บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 610

บทที่ 610 ล้อมรอบด้วยวงแหวนเทวะ

บทที่ 610 ล้อมรอบด้วยวงแหวนเทวะ

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

บนสนามประลอง เฉินซีก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับสร้างคลื่นสะเทือนแผ่ออกไป ซึ่งมันไม่เพียงแต่จะปัดการโจมตีของอีกฝ่าย ทว่ายังผลักดันศิษย์แห่งยอดเขาจรัสตะวันออกจำนวนหลายสิบจนกระเด็นออกไปอีกด้วย

พวกเขาตกลงจากสนามประลองโดยตรง!

ศิษย์ทั้งหลายกระอักเลือดออกมาไม่หยุดเมื่อตกลงสู่พื้น สายตาที่จ้องมองเฉินซีเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แทบไม่อยากเชื่อว่าจะไม่สามารถต้านทานการโจมตีของเฉินซีได้แม้แต่ครั้งเดียว

อิทธิฤทธิ์จากย่างก้าวในครั้งนี้ช่างน่าตกตะลึงยิ่งนัก การต่อสู้เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น และไม่เพียงแต่ไม่อาจปิดล้อมเฉินซีได้ เขายังทำลายทุกอย่างด้วยเพียงก้าวเท้าเดียว ทำให้บรรดาผู้คนต่างตะลึงงันเมื่อพบเห็น

ครืน! ครืน! ครืน!

เฉินซีก้าวออกไปในท้องนภา และทุกฝีเท้าที่เขาก้าวก็ได้สร้างเสียงกึกก้องดั่งกลองสงครามที่เทพอสูรทุบตี ทำให้ทุกคนตัวสั่นเทาจนวิญญาณของพวกเขาใกล้จะแตกเป็นเสี่ยง

ยิ่งกว่านั้น สิ่งที่ตามเสียงฝีเท้าที่ก้าวลงมาคือกลิ่นอายน่าเกรงขามซึ่งกำลังเพิ่มทวีคูณ เมื่อเขาก้าวไปครั้งที่ห้า จู่ ๆ อักขระยันต์ก็ปรากฏขึ้นรอบกาย พวกมันประทับไปทั่วสวรรค์และปฐพี ทั้งยังสะท้อนไปกับกลิ่นอายของเขาที่แผ่ออก!

หากตั้งใจสังเกต อักขระยันต์เหล่านี้ต่างเผยให้เห็นรูปร่างความล้ำลึก ซึ่งควบแน่นเป็นรูปยันต์อักขระของมหาเต๋า

ตัวอย่างเช่น มหาเต๋าอัคคีที่แฝงด้วยแสงเปลวเพลิงซึ่งได้เปลี่ยนเป็นอักขระยันต์แห่งความเกรี้ยวกราดที่แผ่ความล้ำลึกของมหาเต๋าอัคคีจำนวนมหาศาล

อีกตัวอย่างคือ มหาเต๋าแห่งกระบี่ที่เปลี่ยนเป็นอักขระยันต์รูปทรงกระบี่ ซึ่งแผ่กลิ่นอายอันดุเดือดเลือดพล่านออกมา

นอกจากนี้ยังมีความล้ำลึกของมหาเต๋าหลากหลายอย่างเช่นหยิน หยาง อัสนี วายุ ดารา การกลืนกิน การทำลายล้าง และอีกมากมายที่ถูกสั่งการภายใต้มหาเต๋าแห่งยันต์อักขระ ซึ่งเป็นดั่งดวงตะวันที่เจิดจรัสนับพันดวง ซึ่งโคจรรอบกายของเขา

เมื่อมองจากไกล ๆ ดูเหมือนสนามประลองแห่งนี้ได้อาบไปด้วยประกายแสงของเฉินซี!

นี่คือพลังที่ก่อตัวขึ้นจากการที่เขาสั่งการเต๋ารู้แจ้งต่าง ๆ โดยอาศัยเต๋าแห่งยันต์อักขระหลังจากบรรลุสู่ขอบเขตสถิตกายา! มีเพียงความสามารถในการควบคุมเต๋ารู้แจ้งนี้เท่านั้นที่สามารถดึงพละกำลังทั้งหมดของเขาออกมาได้

แม้ว่าทั้งหมดนี้จะเป็นเพียงแค่รูปร่าง แต่กลิ่นอายและปรากฏการณ์อันน่าสะพรึงกลัวของมันยังคงทำให้ผู้คนหวาดผวาจนม่านตาของพวกเขาหดตัว ต่างประหลาดใจสุดขีด!

“เด็กคนนี้ไม่ใช่ย่อยเลย! เขามาถึงจุดที่สามารถสั่งการเต๋ารู้แจ้งของตนได้! ซ้ำยังใช้เต๋าแห่งยันต์อักขระเป็นเต๋าชี้นำ พรสวรรค์เยี่ยงนี้ช่างพิเศษยิ่งนัก!” ในระยะไกล ดวงตาของผู้อาวุโสเลี่ยเผิงผู้สูงส่งและทรงพลังก็ปะทุขึ้นพร้อมกับอัสนีพร่างพราว จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความยกย่องอย่างไร้ที่สิ้นสุด

ใครก็ตามที่ได้รับการบ่มเพาะเช่นเขา คนผู้นั้นย่อมเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าพลังการสั่งการเต๋ารู้แจ้งนั้นเป็นตัวบ่งชี้ศักยภาพของผู้บ่มเพาะขอบเขตสถิตกายา และยังใช้ตัดสินความแข็งแกร่งของผู้บ่มเพาะอีกด้วย

แม้ว่าเฉินซีจะเพิ่งบรรลุสู่ขอบเขตสถิตกายา แต่ด้วยความสามารถในการควบคุมเต๋ารู้แจ้งของเขาผนวกกับความช่วยเหลือจากศาสตร์เต๋าอันน่าเกรงขาม จึงสามารถกำจัดบรรดาผู้เยี่ยมยุทธ์ที่อยู่ในขอบเขตเดียวกันได้อย่างง่ายดาย!

มันถึงขนาดที่ว่าหากต้องสู้กับผู้บ่มเพาะที่มีขอบเขตเหนือกว่าก็ยังมีโอกาสชนะได้!

ในขณะเดียวกัน ใบหน้าของเยว่ฉือกลับหม่นหมองลง เขาเข้าใจแล้วว่าพลังที่เฉินซีเผยออกมาในตอนนี้นั้นน่าตกตะลึงเพียงใด และมันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจ

ครืน! ครืน! ครืน!

บนสนามประลอง ก้าวของเฉินซีเป็นเหมือนฟ้าร้องที่ทำให้เกิดเสียงกระหึ่มดั่งคลื่นซัด มันกระจายออกไปทำให้พื้นที่โดยรอบถูกบดขยี้ไม่เหลือชิ้นดี ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นคลื่นโหมกระหน่ำ

ภายในเวลาเพียงชั่วพริบตา ศิษย์แห่งยอดเขาจรัสตะวันออกอีกสิบกว่าคนไม่ทันได้ตั้งตัวและถูกระเบิดปลิวออกไปจากสนามประลอง พวกเขากระอักเลือดไม่หยุด อีกทั้งจิตวิญญาณของพวกเขายังได้รับบาดเจ็บ ทำให้ต้องนอนนิ่งกับพื้นด้วยท่าทางที่น่าสังเวชอย่างยิ่ง

แม้ว่าจะเป็นเหลิ่งชิวกับผางโจวก็ตาม สีหน้าของพวกเขาก็ยังเคร่งเครียดเมื่อเห็นฉากนี้ พลังฝีเท้านี้น่ากลัวเกินคาด เห็นได้ชัดว่าเป็นเคล็ดวิชาที่น่ายำเกรงและทรงพลัง ดูเหมือนว่าทุกย่างก้าวของอีกฝ่ายจะสามารถทลายท้องนภา บดขยี้ห้วงมิติ และทำลายทุกสิ่งบนโลกได้

ทั้งสองคนไม่อาจยับยั้งชั่งใจได้อีกต่อไปจึงเริ่มโจมตีแบบซึ่ง ๆ หน้า

“เคล็ดจักรพรรดิวิญญาณวายุ!” เหลิ่งชิวชกหมัดออกไป ทำให้เกิดพายุไร้ลักษณ์ที่โหมกระหน่ำก่อนจะกลายร่างเป็นวิญญาณจักรพรรดิสวมมงกุฎซึ่งพุ่งขึ้นไปสู่ท้องนภา ฉีกทะลุห้วงมิติพลางจู่โจมไปยังเฉินซี!

หมัดนี้เย็นเยียบ ร้ายกาจ และแผ่ซ่านไปทั่วทั้งพื้นที่ มันส่งเสียงคำรามราวกับพายุหิมะเย็นยะเยือกที่สั่นสะเทือนสวรรค์และปฐพี กระทั่งปกคลุมไปทั่วพื้นที่ แม้แต่คนที่อยู่โดยรอบก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวสั่นพร้อมกับหวาดกลัว

“สะบั้นเปลวเพลิงสวรรค์!” ส่วนอีกด้านหนึ่ง ร่างของผางโจวฉายแสงสาดส่องบนท้องนภา พลางเปลี่ยนมือคล้ายดั่งกระบี่แหลมคมและฟันลงมา ส่งลำแสงเพลิงให้ปรากฏขึ้นในพื้นที่และแยกมิติออกจากกัน กระแสลมในอากาศถูกผลาญขณะที่มันลุกโชน เผยอำนาจอันน่าตกตะลึง

ทั้งสองคนใช้ศาสตร์เต๋าที่พวกเขาชำนาญมากที่สุดในขณะโจมตีใส่เฉินซีพร้อมกัน เพียงแค่แรงกระตุ้นจากการโจมตีของทั้งสอง ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกขนพองสยองเกล้าราวกับตกลงไปในบ่อน้ำแข็ง

ในเวลาเดียวกัน ชายหนุ่มก็ก้าวออกไปสองก้าว ซึ่งเป็นก้าวที่หกและเจ็ด ทำให้เสียงกัมปนาทพลันระเบิดออกมา มันฟังราวกับเสียงร้องของทหารนับไม่ถ้วนในสมรภูมิ และเสียงเข่นฆ่าที่มาจากห้วงนรก ทำให้ผู้คนสั่นเทาจนจิตใจเต็มไปด้วยความหวาดผวา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]