บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 612

บทที่ 612 บดขยี้อย่างสมบูรณ์

บทที่ 612 บดขยี้อย่างสมบูรณ์

ฝ่ามือหมื่นคลื่นใต้พิภพเป็นศาสตร์เต๋าระดับสูงสุด ซึ่งได้มาจากแดนเร้นลับที่ตั้งอยู่ด้านบนสุดของแท่นดอกบัว และมันถือกำเนิดขึ้นจากมหาเต๋าลึกล้ำที่ได้ดูดกลืนแม่น้ำโลหิตที่ไหลเชี่ยวกราก หลังจากที่มันได้หยั่งรากลงในโลกใต้พิภพ

ว่ากันว่าในยมโลกหรือโลกใต้พิภพนั้นมีแม่น้ำสายหนึ่งที่ชำระจิตใจของมนุษย์และขจัดบาปของพวกเขา คลื่นนับพันนับหมื่นเป็นดั่งกระแสน้ำที่ทั้งมารอสูรและทวยเทพไม่สามารถต้านทานได้! ยิ่งกว่านั้น มหาเต๋าที่บรรจุอยู่ภายในฝ่ามือหมื่นคลื่นใต้พิภพนี้ มาจากวัฏจักรการเกิดใหม่ในยมโลกและวิถีแห่งนรกทั้งหก!

หากเป็นคนอื่น บางทีคนคนนั้นอาจเข้าใจฝ่ามือหมื่นคลื่นใต้พิภพได้เพียงผิวเผินและไม่สามารถเข้าถึงแก่นแท้ของมันได้ เพราะอย่างไร วิถีของมนุษย์กับวิญญาณก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และเป็นเรื่องยากมากที่ผู้บ่มเพาะมนุษย์จะสามารถเข้าใจและเชี่ยวชาญความลึกซึ้งของยมโลก

แต่เฉินซีกลับแตกต่างออกไป ความล้ำลึกของมหาเต๋าแห่งปารมิตาและมหาเต๋าแห่งการลืมเลือนที่เขาเชี่ยวชาญนั้นมาจากหกวิถีสังสารวัฏ การใช้พวกมันเพื่อใช้ฝ่ามือหมื่นคลื่นใต้พิภพ จึงทำให้อานุภาพของมันไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

ครืนน!

เมื่อฝ่ามือของเขาฟาดออกไป ปรากฏการณ์ทะเลดอกไม้ที่แผ่ขยายออกไปก็ปรากฏขึ้นท่ามกลางเงาฝ่ามือมากมาย ดอกไม้มีสีแดงสดเหมือนเลือดและปกคลุมไปทุกหนทุกแห่ง เมื่อมองจากที่ไกล ๆ มันเหมือนพรมที่ชุ่มไปด้วยเลือดสด ซึ่งได้พาดผ่านท้องฟ้าและนำไปสู่วิถีสุดท้ายแห่งบาปในนรก

เต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตา… เส้นทางส่องสว่างด้วยเปลวไฟ!

ดอกไม้สีแดงเข้มที่น่าทึ่งพวกนี้คือดอกพลับพลึงแดงแห่งยมโลกที่มีชื่อเสียงเลื่องลือ หรือถูกเรียกอีกอย่างว่า ‘ดอกปารมิตา’ พวกมันเป็นเหมือนกับไฟ เหมือนกับเลือด อีกทั้งยังเป็นตัวแทนของความหายนะ การพลัดพราก และความตาย!

ตามตำนานว่ากันว่า หลังจากหมดสิ้นอายุขัย วิญญาณของผู้วายชนม์จะสามารถเข้าสู่ยมโลกและกลับสู่เส้นทางหกวิถีสังสารวัฏได้ ก็ต่อเมื่อได้รับการชี้นำของดอกปารมิตาเท่านั้น

“หืม? มันคือเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตา! เด็กคนนี้ไปบ่มเพาะมหาเต๋าลึกล้ำที่หาได้ยากเช่นนี้มาจากที่ใด!” สีหน้าของเลี่ยเผิงที่อยู่ในระยะไกลเผยให้เห็นถึงความตกใจ ดวงตาของเขาฉายประกายแสงเยียบเย็น เขาทั้งรู้สึกประหลาดใจและงุนงง

หากใครก็ตามได้บ่มเพาะมาจนถึงระดับเดียวกับเขาแล้ว คนผู้นั้นก็จะมีความรู้เกี่ยวกับภพมนุษย์ ภพเซียน และยมโลกเหนือกว่าคนทั่วไป ดังนั้นด้วยการมองเพียงแวบเดียว เขาจึงค้นพบอย่างรวดเร็วว่าเฉินซีโจมตีด้วยฝ่ามือที่แฝงมหาเต๋าลึกล้ำซึ่งเป็นของยมโลก!

ในอีกด้านหนึ่ง เยว่ฉือก็แสดงสีหน้าตกใจเช่นกัน หนวดเคราและผมของเจ้าตัวกระพือ “เต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตา! มันเป็นหนึ่งในสามมหาเต๋าที่จักรพรรดิยมโลกในยุคแรกเริ่มได้ครอบครอง เจ้าเด็กคนนี้เรียนรู้มันมาจากไหนกัน!?”

ครืน!

บนสนามประลอง การโจมตีของเฉินซีปะทะเข้ากับการโจมตีของผางโจวและเหลิ่งชิว ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังกึกก้องที่เหมือนกับเสียงฟ้าร้องเขย่าโลก ทำให้เกิดพายุโหมกระหน่ำและทะเลเพลิงที่ลุกโชน คลื่นฝ่ามือที่ปั่นป่วนก็ระเบิดขึ้นพร้อมกัน พื้นที่บริเวณนั้นแตกเป็นเสี่ยง ๆ ราวกับถูกพระอาทิตย์แผดเผา ทำให้เกิดคลื่นลูกใหญ่ซัดสาดอย่างรุนแรงและไม่สามารถสลายได้เป็นเวลานาน

หลังจากนั้น ฉากที่ทำให้หัวใจสั่นไหวก็ปรากฏขึ้นในระยะสายตาของทุกคน

เหลิ่งชิวกับผางโจวได้รับบาดเจ็บสาหัสและไอเป็นเลือด พวกเขากำลังหอบหายใจอย่างหนักขณะที่ยืนอยู่ที่ขอบสนามประลอง ร่างของพวกเขาใกล้จะพังทลาย และคนทั้งสองอยู่ห่างจากการถูกซัดจนกระเด็นออกจากสนามประลองเพียงไม่กี่ก้าว

ในทางกลับกัน เสื้อผ้าของเฉินซีพลิ้วไหวตามแรงลม ในขณะที่ร่างของเขายังคงตั้งตรง และดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่ได้รับอันตรายใด ๆ ทั้งสิ้น มีเพียงสีหน้าของเขาที่ซีดเซียวและแทบจะโปร่งแสง ด้วยถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่การใช้พลังของเขาก็มหาศาล!

ณ จุดนี้ของการต่อสู้ สถานการณ์ได้ดำเนินสู่ช่วงสุดท้ายที่ร้อนระอุแล้ว ในเวลานี้ บางทีแค่กระบวนท่าเดียว …มันก็อาจตัดสินผู้ชนะคนสุดท้ายได้แล้ว!

แต่เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ในปัจจุบัน เหลิ่งชิวกับผางโจวนั้นประสบกับความสูญเสีย เพราะดูเหมือนว่าพวกเขาจะบาดเจ็บสาหัส…

ยอดเขาสัประยุทธ์ทั้งหมดในขณะนี้พลันเงียบสนิทจนสามารถได้ยินแม้แต่เสียงเข็มตก

ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจอย่างจดจ่อ หรือแม้แต่ลืมที่จะหายใจ พวกเขาต่างจ้องมองไปที่สนามประลองและร่างของชายหนุ่มทั้งสาม เพราะพวกเขากลัวอย่างยิ่งที่จะพลาดรายละเอียดใด ๆ ไป

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! เฉินซี เจ้านี่มันโอ้อวดอย่างไร้ยางอายเสียจริง ๆ! ข้ากับศิษย์พี่เหลิ่งชิวยังคงยืนอยู่บนสนามประลองหลังจากการโจมตีครั้งนี้ และเราไม่ได้แพ้!” ท่ามกลางความเงียบนี้ ผางโจวก็ระเบิดเสียงหัวเราะขึ้นไปบนฟ้า แต่เสียงของเขากลับแหบแห้งนัก เขาจำได้ว่า ก่อนหน้านี้เฉินซีเคยกล่าวว่าจะโยนพวกเขาออกจากสนามประลอง แต่ตอนนี้พวกเขายังคงยืนอยู่บนสนามประลองได้อย่างปลอดภัยและไม่ได้พ่ายแพ้!

อีกด้าน เหลิ่งชิวยังคงไม่แยแสสิ่งใด เสื้อผ้าสีขาวของเขานั้นเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงฉาน เป็นสีแดงฉานด้วยเลือด! และมีเพียงการจ้องมองของเขาเท่านั้นที่เผยให้เห็นท่าทีที่แน่วแน่ไร้ความปรานี ด้วยในเมื่อผู้ชนะคนสุดท้ายยังไม่ได้ตัดสิน ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมแพ้เช่นกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]