรอบชายหนุ่มสองคนนี้ตามลำดับ ราวกับหมู่ดาวที่ล้อมรอบพระจันทร์ที่สว่างไสว ในขณะที่สายตาก็แสดงความเคารพออกมา

เพราะชายหนุ่มสองคนนี้คือศิษย์ชั้นสูงที่โดดเด่นที่สุดของยอดเขาจรัสตะวันออก พวกเขาคือเหลิ่งชิวกับผางโจว ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในห้าศิษย์ชั้นสูงของนิกายกระบี่เก้าเรืองรองเช่นเดียวกับตู้เซวียน!

“ศิษย์พี่เหลิ่ง ท่านคิดว่าอย่างไรบ้าง” ผางโจวถามพร้อมด้วยรอยยิ้ม เขาสวมชุดเกราะต่อสู้ที่ปิดทองด้วยใบไม้นับร้อยใบ ในขณะที่ผมหนาของเขาถูกมัดไว้ด้านหลังศีรษะด้วยด้ายสีทอง ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายด้วยพลังและมักจะมีประกายสายฟ้าแปลบปลาบ แม้ว่าจะมีศิษย์ของยอดเขาจรัสตะวันออกมากมายที่ติดตามอยู่ที่ด้านหลัง แต่กลิ่นอายของพวกเขายังห่างไกลที่จะเปรียบเทียบกับคนผู้นี้ได้

“ศิษย์ใหม่คนนี้มีฝีมือไม่ธรรมดา” เมื่อได้ยินคำถามนี้ เหลิ่งชิวก็นิ่งเงียบไปนาน จากนั้นจึงกล่าวอย่างเฉยเมย เขาสวมชุดคลุมยาวสีขาวราวกับหิมะ รูปร่างหน้าตาของเขางดงามราวกับหยก กลิ่นอายเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง และมีท่าทางที่สำรวมยิ่ง

“โอ้?” เมื่อได้ยินการวิจารณ์เช่นนี้ ประกายแสงก็วูบไหวผ่านดวงตาของผางโจวอย่างเงียบ ๆ และดูเหมือนว่าเขาจะตกอยู่ในภวังค์กับความคิด

ในบรรดาศิษย์ชั้นสูงทั้งห้าคนของนิกายกระบี่เก้าเรืองรองนั้น ยอดเขาจรัสตะวันออกของพวกเขาได้ครอบครองถึงสามตำแหน่ง ซึ่งในหมู่พวกเขา ความแข็งแกร่งของเหลิ่งชิวเป็นสิ่งที่ยากจะหยั่งถึงที่สุด อีกทั้งเหลิ่งชิวยังเป็นคนที่สำรวมกิริยา และมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถทำให้เขาจริงจังได้ ทว่าตอนนี้อีกฝ่ายกลับแสดงความคิดเห็นต่อศิษย์ใหม่ที่เพิ่งร่วมนิกายคนนี้ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่น่าจะตกใจเป็นอย่างยิ่ง

อย่างน้อยเท่าที่ผางโจวทราบมา มีเพียงไม่กี่คนในนิกายกระบี่เก้าเรืองรองที่สามารถได้รับการประเมินเช่นนี้จากเหลิ่งชิวได้

“หากเป็นเช่นนั้น เฉินซีก็เป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยมเช่นกันหรือ?” ผางโจวหัวเราะและหันไปมองคนที่อยู่ข้าง ๆ ซึ่งแท้จริงแล้ว คนผู้นั้นคือหมิงเหยียน และเช่นเดียวกับเฉินซี เขาเพิ่งได้ผู้อาวุโสเยว่ฉือรับเป็นศิษย์

“การที่ศิษย์น้องเฉิงเซียวพ่ายแพ้ในกระบวนท่าเดียว งั้นพลังของเขาจึง… มิอาจประเมินต่ำไปได้” หมิงเหยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แม้ว่าในใจของเขาจะไม่มั่นใจในความแข็งแกร่งของเฉินซี แต่ก็ต้องยอมรับว่าความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายนั้น ทำให้เขาหวาดกลัวอย่างมาก!

“แล้วเจ้าคิดว่าใครแข็งแกร่งกว่ากันระหว่างเขากับตู้เซวียน?” ผางโจวยังคงถามด้วยรอยยิ้ม

“ย่อมเป็นศิษย์พี่ตู้เซวียนอย่างแน่นอน” หมิงเหยียนตอบโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ช่างเป็นเรื่องตลก! ตู้เซวียนเป็นหนึ่งในห้าศิษย์ชั้นสูงที่ยิ่งใหญ่ ผู้สามารถทำลายล้างผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตสถิตกายา แล้วศิษย์คนใหม่ที่เพิ่งเข้าร่วมนิกายจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างไร?

“เด็กคนนี้ไม่ได้อ่อนแออย่างที่พวกเจ้าคิด บางทีตู้เซวียนอาจต้องใช้กำลังทั้งหมดเพื่อเอาชนะเขา” เหลิ่งชิวกล่าวออกมาทันที

“ศิษย์พี่เหลิ่ง ท่านแน่ใจหรือ?” ผางโจวรู้สึกวิตกและกล่าวด้วยความประหลาดใจ จู่ ๆ เขาก็สังเกตเห็นว่า วันนี้เหลิ่งชิวนั้นผิดปกติ เนื่องจากอีกฝ่ายกล่าวถึงศิษย์คนใหม่นี้เยอะกว่าปกติ

“หรือว่าเฉินซีจะแข็งแกร่งจริง ๆ?”

หมิงเหยียนรู้สึกตกตะลึงและรู้สึกไม่เชื่อเล็กน้อย เดิมทีเขาตั้งใจหาโอกาสทุบตีเฉินซีอย่างดุเดือด ทว่าคำพูดของเหลิ่งชิวเป็นเหมือนใบมีดคมกริบที่ลบล้างความคิดนี้โดยสิ้นเชิง

“เจ้าจะได้รู้ในไม่ช้า” เหลิ่งชิวกล่าว จากนั้นเขาก็หันไปมองในระยะไกล มุมปากของเขาพลันโค้งเป็นรอยยิ้มในเวลานี้ “เซี่ยอี้แห่งยอดเขาจรัสใต้ก็มาแล้วเช่นกัน”

“เซี่ยอี้?” ดวงแสงเย็นยะเยือกระเบิดออกมาจากดวงตาของผางโจว จากนั้นเจ้าตัวพลันหันกลับไปอย่างรวดเร็ว และได้เห็นชายหนุ่มที่สวมชุดหนังสัตว์ร้ายปรากฏตัวขึ้นในทะเลเมฆ

รูปร่างของชายหนุ่มนั้นผอมบางแต่กลับสง่าผ่าเผย ใบหน้าของเขาดูแข็งทื่อราวกับหินผา และภายใต้ผิวหนังที่หยาบกร้าน กล้ามเนื้อเป็นมัดก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ด้วยแม้ตัวคนยืนอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง แต่กลับให้ความรู้สึกที่ไม่อาจสั่นคลอน ราวกับภูเขาที่ไม่อาจเคลื่อนซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางทะเลเมฆ ไม่ว่าสายลมและสายฝนจะโหมกระหน่ำสักเพียงใด แต่มันก็ไม่อาจสั่นคลอนเขาได้แม้แต่น้อย

ศิษย์ทั้งหมดของยอดเขาจรัสใต้ ล้วนบ่มเพาะทักษะขัดเกลากายาเทพอสูร แม้ว่าจะมีเพียงไม่กี่ร้อยคน แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ไม่ใช่สิ่งที่มองข้ามได้ เพราะอย่างไรแล้ว ผู้ขัดเกลากายาก็เหนือกว่าผู้บ่มเพาะปราณแท้โดยสิ้นเชิง

นอกจากนี้ เซี่ยอี้ยังเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญในบรรดาศิษย์ของยอดเขาจรัสใต้ และเขาเป็นหนึ่งในห้าศิษย์ชั้นสูงที่ยิ่งใหญ่ของนิกายกระบี่เก้าเรืองรอง! ซึ่งในเวลาเดียวกัน เขาก็เป็นผู้ขัดเกลากายาเพียงหนึ่งเดียวในบรรดาศิษย์ชั้นสูงผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้า!

“ข้าไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าชายคนนี้จะมาด้วย ข้าคิดว่าเขาจะไม่ก้าวออกจากยอดเขาจรัสใต้ไปตลอดชีวิตแล้วซะอีก…” ดวงตาของผางโจวเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อันแรงกล้า ในขณะที่ผมยาวสีขิงของเขาก็ปลิวไสว ให้ความรู้สึกเหมือนกระบี่คมกริบที่ยังไม่ได้ปลดออกจากฝักและปรารถนาจะดื่มเลือดสดให้สาแก่ใจ

“เรามาเพื่อดูการต่อสู้” เหลิ่งชิวมองไปที่ผางโจวอย่างเฉยเมย สายตาของเขาสงบนิ่งและไม่ได้กล่าวอะไรต่อ แต่มันกลับทำให้คนมองรู้สึกกังวลอยู่ในใจ

“เอาล่ะ มาดูการต่อสู้กัน” หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ผางโจวก็หัวเราะออกมาเบา ๆ ในขณะที่จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่เขาปล่อยออกมานั้นสลายหายไปเหมือนกระแสน้ำ จากนั้นเจ้าตัวก็พูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ช่างมันเถิด ยังไม่สายเกินไปที่จะต่อสู้กับเขาในการทดสอบแห่งยอดเขาจรัสอีกสามเดือนนับจากนี้”

การสนทนาระหว่างทั้งสองไม่ได้ปิดบังเลยแม้แต่น้อย และด้วยการบ่มเพาะของเซี่ยอี้ เขาย่อมได้ยินได้อย่างชัดเจน แต่อีกฝ่ายกลับนิ่งเฉยตั้งแต่ต้นจนจบ และสายตาก็เอาแต่จับจ้องไปที่ระยะไกลเสมอ

ณ สถานที่ที่เขาจ้องมอง เฉินซีกำลังเผชิญหน้ากับตู้เซวียน

“เมื่อพูดถึงเรื่องนั้น เฉินซีคนนี้เพิ่งเข้าร่วมนิกาย แต่กลับทำให้เกิดความวุ่นวายได้ เขาถือได้ว่าเป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ” ผางโจวส่ายศีรษะและกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง

แต่ทันใดนั้นเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นในระยะไกล

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]