บทที่ 604 ก้าวสู่ขอบเขตสถิตกายา
บทที่ 604 ก้าวสู่ขอบเขตสถิตกายา
เมื่อเห็นสีหน้าโศกเศร้าของเด็กหญิง ความอบอุ่นจึงผุดขึ้นในใจของเฉินซี เขาเพียงมอบเหรียญเงินซึ่งไร้ประโยชน์สำหรับตน ทว่าได้กลับมาซึ่งไมตรีจิตของเด็กหญิงคนนี้ ทำให้ชายหนุ่มซาบซึ้งใจนัก
“ดูสิ กระเรียนมงกุฎแดงยังสบายดี” เขาลูบศีรษะเด็กหญิงก่อนจะหยิบก้อนฟางออกจากมือของนางและถักทอจนเป็นกระเรียนมงกุฎแดงที่เสมือนมีชีวิตจริง
โอ๊ก!
ในจังหวะถัดมา กระเรียนมงกุฎแดงที่ถักขึ้นมาจากเส้นฟางธรรมดาพลันเปล่งแสงกลายเป็นกระเรียนมงกุฎแดงที่มีชีวิต มันกางปีกพลางส่งเสียงร้องซึ่งดูสง่างามยิ่งนัก
ทั้งสองแม่ลูกต่างอึ้งงัน ไม่อาจเชื่อสายตาตัวเอง
“นั่งบนหลังมัน แล้วมันจะพาพวกท่านกลับบ้าน” เฉินซียิ้มกล่าวก่อนสะบัดแขนเสื้อเพื่อพาแม่กับลูกไปยังหลังนกกระเรียน
ฟิ้ว!
ในยามถัดมา กระเรียนมงกุฎแดงกระพือปีก พุ่งออกจากอารามและบินขึ้นสู่เวหา ทุกที่ที่บินผ่าน พายุฝนไม่อาจทำให้ร่างของมันแปดเปื้อนได้ เหล่าวิญญาณร้ายต่างหลบหนีด้วยความหวาดกลัวและมันก็หายวับไปกับสายลม
“เพื่อให้คนชั่วถูกลงทัณฑ์ เพื่อให้คนดีได้รับรางวัล เพื่อให้ผลแห่งการกระทำส่งผลต่อทั้งสองฝ่าย ทั้งขาวและดำ ทั้งถูกและผิด… นี่คือเต๋าแห่งสวรรค์ที่ข้าแสวงหาอยู่ในใจ!” ด้านนอกอารามที่พังทลาย เสื้อผ้าของเฉินซีพลิ้วไหวขณะที่ยืนอย่างภาคภูมิท่ามกลางพายุฝน ชายหนุ่มมองไปยังทิศทางที่กระเรียนมงกุฎแดงหายไปขณะพึมพำด้วยเสียงอันแผ่วเบา
โอม!
พลังชีวิตในร่างกายของเขาพลุ่งพล่านออกมาฉับพลันขณะที่ทั่วทั้งร่างกายเปล่งแสงมหึมาเจิดจ้าซึ่งส่องสว่างสวรรค์และโลก
ฉับพลันนั้น พายุฝนที่โปรยปรายและเมฆที่ดำทะมึนจู่ ๆ ก็ลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย เผยให้เห็นท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยดาราและสาดส่องด้วยแสงจันทรา
ภูตผีและวิญญาณร้ายโดยรอบเริ่มสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ขณะที่คนดีได้รับการไถ่ถอนบาปก่อนก้าวไปสู่หกวิถีสังสารวัฏ คนชั่วก็ได้ถูกกำจัดและหายไป ณ จุดนั้น
ในชั่วพริบตา ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยดวงดาวพร่างพรายในขณะที่ดวงจันทร์สว่างไสว สภาพแวดล้อมถูกปกคลุมด้วยต้นไม้และทุ่งหญ้าเขียวขจีหนาทึบ ฉากในตอนนี้ดูเหมือนฉากแห่งวิมานเซียน ไม่ได้เผยให้เห็นฉากที่น่าสยองเหมือนเมื่อก่อนนี้แม้แต่น้อย
ฟิ้ว!
ทันใดนั้นร่างของเฉินซีก็เหาะลงมาปรากฏกายบนแผ่นหินปูนในผืนป่า จากนั้นก็นั่งขัดสมาธิด้วยท่าทางสงบนิ่ง ขณะที่กลิ่นอายอันกว้างพลุ่งพล่านในร่างกายของเขา ด้วยชายหนุ่มกำลังอยู่ในระหว่างการแปลงกาย!
ในช่วงเดือนนี้ เขาได้ข้ามหุบเขาแม่น้ำและเดินทางไกลอย่างมาก ทำให้คุ้นชินกับความยากลำบาก
ในช่วงเดือนนี้ เขาได้กวาดล้างผู้บ่มเพาะที่ชั่วร้ายและสังหารคนใจต่ำทรามราวกับมือกระบี่ผู้เที่ยงธรรม
ในช่วงเดือนนี้ เขาได้สัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ มากมายในภพมนุษย์ สัมผัสทั้งความดีและความชั่วที่อยู่ในใจ มันไม่ใช่การบ่มเพาะ ทว่าดีกว่านั้น!
ณ ตอนนี้ ดวงจิตแห่งเต๋าของเขาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ พลังชีวิตของเขาเหมือนพระจันทร์เต็มดวงบนท้องฟ้ายามค่ำคืนซึ่งเงียบสงบ ไร้ที่ติ และปราศจากมลทิน ภายในอารามที่พังทลาย ณ แดนรกร้างแห่งนี้ พายุฝนโปรยปราย พลังงานชีวิตของเขาหลอมรวมกับสวรรค์และโลก และในที่สุดชายหนุ่มก็คว้าโอกาสที่จะก้าวไปอีกขั้น ทำให้ทั้งร่างกายของเขาได้รับการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพจากภายในสู่ภายนอก
โอม!
เสียงของมหาเต๋าดังสนั่นราวกับคลื่นอัสนีอยู่ภายในร่างกายของเขา ปราณแท้เดือดดาล แก่นชีวิตผงาดดั่งมังกร โลหิตชีพจรลุกโชน ทั้งหมดนี้เปลี่ยนเป็นพลังทะลุขีดจำกัด ราวกับสายฟ้าที่ผ่าทะลุโลกา ราวกับกระบี่โบราณแห่งเต๋าที่ฟันความโกลาหล มันผ่าด้านในท้องทะเลแห่งลมปราณของเขา
โครม!
สะพานโค้งพลันปรากฏขึ้นในท้องทะเลแห่งลมปราณ ปลายสะพานซึ่งเดิมทีปกคลุมไปด้วยความโกลาหลที่แผ่ขยายพลันแบ่งออกเป็นสองส่วน ปราณบริสุทธิ์ไหลขึ้นสู่ท้องฟ้าในขณะที่ปราณอันขุ่นมัวจมลงผืนดิน
รูปร่างของโลกที่สุดแสนจะเรียบง่ายถูกสร้างขึ้นเช่นนี้!
ราวกับว่าร่างกายของเขาถูกแยกเป็นสองส่วน ทว่าเฉินซีไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย เขากลับเข้าใจถึงความรู้สึกล้ำลึกแห่งเต๋าด้วยซ้ำ
ในตอนต้นเมื่อความโกลาหลถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน มันรู้สึกเหมือนโซ่ตรวนได้พังทลายลง หยินและหยางถูกแยกออกจากกัน สวรรค์เป็นหยางและปฐพีเป็นหยิน ระหว่างทั้งสองนั้นคือโลกอันไร้ขอบเขต… ชิ้นส่วนความรู้แจ้งชิ้นเล็กชิ้นน้อยจำนวนเหลือคณานับไหลเข้าสู่จิตใจของเฉินซี ในยามถัดมากงล้อสังสารวัฏในท้องทะเลแห่งลมปราณพลันระเบิดกลายเป็นดวงแสงเปล่งประกายหลากสีที่ไหลเข้าสู่โลกอันเรียบง่ายก่อนจะเปลี่ยนเป็นแผ่นดินและพืชพรรณ
เบญจธาตุถูกแทนที่และไหลเวียนต่อไม่จบไม่สิ้นขณะที่กำลังสร้างทุกอย่างภายในโลก… เพียงช่วงเวลาไม่กี่ลมหายใจ ทั้งโลกจึงสวยงาม มีสีสัน และมีรัศมีที่โอ่อ่าไหลเวียนไปด้วยความมีชีวิตชีวา ในเวลาเดียวกันกับที่ทุกสิ่งทุกอย่างถูกสร้างขึ้น ทำให้โลกใบนี้ไม่เป็นสีเทาขุ่นมัวอีกต่อไป
ทว่าการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ยังไม่ยุติลง
ดวงดาวจำนวนมหาศาลปรากฏขึ้นในท้องนภา วายุพัดผ่านในโลกา ดวงตะวันกับจันทราปรากฏขึ้นในท้องนภา สวรรค์และปฐพีถูกแบ่งเป็นยามกลางวันและยามค่ำคืนขณะที่อัสนีฟาดผ่าและสรรพสิ่งเริ่มเข้าสู่วงจรชีวิต… โลกทั้งใบเคลื่อนไหวอย่างฉับพลันและสร้างแรงผลักดันที่เพิ่มทวีคูณ
หยิน หยาง เบญจธาตุ ดารา อัสนี วายุ ท้องนภา… บรรดาความล้ำลึกแห่งมหาเต๋าที่เฉินซีได้คว้ามาไว้นั้นได้ก่อตัวเป็นพื้นที่อิสระภายในแดนฮุ่นตุ้นในร่างกายของเขา นอกจากขาดกฎสูงสุดแห่งเต๋าสวรรค์ เช่น กฎแห่งมิติ กฎทางโลก กฎชีวาวายปราณและอื่น ๆ มันก็สามารถเทียบกับโลกจริงได้!
โครม!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...