บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 607

บทที่ 607 การแข่งขันเพื่อชิงสังเวียน

บทที่ 607 การแข่งขันเพื่อชิงสังเวียน

การทดสอบแห่งยอดเขาจรัสจะเริ่มขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นเท่ากับต้นไม้สามลำ และเหลือเวลาอีกไม่ถึงหนึ่งช่วงก้านธูป

“เฉินซีอยู่ที่ใดกัน?”

“เหตุใดเขาถึงยังไม่ปรากฏตัวจนถึงตอนนี้?”

เมื่อเวลาผ่านไป ฝูงชนก็อดไม่ได้ที่จะกระสับกระส่ายเล็กน้อย และคลื่นของการสนทนาก็ดังก้องออกไป

“หรือว่าเขากลัวที่จะเข้าร่วมการต่อสู้? เขาไม่กล้าที่จะแข่งขันกับศิษย์ชั้นสูงคนอื่น ๆ หรือ?”

เยว่ฉือที่ยืนอยู่บนแท่นของยอดเขาสัประยุทธ์กวาดสายตามองไปรอบ ๆ และรอยยิ้มเย็นชาก็ปรากฏขึ้นที่มุมปาก จากนั้นเจ้าตัวก็หันไปด้านข้างและกล่าวกับเลี่ยเผิงว่า “พี่เลี่ย ในเมื่อใกล้ได้เวลาแล้ว เหตุใดเราถึงไม่เริ่มการทดสอบแห่งยอดเขาจรัสเสียตอนนี้เลยล่ะ”

“โอ้…” เลี่ยเผิงตกตะลึง จากนั้นเขาก็กล่าวด้วยความประหลาดใจ “เราไม่รอเฉินซีอีกสักหน่อยหรือ?”

“บางทีเด็กน้อยคนนี้อาจพัวพันกับปัญหาบางอย่าง ดังนั้นเขาคงไม่ร่วมการทดสอบแห่งยอดเขาจรัสในครั้งนี้” เยว่ฉือกล่าวด้วยรอยยิ้ม แต่ในใจกลับรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย เดิมทีเขาคิดว่าเมื่อตนเสนอประเด็นนี้ เลี่ยเผิงจะเห็นด้วยอย่างแน่นอน แต่ชายชราคนนี้กลับเลี่ยงที่จะตอบและเอ่ยชื่อของเฉินซีแทน …อีกฝ่ายไม่คิดจะไว้หน้าเขาเลยแม้แต่น้อย!

แต่เยว่ฉือก็รู้เช่นกันว่า เฉินซีเป็นที่ชื่นชอบของผู้อาวุโสทุกคนและในสถานการณ์ปกติ พวกเขาจะไม่สร้างปัญหาให้กับอีกฝ่ายอย่างแน่นอน เว้นแต่ว่าพวกเขาจะไม่มีทางเลือกอื่น

มันถึงขั้นที่พวกเขาจะไม่ทำ แม้ตัวเขาจะเป็นคนออกหน้าแล้วก็ตาม!

‘ช่วยไม่ได้ เจ้าเด็กน้อยนี้สามารถขึ้นไปบนยอดของแท่นดอกบัว และมันไม่เพียงแต่ได้พบกับผู้อาวุโสเต๋าบงกชเท่านั้น มันยังนำมรดกศาสตร์เต๋าทั้งสี่สิบเก้าเคล็ดออกมาเช่นกัน คุณงามความดีเช่นนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้เหล่าผู้อาวุโสปฏิบัติต่อมันเป็นพิเศษ’

‘แต่โชคดีที่เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งเค่อเท่านั้น และเจ้าเด็กคนนั้นย่อมมาไม่ทันอย่างแน่นอน…’ เขาคำนวณเวลาในใจอย่างเงียบ ๆ และก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกโดยไม่รู้ตัว

เยว่ฉือก้าวไปข้างหน้าและกระแอมไอเบา ๆ เขาได้เตรียมตัวเพื่อประกาศการเริ่มต้นของการทดสอบแห่งยอดเขาจรัสแล้ว

การกระทำของเขาได้ดึงดูดสายตาของผู้คนจำนวนมากทันที และทุกคนก็ต่างรู้ว่า การทดสอบแห่งยอดเขาจรัสกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ…

ตู้ม!

ในขณะนี้ เสียงระเบิดดังขึ้นที่ด้านข้างของเยว่ฉือ และอากาศก็เกิดเสียงดังโครมคราม จากนั้นก็ปรากฏความผันผวนที่ดูเหมือนกับคลื่นยักษ์ถาโถมออกไป พร้อมกับแสงที่ส่องประกายเจิดจ้าไปทุกหนทุกแห่ง

คลื่นผันผวนนี้ยิ่งใหญ่และทรงพลัง ซึ่งเผยให้เห็นรัศมีแห่งอำนาจเหนือโลกา มันเหมือนกับพายุหมุนที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันและพัดพาไปนับล้านลี้ และท่ามกลางบรรยากาศเงียบงันเช่นนี้ มันก็ดูน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง

หลังจากนั้น ความผันผวนก็สงบลง ก่อนจะปรากฏร่างของชายหนุ่มที่หล่อเหลาและไม่ธรรมดาขึ้นที่กลางอากาศ ทำให้ทุกคนงุนงงจนเป็นไก่ตาแตก

“นี่มันเฉินซี! กลิ่นอายนี้มัน…น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!”

“หลังจากผ่านไปสามเดือน พลังของเขาดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมาก”

“เขาคือศิษย์พี่เฉินซีหรือ? เขาพุ่งตรงเข้าสู่สนามประลองด้วยความเร็วอันน่าทึ่ง เขาช่างไม่ธรรมดาจริง ๆ!”

เมื่อเห็นร่างสูงโปร่งของเฉินซีพุ่งทะยานอยู่บนท้องฟ้า ความโกลาหลเกิดขึ้นทันที และพวกเขาต่างถกเถียงกันมากมาย

ในทางกลับกัน ดวงตาของเหลิ่งชิว ผางโจว และตู้เซวียนก็หรี่ลงเล็กน้อย ประกายความตกใจพลันแวบผ่านใบหน้าของพวกเขา ด้วยเมื่อสามเดือนก่อน เฉินซีได้ยับยั้งตัวเองดั่งกระบี่ที่อยู่ในฝัก ทำให้มิอาจล่วงรู้ถึงความสามารถของอีกฝ่ายได้

แต่ในขณะนี้ ชายหนุ่มดูจะกลายเป็นคนละคน เขาทำให้ทุกคนรู้สึกถึงแรงกดดันที่รุนแรงทันทีที่ปรากฏตัว และกลิ่นอายที่ส่องแสงเจิดจ้าอยู่เหนือท้องฟ้าของยอดเขาสัประยุทธ์ก็กระจายออกไปทันทีที่ชายหนุ่มมาถึง เนื่องจากพวกมันไม่อาจทนต่อแรงกดดันของกลิ่นอายของเฉินซีได้!

“ขอบเขตสถิตกายา!”

เพียงชั่วพริบตา ทั้งสามคนก็สรุปได้ว่าอีกฝ่ายได้บรรลุสู่ขอบเขตสถิตกายาแล้ว

ร่างกายของเยว่ฉือที่อยู่บนแท่นของยอดเขาสัประยุทธ์แข็งทื่ออย่างช่วยไม่ได้ เพราะเฉินซีได้ปรากฏตัวอยู่ที่ข้าง ๆ เขาโดยไม่รู้ตัว

“นี่มัน…เป็นไปไม่ได้! มันไปบ่มเพาะเคล็ดวิชาอะไรมากันแน่!”

อันที่จริง เขาไม่ได้สังเกตเห็นร่องรอยของอีกฝ่ายมาก่อน และสิ่งนี้ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสยองอยู่ในใจ เพราะตำแหน่งที่เฉินซีปรากฏตัวนั้นอยู่ใกล้กับตนมาก และมันอยู่ในระยะที่เอื้อมถึง หากเฉินซีลงมือกับเขาโดยตรง ผลที่ตามมาก็คงมีเพียงแต่หายนะ!

เยว่ฉือรู้สึกไม่อยากเชื่อเล็กน้อย ความเร็วดังกล่าวไม่ต่างอะไรกับการเคลื่อนย้ายมิติ ดังนั้นเฉินซีคนนี้จะเชี่ยวชาญพลังเช่นนี้ได้อย่างไร?

เพราะอย่างไร การเคลื่อนย้ายมิติก็เป็นความสามารถที่มีเฉพาะผู้บ่มเพาะขอบเขตเซียนปฐพีเท่านั้น!

เขาเหม่อมองท้องฟ้าโดยไม่ตั้งใจ ก่อนจะถอนหายใจออกมา เพราะบนท้องฟ้ามีพื้นที่สุญญากาศที่ยาวประมาณหนึ่งหมื่นจั้ง เหมือนกับสายรุ้งที่ทอดยาวผ่านท้องฟ้า และมันก็หายไปอย่างรวดเร็วโดยไร้ร่องรอยใด

แต่เยว่ฉือก็รู้ดีว่าสิ่งนี้คือร่องรอยที่เกิดขึ้นจากเคลื่อนไหวที่รวดเร็วอย่างสุดขั้ว ก่อนที่มันจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย…

ในเวลานี้ก็มีคนมากมายเห็นสิ่งนี้ และอดไม่ได้ที่จะตกใจเป็นอย่างมาก ความเร็วในการบินนี้ดูจะเทียบเท่ากับการเคลื่อนย้ายมิติเลยมิใช่หรือ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]