บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 611

บทที่ 611 กลิ่นอายผ่าเผยอันไร้ที่เปรียบ

บทที่ 611 กลิ่นอายผ่าเผยอันไร้ที่เปรียบ

ทุกคนต่างตกตะลึงที่การโจมตีผสานของเหลิ่งชิวกับผางโจวทำให้เฉินซีได้รับบาดเจ็บ!

“นั่นคือพลังต่อสู้สองเท่า! ศิษย์พี่เหลิ่งชิวได้บรรลุมหาเต๋าวายุไปสู่ขอบเขตสมบูรณ์แล้ว!”

“ศิษย์พี่ผางโจวก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน อานุภาพของการฟันเมื่อครู่ได้หลอมรวมมหาเต๋าแห่งหยินและมหาเต๋าแห่งอัคคี ทำให้เกิดพลังรุนแรงและน่าอัศจรรย์เช่นเดียวกัน!”

“ใช่แล้ว ข้าไม่อาจจินตนาการได้ว่า จะมีใครที่มีฐานการบ่มเพาะในระดับเดียวกัน ซึ่งสามารถต้านทานการโจมตีผสานของศิษย์พี่เหลิ่งชิวและศิษย์พี่ผางโจวได้”

บางทีนี่อาจเป็นคำอธิบายที่ถูกต้อง เพราะเท่าที่ทุกคนกังวล ไม่ว่าความแข็งแกร่งของเฉินซีจะท้าทายสวรรค์เพียงใด แต่เขาก็มีเพียงคนเดียว นอกจากนี้ ชายหนุ่มเพิ่งบ่มเพาะศาสตร์เต๋าได้ไม่ถึงสามเดือน ดังนั้นเขาจึงด้อยกว่าผางโจวและเหลิ่งชิวไปโดยปริยาย

ครืนนน!

บนสนามประลอง หลังจากประสบความสำเร็จในการโจมตี ผางโจวกับเหลิ่งชิวก็ไม่ลังเลที่จะโจมตีใส่อีกฝ่ายอย่างดุเดือดอีกครา

เหลิ่งชิวเป็นเหมือนราชาพายุที่เกรี้ยวกราด เย็นชาและโหมกระแสลมอย่างไร้ขอบเขต เขาเป็นดั่งพายุที่เขย่ามหาสมุทรและพัดพาไปทั่วโลกด้วยพลังอันไร้เทียมทาน

ส่วนร่างของผางโจวกลับเป็นสีแดงเพลิง กลิ่นอายของเขาน่าสะพรึงกลัวราวกับว่าเขากลายเป็นเปลวเพลิงสีแดงเข้ม มือของเขาดูราวกับว่ากำลังถือเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถเผาผลาญมิติและหลอมละลายทุกสิ่งอย่างรอบกาย!

การโจมตีของพวกเขาครั้งนี้เหมือนกับเหยี่ยวที่โฉบลงมาจากเวหาและอินทรีที่พุ่งลงมาจากนภา ทั้งคู่ต่างคว้าโอกาสเอาไว้อย่างเหนียวแน่นและโจมตีอย่างดุเดือดในชั่วพริบตา อีกทั้งยังไม่ยั้งมือเลยแม้แต่น้อย เพราะพวกเขาต้องการที่จะบดขยี้เฉินซีให้สิ้นซาก นอกจากนี้ กลิ่นอายที่แผ่ซ่านออกมาก็น่าสะพรึงกลัวและดุดัน ทำให้หัวใจและความคิดของทุกคนสั่นไหว

ตึง!

เลือดไหลออกจากมุมปากของเฉินซี แต่เขาก็ไม่ได้ถอย ร่างของชายหนุ่มกลับเป็นดั่งภูผาที่ไม่ขยับเขยื้อน และเขาได้ก้าวเท้าก้าวที่เก้าตั้งแต่การต่อสู้เริ่มขึ้น!

ในตอนนี้ ทุกคนดูจะได้ยินเสียงคำรามของมังกรและเสียงร้องของวิหคอมตะ มันเหมือนกับเสียงสวดของเทพเจ้าที่ดังก้องอยู่ในสวรรค์ทั้งเก้า ในขณะที่แสงอันไร้ขอบเขตก็ปะทุออกมาจากใต้เท้าของชายหนุ่ม และสาดส่องออกไปเหมือนสายฝน ก่อนจะกลายเป็นอักขระยันต์ที่ไร้ขอบเขต ซึ่งควบแน่นเป็นรูปดอกบัวจำนวนมากที่เป็นผลึกเหมือนหยกสีดำและกระจายออกไปโดยรอบ

เคล็ดนพก้าวพิฆาตโกลาหล… ก้าวที่เก้า พิภพโกลาหล!

ดอกบัวที่ใสเป็นผลึกเหมือนหยกดำจำนวนมาก ถูกควบแน่นจากเจตนาฆ่าที่ทรงพลัง เมื่อดอกบัวทั้งหมดผลิบานในเวลานี้ พวกมันทำให้เฉินซีดูเหมือนดั่งจักรพรรดิที่ทำให้ดอกบัวผลิบานในทุกย่างก้าวที่เดิน และเขาก็มีกลิ่นอายที่ดุดันอย่างไร้ที่เปรียบ!

ตู้ม!

ทันทีที่ก้าวออกไป เจตนาฆ่าก็พุ่งออก ในขณะที่ดอกบัวสีดำเป็นเหมือนนรกที่ปิดผนึกบริเวณโดยรอบ โดยตั้งใจทำให้ท้องฟ้าตกอยู่ในความโกลาหลและแตกเป็นเสี่ยง!

เพียงแค่การโจมตีครั้งนี้ก็ทำลายการโจมตีทั้งหมด อีกทั้งยังระเบิดใส่เหลิ่งชิวกับผางโจวที่กำลังบินอยู่ พวกเขาเป็นประหนึ่งว่าวที่สายป่านขาด และแทบจะกระเด็นออกจากสนามประลองไป

สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน ทำให้ทุกคนตกใจสุดขีดอีกครั้ง เพราะเฉินซีได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้ และทุกคนต่างคิดว่าเขาย่อมพ่ายแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ไหนเลยพวกเขาจะคาดคิดได้ว่า เพียงแค่กระบวนท่าเดียว เหลิ่งชิวกับผางโจวผู้ครอบครองกลิ่นอายอหังการที่ทะยานสู่ท้องฟ้าดุจสายรุ้งพาดผ่านโลก กลับได้รับบาดเจ็บเช่นนี้!

เมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว มันก็ทำให้ดวงตาของพวกเขาพร่ามัว ผู้ชมบางคนถึงกับมองไม่ออกด้วยซ้ำว่า ใครเป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่ในขณะนี้ แต่พวกเขาก็ไม่อาจโต้แย้งได้ เพราะความแข็งแกร่งของเฉินซีนั้นน่าสะพรึงอย่างแท้จริง และมันได้เกินความคาดหมายของทุกคนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้พวกเขาไม่กล้ายืนยันว่า ความแข็งแกร่งที่อีกฝ่ายยังไม่เปิดเผยออกมานั้นยังมีอยู่อีกเท่าใดกัน!

“เคล็ดนพก้าวพิฆาตโกลาหล นี่เขาใช้มันได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ…?” เลี่ยเผิงที่อยู่ห่างออกไปพึมพำด้วยเสียงที่แผ่วเบา

ถึงแม้เขาจะไม่ได้บ่มเพาะเคล็ดนพก้าวพิฆาตโกลาหล แต่ก็เคยเห็นมันมาก่อนในอดีต มันเป็นศาสตร์เต๋าระดับสูงสุดที่มีความสามารถในการสังหารที่สูงมาก อีกทั้งยังบ่มเพาะได้ยากยิ่ง ทว่าเฉินซีกลับบ่มเพาะมันจนถึงระดับดังกล่าวได้ภายในสามเดือน ดันนั้นเลี่ยเผิงจึงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

เลือดไหลออกจากมุมปากของผางโจวและเหลิ่งชิว แต่มันก็หายวับไปในชั่วพริบตา ในขณะที่ความตกใจและความจริงจังก็ฉายบนใบหน้าของพวกเขา จากนั้นแววตาของคนทั้งคู่ก็กลับมาเฉยเมย และพวกเขาพากันทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าเพื่อโจมตีเฉินซีอีกครั้ง

ปัง!

เสียงของเต๋าดังกึกก้องออกไป ทันใดนั้น เงาร่างของจักรพรรดิสวมมงกุฎได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของเหลิ่งชิว มันมีกลิ่นอายศักดิ์ศรีอันสูงส่งราวกับผู้เกิดใหม่ และสามารถดูถูกดูแคลนทุกสรรพสิ่งในโลกา

ส่วนอีกด้านหนึ่ง ร่างกายของผางโจวกลับดูจะลุกเป็นไฟ จากนั้นเปลวไฟที่สว่างไสวก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า กลิ่นอายที่ผ่าเผยของเขามาถึงจุดสูงสุด อีกทั้งยังเกรี้ยวกราดและดุร้าย

จนกระทั่งถึงตอนนี้ ทั้งคู่ต่างตระหนักได้ว่าพวกเขาไม่อาจปกปิดพลังได้อีกต่อไปและมีเพียงทุ่มพลังออกไปทั้งหมดเท่านั้น จึงจะสามารถบดขยี้ศัตรูที่แข็งแกร่ง ซึ่งอยู่ตรงหน้าของพวกเขาได้!

ในเวลาเดียวกัน เฉินซีก็ทุ่มพลังออกไปอย่างเต็มที่เช่นกัน ร่างของเขาสว่างวาบและปกคลุมด้วยวงแหวนแสงศักดิ์สิทธิ์ อักขระยันต์กระบี่มากมายที่โบราณเก่าแก่และดุร้ายพากันปรากฏขึ้นรอบตัว ทำให้กลิ่นอายผ่าเผยของชายหนุ่มเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

แม้แต่ท้องฟ้าที่อยู่เหนือเขาก็ยังสลัวลงเล็กน้อย และดูเหมือนว่าเขากำลังสะสมพลังด้วยความตั้งใจที่จะฟันออกไปด้วยเคล็ดกระบี่ที่สั่นสะท้านโลก เคล็ดกระบี่ที่ทำลายล้างทั้งอดีต อนาคตและฝังโลกทั้งใบ!

หากกล่าวว่าเฉินซีนั้นยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งเหมือนราชาผู้ปกครองโลก เพียงแค่แกว่งมือก็ทำให้เลือดหลั่งไหลเป็นลำธาร

เขาในเวลานี้เป็นเหมือนราชาเต๋ากระบี่ที่อยู่ยงคงกระพันและดุร้ายอย่างไม่มีใครเทียบได้ อีกทั้งยังเผยให้เห็นแก่นแท้ของมหาเต๋าแห่งกระบี่อย่างชัดเจน

“นี่มัน…” ทุกคนต่างหน้าซีดด้วยความประหลาดใจ เนื่องจากพวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า กลิ่นอายอันผ่าเผยของชายหนุ่มจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แม้ว่ามันจะแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง แต่ความรู้สึกฆ่าฟันและความรู้สึกดุร้ายที่เล็ดลอดออกมายังคงทำให้ผู้คนตื่นตกใจกลัว

“ฆ่า!”

เมื่อสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในกลิ่นอายของเฉินซี เหลิ่งชิวกับผางโจวก็หรี่ตาลง ก่อนที่พวกเขาจะตะโกนออกมาอย่างดุดัน และเปิดฉากโจมตีด้วยพลังทำลายล้างอย่างมั่นใจ ทำให้เกิดพายุพัดโหมออกไป ในขณะที่คลื่นเปลวเพลิงก็พุ่งสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า และมันก็น่ากลัวยิ่ง!

ในเวลาเดียวกัน มือของเฉินซีก็สะบัดไปมาซ้ำ ๆ ทำให้เกิดปราณกระบี่ดุร้ายจำนวนมากที่มีความยาวสิบสองจั้ง ซึ่งไขว้ตัดกันเป็นรูปกากบาทไปทั่วท้องฟ้า ด้วยความตั้งใจที่จะทำลายล้างทุกสิ่งและฝังทุกสิ่งในโลกนี้ไว้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]