บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 581

บทที่ 581 ตกตะลึงจนเงียบสนิท

บทที่ 581 ตกตะลึงจนเงียบสนิท

“ผู้อาวุโสเต๋าบงกชเคยกล่าวอะไรกับข้าไว้น่ะหรือ…?”

เฉินซีตกตะลึงเมื่อเห็นประมุขนิกายและผู้อาวุโสทุกคนจ้องมองมาอย่างแน่วแน่ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ลังเลอีกต่อไปและกล่าวว่า “ผู้อาวุโสเต๋าบงกชไม่ได้กล่าวอะไรนัก ท่านเพียงชี้แนะศิษย์เท่านั้น”

“ผู้อาวุโสเต๋าบงกช …ชี้แนะศิษย์คนนี้จริงหรือ?”

การหายใจของเวินหัวถิงกับผู้อาวุโสทุกคนกลายเป็นรวดเร็วในทันที และแม้แต่ดวงตาของพวกเขาก็เป็นสีแดงเหมือนฝูงกระต่าย

“โชคชะตาของเขาต้องยิ่งใหญ่เพียงใดจึงจะสามารถฟังคำชี้แนะที่ลึกซึ้งของผู้อาวุโสได้!?”

ตัวตนเช่นพวกเขาต่างเข้าใจว่า ความสามารถของผู้อาวุโสเต๋าบงกชนั้นอัศจรรย์เพียงใด ผู้อาวุโสท่านนี้ถือกำเนิดจากเจตจำนงของดอกบัวศักดิ์สิทธิ์แห่งความโกลาหลที่สามารถดำรงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน และได้ผ่านกาลเวลามามากมายนับไม่ถ้วน แม้ว่าเขาจะไม่เคยมาที่ภพเซียน แต่การบ่มเพาะของผู้อาวุโสท่านนี้ก็ได้บรรลุถึงระดับที่อยู่เหนือภพทั้งสามเหนือล้ำกว่าเบญจธาตุ

เขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าเซียนสวรรค์มากมายไม่รู้ตั้งกี่เท่า!

สิ่งสำคัญที่สุดคือ เต๋าบงกชกำเนิดมาพร้อมกับร่างกายแห่งเจตจำนงสวรรค์ และเขาครอบครองแก่นแท้มหาเต๋ามากมายมาตั้งแต่ยุคสมัยที่ความโกลาหลถูกแยกออกจากกันเป็นครั้งแรก หากเป็นในแง่ของความเข้าใจเต๋าแห่งสวรรค์ ทั่วทั้งแดนภวังค์ทมิฬแห่งนี้ มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถเทียบเคียงกับเขาได้

ตอนนี้ตัวตนที่เก่าแก่ดังกล่าวได้ปรากฏตัวและชี้แนะให้แก่เฉินซี แล้วดวงตาของพวกเขาจะไม่แดงด้วยความอิจฉาต่อโชคลาภเช่นนี้ได้อย่างไร?

“หากข้าได้มีโอกาสรับฟังคำชี้แนะจากผู้อาวุโสเพียงคำเดียวแล้วละก็ เหตุใดข้าถึงต้องกังวลว่าจะไม่สามารถผ่านขั้นตอนสุดท้ายของการเป็นเซียนได้…” ผู้อาวุโสที่มีการบ่มเพาะขอบเซียนปฐพีระดับเก้าถอนหายใจด้วยความอาวรณ์

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ก็พากันเห็นด้วยในใจ

ในทางกลับกัน เมื่อได้ยินสิ่งนี้ เหล่าศิษย์ที่อยู่รอบ ๆ ก็เหมือนกับได้ยินเสียงฟ้าร้องดังก้องอยู่ข้างหู ทำให้พวกเขาตกใจจนถึงขั้นเกิดพายุขึ้นภายในใจของพวกเขา ผู้อาวุโสเต๋าบงกชเป็นตัวตนแบบใดกัน เหตุใดจึงได้รับความเคารพนับถือจากผู้อาวุโสทุกคน?

“จริงสิ ว่าแต่ท่านผู้อาวุโสเต๋าบงกชได้มอบหมายให้เจ้านำอะไรมาให้ข้าหรือ?” ทันใดนั้น เวินหัวถิงฟื้นจากอาการตกใจและถามอย่างเร่งรีบ

ในขณะที่กล่าว แม้การบ่มเพาะของเขาจะทำให้จิตใจมั่นคงอย่างมาก แต่หัวใจของเวินหัวถิงยังคงเต้นแรงอย่างช่วยไม่ได้ และแทบทนไม่ไหวที่จะเห็นว่า ผู้อาวุโสเต๋าบงกชได้ขอให้ชายหนุ่มนำสิ่งใดมาให้แก่ตน

เพียงประโยคเดียวกลับปลุกทุกคนให้ตื่นจากการงุนงง ทันทีที่เวินหัวถิงกล่าวจบ สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปทางเฉินซีอย่างพร้อมเพรียง และสายตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่ลุกโชนอย่างไม่ปิดบังเลยแม้แต่น้อย

ฟุ่บ!

ด้วยการพลิกมือของเฉินซี แผ่นไม้ไผ่สีเขียวขจีสี่สิบเก้าแผ่นก็ลอยอยู่กลางอากาศ พวกมันทั้งหมดเปล่งกลิ่นอายโบราณของคัมภีร์และมีความเก่าแก่มาก ทำให้คนอื่น ๆ รู้สึกเหมือนว่าได้หวนคืนกลับสู่ยุคบรรพกาลที่ว่างเปล่า ซึ่งในเวลานั้นเหล่าปราชญ์ยังใช้ใบมีดเป็นพู่กันอยู่

สิ่งนี้คือ…

ขณะที่พวกเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายโบราณที่แผ่ออกมาจากแผ่นไม้ไผ่ สายตาของทุกคนที่จดจ่ออยู่ตรงนั้น พวกเขารู้สึกตกตะลึงอยู่ในหัวใจอย่างสุดจะพรรณา

“นี่คือศาสตร์เต๋าทั้งสี่สิบเก้าเคล็ดที่เก็บไว้บนแท่นดอกบัว ศาสตร์เต๋าทุกประเภทมีพลังที่สั่นสะเทือนฟ้าดิน ผู้อาวุโสเต๋าบงกชได้กล่าวไว้ว่า สิ่งเหล่านี้จะเป็นดั่งกระดาษที่ไร้ประโยชน์ หากไม่มีผู้ใดได้ครอบครอง ดังนั้นท่านจึงฝากฝังให้ศิษย์ได้จัดการ” เฉินซีตอบเบา ๆ

เงียบสนิท!

เมื่อได้ยินว่าแผ่นไม้ไผ่เหล่านี้คือศาสตร์เต๋าจำนวนมากที่อยู่บนแท่นดอกบัว ทุกคนรวมถึงท่านประมุขนิกายกับเหล่าผู้อาวุโสต่างก็ตกตะลึงจนลืมหายใจ และไม่กล่าวออกมาเป็นเวลานาน

ดูเหมือนว่าความเงียบเท่านั้นที่สามารถแสดงถึงความตกใจที่เกิดขึ้นในใจของพวกเขาในขณะนี้

พวกเขาตกใจจริง ๆ เพราะอย่างไรแล้ว ศาสตร์เต๋าบนแผ่นไม้ไผ่เหล่านี้ถูกบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งทิ้งเอาไว้ ซึ่งศาสตร์เต๋าทุกประเภทล้วนทรงพลังอย่างหาที่เปรียบไม่ได้และสามารถสั่นคลอนยุคสมัยได้อย่างง่ายดาย!

แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของนิกายกระบี่เก้าเรืองรอง ศิษย์ทุกคนที่สามารถก้าวขึ้นไปบนแท่นดอกบัวได้นั้น ล้วนแต่เป็นตัวตนที่โดดเด่นที่สุดในโลก แต่พวกเขากลับได้รับศาสตร์เต๋าเพียงเคล็ดเดียวเท่านั้น

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้รับศาสตร์เต๋าเพียงเคล็ดเดียว แต่ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาทั้งหมดก็กลายเป็นอัจฉริยะที่น่าภาคภูมิใจของแดนภวังค์ทมิฬ เป็นดั่งผู้ปกครองที่ท่องไปทั่วโลกอย่างอิสระและมากด้วยอำนาจที่ยิ่งใหญ่!

ยิ่งไปกว่านั้น นิกายกระบี่เก้าเรืองรองในเวลานั้นสามารถจัดอยู่ในสามอันดับแรกของนิกายเซียนอันยิ่งใหญ่ทั้งสิบอย่างแน่นอน และเย้ยทุกคนด้วยพลังที่ไม่มีใครเทียบได้

แต่น่าเสียดายที่ในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมา ไม่มีศิษย์คนใดที่สามารถก้าวขึ้นไปบนแท่นดอกบัวและได้รับมรดกศาสตร์เต๋าที่บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งทิ้งเอาไว้ได้เลยสักคน ดังนั้นด้วยเหตุผลหลายประการ อันดับของนิกายกระบี่เก้าเรืองรองจึงลดลงทีละน้อย ซึ่งในตอนนี้ อันดับของนิกายในบรรดานิกายเซียนที่ยิ่งใหญ่ทั้งสิบก็ได้ตกลงไปอยู่อันดับที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์เลยด้วยซ้ำ และเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงยิ่ง

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เฉินซีได้ก้าวขึ้นไปบนแท่นดอกบัว และเขาไม่เพียงแต่จะได้รับมรดกศาสตร์เต๋าที่บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งทิ้งไว้เท่านั้น เขายังนำศาสตร์เต๋าทั้งสี่สิบเก้าเคล็ดกลับมาด้วย แล้วจะไม่ทำให้พวกเขาตกใจได้อย่างไร!?

นั่นคือศาสตร์เต๋าทั้งสี่สิบเก้าเคล็ด! ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน!

เหล่าศิษย์ที่อยู่รอบข้างในขณะนี้ล้วนเข้าใจแล้วว่า เฉินซี… ได้ขึ้นไปบนแท่นดอกบัวและกลายเป็นคนแรกในหมู่พวกเขาที่ได้ขึ้นไปบนแท่นดอกบัว

ความตกใจที่ไม่มีที่สิ้นสุดเป็นเหมือนพายุที่ไม่มีใครเทียบได้และสะท้อนดังก้องอยู่ในหัวใจของทุกคน มันทำให้เกิดพายุหมุนที่ทำให้พวกเขาไม่สามารถฟื้นตัวจากอาการตกใจได้เป็นเวลานาน

“ท่านประมุขนิกาย โปรดเก็บรักษาศาสตร์เต๋าเหล่านี้ไว้ด้วยขอรับ” เฉินซีกล่าวอย่างใจเย็นเพื่อทำลายความเงียบที่ล่องลอยอยู่ในบรรยากาศ เขาทำให้ทุกคนดูเหมือนกับถูกน้ำเย็นสาดใส่จนฟื้นตื่นความฝันและอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]