เมืองหมอกสน ตระกูลหลี่ ศาลาบรรพชน
ศาลาบรรพชนเป็นสถานที่เก็บรักษายอดเคล็ดวิชาของตระกูลหลี่ที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบันและยาเม็ดวิญญาณต่าง ๆ ที่ใช้ในการฝึกฝนบ่มเพาะ
ผู้ใดที่ถูกส่งตัวมายังศาลาบรรพชนจะได้รับการฝึกอันแสนโหดคล้ายกับการมีชีวิตอยู่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย
อย่างไรก็ตาม ในหัวใจของสมาชิกตระกูลหลี่ ศาลาบรรพชนยังคงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในตระกูลและเป็นสถานที่ฝึกฝนที่พวกเขาต้องการเข้ามามากที่สุด ตราบใดที่พวกเขาสามารถแข็งแกร่งขึ้นได้ ความเจ็บปวดจะนับเป็นอะไรได้กัน?
น่าเสียดายที่ศาลาบรรพชนเป็นศูนย์กลางสำคัญของตระกูลหลี่ นอกจากสมาชิกตระกูลสายหลักที่มีพรสวรรค์โดดเด่นแล้ว คนอื่น ๆ ล้วนไม่อาจก้าวเข้าไปในศาลาบรรพชนในช่วงชีวิตของพวกเขา
วันนี้ประตูศาลาบรรพชนที่ปิดสนิทมาหลายเดือนค่อย ๆ เปิดออก
ตึก! ตึก! ตึก!
เสียงฝีเท้าที่มั่นคงและทรงพลังดังก้องมาตามทางเดินลึกอันเงียบสงบของศาลาบรรพชน หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ชายหนุ่มคนหนึ่งก็เดินออกจากความมืด ชายหนุ่มผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหลี่หมิง ลูกชายคนสุดท้องของผู้นำตระกูลหลี่!
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้หลี่หมิงดูไม่เหมือนคนเดิมแม้แต่น้อย เสื้อผ้าของเขามอมแมม ผมของเขาเป็นกระเซิงดูเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาสองสามเดือนแล้ว ผิวขาวของเขาหยาบกร้านและคล้ำแดด นัยน์ตาสามเหลี่ยมที่เคยดูขี้เล่นของเขาแปรเปลี่ยนเป็นมืดมนและเฉียบคมราวกับเหยี่ยว
“ความรู้สึกของการแข็งแกร่งขึ้นนั้นช่างวิเศษจริง ๆ”
เขากำหมัดแน่น ฝ่ามือที่เคยเรียบเนียนของเขาตอนนี้กลับหยาบหนา กระดูกข้อมือใหญ่และดูแข็งแกร่ง เมื่อเขากำหมัดแน่น กลิ่นอายอันดุดันพวยพุ่งออกจากร่างกายของเขาในทันที
“นายน้อย ท่านผู้นำเรียกท่านเข้าพบ” หัตถ์เหล็กซึ่งซ่อนกายอยู่ในเงามืดเอ่ยด้วยเสียงที่เล็กแหลมและชั่วร้ายราวกับงูพิษที่สะบัดลิ้นของมันขณะซ่อนตัวอยู่ในเงามืด
“ลุงหัตถ์เหล็กได้โปรดนำทาง” หลี่หมิงกล่าวด้วยท่าทีเคารพ เมื่อเขามีความแข็งแกร่ง ในที่สุดเขาก็เข้าใจถึงความน่ากลัวของการฝึกฝนของหัตถ์เหล็กผู้เต็มใจที่จะเป็นเงาคอยติดตามพ่อของเขาตลอดเวลา
ห้องโถงใหญ่ตระกูลหลี่
หลี่อี้เจิ้นนั่งตัวตรงอยู่ในตำแหน่งตรงกลาง ทั้งสองข้างของเขามีเหล่าผู้อาวุโสของตระกูลหลี่ ทุกคนต่างจ้องมองไปที่หลี่หมิงอย่างพร้อมเพรียงเมื่อเห็นเด็กหนุ่มเดินเข้ามา
หลี่หมิงรู้สึกได้ถึงอาการตกใจและความไม่เชื่อในสายตาของเหล่าผู้อาวุโส ‘ความรู้สึกนี้ช่างวิเศษเหลือเกิน…’ เขารู้สึกเบิกบานมากแต่ภายนอกยังคงท่าทีสงบ ฝีเท้าของเขาก้าวไปอย่างไม่เร่งรีบ หลังจากทำความเคารพและทักทายทุกคนแล้ว เขาก็นั่งลงอย่างเงียบ ๆ บนที่นั่งที่เป็นของเขา
“เวลาสามเดือนบรรลุถึงขอบเขตก่อกำเนิดขั้นสมบูรณ์จากขอบเขตสร้างรากฐาน ไม่เลว ไม่เลว”
ผู้อาวุโสใหญ่หลี่เฟิงถูกล่าวขึ้นก่อน สีหน้าของเขาเผยให้เห็นถึงความพึงพอใจขณะที่เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้หลี่ไฮว่ได้ติดตามคุณหนูซูเข้าสู่ดินแดนรกร้างใต้พิภพเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว ตอนนี้เขาคงได้พบที่พำนักของเซียนกระบี่เรียบร้อย ที่เหลือก็คือได้แต่หวังว่าเขาจะนำโชคใหญ่กลับมาสู่เรา อี้เจิ้นเจ้านำลูกชายสองคนที่ดีมาสู่ตระกูลเราจริง ๆ!”
“ผู้อาวุโสท่านชมเกินไปแล้ว” หลี่อี้เจิ้นมีความสุขอย่างยิ่งที่ได้รับคำชมจากผู้อาวุโสใหญ่
หลี่เฟิงถูยิ้ม แต่แล้วสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นจริงจัง “ที่จริงแล้ว วันนี้ข้าได้เรียกทุกคนมาที่นี่ เพื่อที่จะลงมติเลือกผู้สืบทอดตระกูลหลี่ของเรา แม้ว่าหลี่หมิงจะไม่เลว แต่เขาก็ยังเด็กอยู่เล็กน้อยและค่อนข้างห่างเหินกับหลี่ไฮว่ ข้าจึงขอแนะนำให้หลี่ไฮว่เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลหลี่ในอนาคตของเรา ทุกคนคิดเห็นอย่างไร?”
“ผู้อาวุโสใหญ่ ความคิดของท่านนั้นบรรเจิดดุจดั่งคบเพลิงในความมืด หลี่ไฮว่ไม่เลวเลย ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์หรือสติปัญญาต่างก็โดดเด่นกว่าคนรุ่นเดียวกัน”
“ใช่ ข้าตกลงให้หลี่ไฮว่สืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลในอนาคต”
“ฮ่า ๆ! แน่นอน มันควรจะเป็นหลี่ไฮว่ หลังจากที่เขากลับมาจากดินแดนรกร้างใต้พิภพในครั้งนี้ เขาอาจจะได้หัวใจของคุณหนูซูมาด้วยก็เป็นได้ ซึ่งนั่นจะช่วยทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลหลี่กับตระกูลซูดีขึ้น เมื่อพวกเขาแต่งงานกัน สถานะของตระกูลหลี่ก็จะทะยานสู่ฟ้าภายในพริบตา!”
…
ผู้อาวุโสทุกคนต่างเห็นด้วยกับความคิดเห็นของหลี่เฟิงถู
หลี่หมิงที่นั่งอยู่อย่างเงียบ ๆ รู้สึกอึดอัดใจอย่างมากเมื่อเห็นสิ่งนี้
ถ้าเป็นในอดีต เขาคงจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้เพราะเขาอ่อนแอเกินไป จึงไม่อาจเทียบได้กับอัจฉริยะอย่างหลี่ไฮว่ซึ่งได้รับความโปรดปรานจากเหล่าทวยเทพ
แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไป เขามีความแข็งแกร่งที่น่าเกรงขามแล้ว แม้ว่าตอนนี้จะยังด้อยกว่าหลี่ไฮว่ แต่ใครจะมั่นใจได้ว่าในอนาคตเขาจะไม่แซงหน้าพี่ชายตนเอง?
“ในเมื่อทุกคนเห็นด้วย…เช่นนั้นก็หลี่ไฮว่… หืม?” ผู้อาวุโสหลี่เฟิงถูยังพูดไม่ทันจบ ประตูห้องโถงใหญ่กลับถูกผลักเปิดออกอย่างหยาบคาย
ผู้ดูแลอู๋พุ่งเข้ามาอย่างเร่งร้อน สีหน้าของเขาดูตื่นตระหนกหวาดกลัว จากนั้นคุกเข่าลงบนพื้นก่อนจะตะโกนเสียงดัง “ผู้อาวุโส! ผู้อาวุโสทั้งหลาย! หายนะบังเกิดแล้ว! ตะเกียงวิญญาณชีวิตของนายน้อยหลี่ไฮว่… ดับลงแล้ว!”
เพล้ง!
ถ้วยน้ำชาในมือของหลี่อี้เจิ้นตกลงบนพื้นและแตกเป็นเสี่ยง ๆ
หลี่ไฮว่ตายแล้ว?
ใบหน้าของทุกคนมืดหม่นลง ทันใดนั้นบรรยากาศภายในห้องโถงใหญ่ก็เงียบสงัดราวกับป่าช้า
พวกเขาเรียกประชุมในครั้งนี้เพื่อยืนยันสถานะของหลี่ไฮว่ในฐานะผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลคนต่อไป แต่ยังไม่ทันได้ประกาศแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ข่าวการตายของหลี่ไฮว่กลับมาถึงก่อน ใครบ้างจะสามารถยอมรับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันแบบนี้ได้?
“เป็นไปได้หรือไม่ว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นภายในดินแดนรกร้างใต้พิภพ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...
ลงวันละหลายตอนใต้ใหม่ครับ...
ไม่ลงต่อแล้วหรือครับ ผมยังรออยู่นะครับ...