บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 58

บทที่ 58 ผลดอกบัวดวงจิตทองคำ
บทที่ 58 ผลดอกบัวดวงจิตทองคำ

ห้องโถงสมุนไพรร้อยแปด

“รอก่อนยังไม่ถึงเวลา น่าจะอีกราวหนึ่งก้านธูปผลดอกบัวดวงจิตทองคำจึงจะสุกและหล่นลงมา แต่เจ้าต้องจำให้ดีก่อนที่มันจะตกถึงพื้นเจ้าต้องใช้ปราณแท้รับมันไว้และดูดกลืนมันเข้าไปในตันเถียนโดยเร็ว”

หลังจากสังหารหลี่ไฮว่แล้ว จี้อวี๋ก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งและเขาชี้ไปที่ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ดวงจิตทองคำขณะที่เขาพูดอย่างมั่นใจ “เจ้าจะสามารถใช้ผลดอกบัวดวงจิตทองคำนี้ได้เมื่อเจ้าบ่มเพาะญาณสัมผัสของเจ้าไปถึงขั้นจิตสัมผัสเทพ”

จิตสัมผัสเทพ?

ตามความรู้ของเฉินซี หากไม่รวมถึงพวกยอดอัจฉริยะท้าทายสวรรค์เหล่านั้น ญาณสัมผัสของผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลจะอยู่ในขั้นญาณตระหนักรู้ ผู้บ่มเพาะขอบเขตเคหาทองคำอยู่ในขั้นญาณจิต ผู้บ่มเพาะขอบเขตแกนทองคำครอบครองญาณศักดิ์สิทธิ์และมีเพียงผู้บ่มเพาะขอบเขตจุติขึ้นไปเท่านั้นที่มีจิตสัมผัสเทพ

เนื่องจากมีรูปปั้นเทพเจ้าฝูซีอยู่ในทะเลจิตสำนึกของเขา เฉินซีจึงไม่ใช่ผู้บ่มเพาะปกติ แม้ว่าเขาจะอยู่ในขอบเขตก่อกำเนิดขั้นสมบูรณ์แต่ญาณสัมผัสของเขาสำเร็จไปถึงขั้นญาณตระหนักรู้ ซึ่งไม่ด้อยไปกว่าญาณสัมผัสของผู้บ่มเพาะขอบเขตตำหนักอินทนิลทั่วไปเลย!

เฉินซีถามด้วยความสงสัย “ผลดอกบัวดวงจิตทองคำมีผลอัศจรรย์อย่างไรหรือขอรับ? หรือว่ามันสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ดวงวิญญาณและญาณสัมผัสได้อย่างนั้นหรือ?”

จี้อวี๋หลีกเลี่ยงไม่ตอบคำถามพูดเพียงว่า “มันไม่มีประโยชน์ที่เจ้าจะรู้ในตอนนี้ สิ่งที่ดีที่สุดคือตอนนี้เจ้าหมั่นเพียรฝึกฝนพัฒนาความแข็งแกร่งของดวงวิญญาณเพียงอย่างเดียวก็พอ”

เฉินซีรู้สึกจนใจ ‘ข้ารู้น้อยเกินไปจะไปโทษใครได้เล่า?’

“อืม เจ้าไม่ควรทำให้น้ำพุวิญญาณนี้สูญเปล่าเช่นกัน เจ้าจงรวบรวมวารีวิญญาณซะ ตามการประเมินของข้า ทันทีที่ผลดอกบัวดวงจิตทองคำเติบโต มันจะดูดซับปราณวิญญาณที่อยู่ใกล้เคียงทั้งหมด เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าจะไม่อาจรับสิ่งใดได้เลย” จี้อวี๋เหลือบมองไปที่น้ำพุวิญญาณและเตือน

ในขณะนี้ เฉินซีก็ตระหนักว่าการมีตัวตนที่มีชีวิตอยู่มานับล้านปีอยู่เคียงข้างเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างแท้จริง

หากจี้อวี๋ไม่อยู่ที่นี่ เขาอาจจะถอนรากดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ดวงจิตทองคำออกมาแล้ว และเขาก็จะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเมื่อผลดอกบัวดวงจิตทองคำติบโตเต็มที่ มันจะดูดซับปราณวิญญาณโดยรอบอย่างสมบูรณ์…

เฉินซีหยิบขวดบรรจุแปดเหลี่ยมออกจากแหวนมิติและนั่งคุกเข่าอยู่ข้างบ่อน้ำพุวิญญาณเพื่อรวบรวมวารีวิญญาณ

ด้านในของขวดบรรจุแปดเหลี่ยมนี้ถูกแบ่งออกเป็นช่องว่างขนาดใหญ่แปดช่อง โดยหนึ่งในนั้นบรรจุของเหลวที่ควบแน่นจากปราณปีศาจยมโลกเกือบหนึ่งร้อยห้าสิบจิน ส่วนอีกเจ็ดช่องยังคงว่างอยู่ โดยรวมแล้วมันยังสามารถบรรจุของเหลวได้มากกว่าหนึ่งล้านจิน

‘น่าเสียดายที่เหลือเวลาเพียงหนึ่งธูปไหม้ก่อนที่ผลดอกบัวดวงจิตทองคำเติบโตเต็มที่ และหลังจากนั้นน้ำพุวิญญาณนี้จะเหือดแห้งไปด้วย ถ้าข้ารู้ก่อนหน้านี้ ข้าจะเริ่มรวบรวมวารีวิญญาณตั้งแต่ต้น…’

เฉินซีครุ่นคิดอย่างเสียใจ ตามความเร็วของวารีวิญญาณที่พวยพุ่งออกจากน้ำพุวิญญาณ อย่างมากที่สุดเขาก็คงสามารถรวบรวมวารีวิญญาณได้แค่หนึ่งหมื่นจินก่อนที่ผลดอกบัวดวงจิตทองคำจะเติบโตเต็มที่

“ลูกปี่เซียะ… ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ดวงจิตทองคำ… เซียนกระบี่ผู้นี้เป็นเพียงเซียนตกอกอับเท่านั้น ทว่าน่าแปลกจริง ๆ ที่เขากลับมีสิ่งเหล่านี้ในครอบครอง ในระหว่างที่มีชีวิตอยู่คนผู้นี้คงเป็นคนที่มีโชควาสนาดีจนท้าทายสวรรค์อย่างไม่ต้องสงสัย”

จี้อวี๋มองไปที่ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ดวงจิตทองคำครู่หนึ่ง จากนั้นเบนสายตามาที่เฉินซีก่อนจะเอ่ยขึ้น “ทว่าตอนนี้ประโยชน์ทั้งหมดกลับอยู่ที่ตัวเจ้า เมื่อพิสูจน์ในแง่ของโชควาสนา แม้เซียนกระบี่ผู้นี้จะโชคดีอย่างท้าทายสวรรค์ แต่ท้ายที่สุดเขาก็ยังด้อยกว่าเจ้า!”

เฉินซีตกตะลึง จากนั้นเขาจึงส่ายหัวและพูดว่า “เป็นไปได้อย่างไร? ทุกคนเรียกข้าว่าตัวกาลกิณีแห่งเมืองหมอกสน…”

“ผู้ชายไม่สามารถปราศจากความเย่อหยิ่งได้ เจ้าไม่จำเป็นต้องดูถูกตัวเอง”

จี้อวี๋กล่าวด้วยความรังเกียจว่า “คนที่บอกว่าเจ้าเป็นตัวซวยคือกลุ่มคนงี่เง่า หากเจ้าเป็นตัวซวย เจ้าจะได้รับการยอมรับจากนายท่านของข้าและเดินออกจากขอบเขตซ่อนดาราได้อย่างไรได้อย่างไร? ในอนาคต หากเจ้าบ่มเพาะด้วยความอุตสาหะหมั่นเพียรและไม่มีอุบัติเหตุใดเกิดขึ้น เจ้าจะสามารถผ่านบททดสอบแห่งสรวงสรรค์ได้และสืบทอดเสื้อคลุมของเจ้านายข้าทะยานขึ้นเป็นผู้ไร้เทียมทานในยุคของเจ้าได้อย่างแน่นอน”

หลังจากจบประโยคนี้ ชายชราจ้องที่เฉินซีและถามต่อ “ตอนนี้เจ้ายังคิดว่าเจ้าเป็นตัวซวยอีกหรือไม่?”

“ไม่” เฉินซีส่ายหัวอย่างมั่นใจ สิ่งที่จี้อวี๋พูดเป็นความจริงอย่างแท้จริง

จี้อวี๋พยักหน้าอย่างพึงพอใจ “แน่นอนว่าเจ้าไม่ใช่ นอกจากนี้เจ้ามีลูกปี่เซียะอยู่เคียงข้างเจ้าแล้วโชควาสนาของเจ้าจะยิ่งดีขึ้นอย่างทวีคูณ”

เฉินซีหน้าแดงเล็กน้อยจากการถูกชมเชย ทว่าเมื่อเขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ชายหนุ่มก็นึกขึ้นได้ถึงเรื่องหนึ่ง เวลาผ่านไปเนิ่นนานแล้ว การต่อสู้ที่โกลาหลระหว่างกลุ่มไฉ่เล่อเทียน ซูเจียวและฟู่เหิงน่าจะจบลงแล้ว

หัวใจของเฉินซีเต้นระส่ำทันทีที่ความคิดนี้ผุดขึ้นในใจของเขา ในตอนนี้เขาไม่ได้คิดที่จะลอบโจมตีไฉ่เล่อเทียนอีกต่อไป ตราบใดที่ไฉ่เล่อเทียนไม่ตายเขาสามารถไปฆ่าอีกฝ่ายได้ทุกเมื่อ แต่เวลาที่ผลดอกบัวดวงจิตทองคำตกลงสู่พื้นนั้นมีเพียงชั่วพริบตา ดังนั้นเมื่อเทียบกันแล้วผลดอกบัวดวงจิตทองคำตรงหน้าเขาสำคัญกว่ามาก

“เตรียมตัวให้พร้อม มันกำลังจะโตแล้ว!”

จี้อวี๋เอ่ยขึ้นและดึงเฉินซีออกจากภวังค์ความคิด ชายหนุ่มรีบโคจรปราณแท้ในร่างไปที่ฝ่ามือของเขาทันที พลางจ้องไปที่ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ดวงจิตทองคำโดยไม่กะพริบตา

ระหว่างเกสรตัวเมียกับเกสรตัวผู้ ผลสีทองขนาดเท่ากำปั้นของทารกส่องประกายเจิดจ้าและมีระลอกคลื่นสีทองหนาแน่นปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของมัน

ซ่า! ซ่า!

ทันใดนั้น มวลวารีวิญญาณในบ่อน้ำพุวิญญาณก็พวยพุ่งขึ้นเป็นเสาน้ำมากมายและพุ่งตรงเข้าหาผลดอกบัวดวงจิตทองคำ ทว่ายังไม่หมดเพียงเท่านั้น ปราณวิญญาณทั้งหมดภายในห้องโถงสมุนไพรร้อยแปดเป็นเหมือนฉลามที่พบกลิ่นเลือด มันหลั่งไหลเข้าหาผลดอกบัวดวงจิตทองคำอย่างบ้าคลั่ง

ในขณะเดียวกัน ผลสีทองนั้นเป็นเหมือนหลุมลึกกำลังดูดกลืนปราณวิญญาณทั้งหมดที่อยู่ใกล้เคียง เมื่อปราณวิญญาณถูกดูดกลืนมากขึ้น แสงสีทองบนพื้นผิวที่เปล่งประกายก็หนาแน่นและเจิดจ้ามากขึ้นตามลำดับจนมันดูคล้ายดวงอาทิตย์ดวงเล็ก ๆ

ปัง! ปัง! ปัง!

คล้ายกับมีบางอย่างถูกเปิดใช้งาน ห้องโถงสมุนไพรร้อยแปดทั้งหมดเริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรง และชั้นคลื่นโปร่งแสงก็กระเพื่อมไปในอากาศรอบ ๆ ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ดวงจิตทองคำ จนดูคล้ายกับมันจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ

อึดใจถัดมา พลังกดขี่อันน่าสะพรึงกลัวได้รุกรานเข้ามาในห้องโถงจากทุกทิศทุกทาง และเฉินซีที่อยู่ข้าง ๆ ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ดวงจิตทองคำรู้สึกราวกับว่าคอของเขาถูกบีบจนเขาหายใจไม่ออก และเกือบจะไม่สามารถควบคุมปราณแท้ที่กำลังปั่นป่วนในร่างกายได้!

เป็นปรากฏการณ์ประหลาดที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้! ข้าเคยได้ยินมาว่าเมื่อใดที่สมบัติล้ำค่าปรากฏในโลก มันจะมาพร้อมกับปรากฏการณ์ประหลาดต่าง ๆ แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ดวงจิตทองคำน่าอัศจรรย์อย่างไร แต่เห็นได้ชัดว่ามันเป็นสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดแน่นอน!

แม้ว่าอำนาจกดขี่อันรุนแรงนี้จะกดทับเฉินซีจนถึงจุดที่หายใจลำบาก แต่ดวงตาของเขากลับสว่างขึ้นเรื่อย ๆ ประสาทสัมผัสทั้งหมดของเขาทำงานถึงขีดสุด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]