บทที่ 646 แขวนอยู่บนเส้นด้าย
บทที่ 646 แขวนอยู่บนเส้นด้าย
ทะเลเมฆไม่เพียงกว้างใหญ่ไพศาล ทว่ายังไร้ก้นบึ้งอีกด้วย
เวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป กลุ่มของเฉินซีได้บินออกไปไกลประมาณพันลี้ ทว่าก็ยังไม่ถึงจุดหมายเสียที
หากเป็นที่อื่น ระยะทางหนึ่งพันลี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจก็ถึงแล้ว ทว่าเส้นทางสู่เหวเงาทมิฬนั้นลี้ลับและเต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่อาจหยั่งถึง ซ้ำยังมีจิตสังหารซ่อนอยู่ทั่วเมฆหมอก พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากชะลอตัวและเดินทางอย่างระมัดระวัง
มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพบร่องรอยของผู้บ่มเพาะคนอื่นในพื้นที่โดยรอบ อย่างไรแล้ว ที่นี่ก็คือทะเลเมฆซึ่งผู้คนไม่ได้เลือกใช้เป็นเส้นทาง ฉะนั้นจึงมีแต่ห่างไกลผู้คนยิ่งขึ้นทุกครั้งที่เคลื่อนไหว
“หืม?” หลงเจิ้นเป่ยผู้กำลังนำกลุ่มหยุดชะงักพลางพึมพำด้วยความประหลาดใจ
มีดวงดาวขนาดมหึมามากมายโคจรอยู่รอบเส้นทางตรงหน้า ทิ้งไว้เพียงรอยแตกเล็ก ๆ ซึ่งผ่านไปได้แค่เพียงหนึ่งคน ซ้ำยังเป็นช่องทางที่อันตรายมาก เพราะมีดวงดาวโคจรผ่านมาอยู่เสมอ และดาวทุกดวงต่างเคลื่อนตัวไปตามกระแสลมที่เสียดสีกัน ทำให้เกิดคลื่นยักษ์ส่งเสียงดังราวกับฟ้าร้อง
หากต้องการผ่านทางแคบนี้ก็ต้องระมัดระวังอย่างมาก มิฉะนั้นจะถูกลมโหมกระหน่ำ และถูกบดขยี้จนกลายเป็นผุยผง
นอกจากนี้ สองข้างทางยังเต็มไปด้วยธารน้ำที่เย็นยะเยือกและพายุอัคคีที่เดือดพล่าน เส้นทางอื่นจึงแทบเป็นไปไม่ได้เลย
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หากต้องการไปถึงเหวเงาทมิฬ พวกเขาต้องยอมเสี่ยงระดับหนึ่งในการผ่านช่องแคบนี้
“มีความตายซ่อนอยู่ทุกหนทุกแห่ง ซ้ำยังเป็นแค่ทางเข้าเท่านั้น ข้าเริ่มสงสัยแล้วว่าภายในเหวเงาทมิฬจะอันตรายเพียงใด” อันเวยอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเมื่อมองดูช่องแคบที่อยู่ตรงหน้า
เฉินซีเองก็ถอนหายใจเช่นกัน ก่อนหน้านี้ เขาใช้เนตรเทวะแห่งความจริงตรวจสอบหมู่เมฆ จึงทราบว่ามีสิ่งกีดขวางที่อันตรายปรากฏอยู่ที่นี่
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ชายหนุ่มรู้สึกว่าเส้นทางที่หลงเจิ้นเป่ยเลือกนั้นไม่ใช่เส้นทางที่ดีที่สุด
ทว่ามันก็ช่วยไม่ได้ เพราะพวกเขามาถึงที่นี่แล้ว และแม้ช่องแคบจะเต็มไปด้วยอันตราย มันก็ยังไม่อันตรายถึงแก่ชีวิต หากระมัดระวังมากพอก็สามารถผ่านไปได้
ร่องรอยของความอับอายเผยให้เห็นบนหน้าของหลงเจิ้นเป่ยเมื่อเขาได้ยินเสียงถอนหายใจของอันเวย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้าเคร่งขรึมพลางกล่าว “ไม่ต้องห่วง ศิษย์น้องหญิงอันเวย ข้าจะเดินนำเอง พวกเราต้องผ่านที่นี่ไปได้อย่างแน่นอน ข้าจะไม่ปล่อยให้ใครได้รับบาดเจ็บเด็ดขาด”
“ไม่จำเป็นหรอก แค่นี้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับข้า” อันเวยยิ้ม ก่อนจะพุ่งถลาไปยังช่องแคบ
“ระวังตัวด้วย ศิษย์น้องหญิงอันเวย!” เมื่อเห็นดังนั้น ชายหนุ่มจึงรีบตามออกไปและคอยเฝ้าระวังอยู่ข้างหลังนาง
“เขาช่างเหมาะกับการเป็นทหารคุ้มกันเสียจริง…” เฉินซีเกาจมูกพลางยักไหล่ก่อนตามออกไป
ทว่าชายหนุ่มเองก็ระวังตัวเช่นกันเมื่อมาถึงช่องแคบ เขาโคจรและใช้แดนฮุ่นตุ้นเพื่อต้านทานแรงกดดันมหาศาลที่มาจากดวงดาวซึ่งกำลังโคจร
“ฮ่า! แค่ผ่านช่องแคบนี้ไปก็ถึงเหวเงาทมิฬแล้ว ข้าสัมผัสถึงกลิ่นอายของมันได้!” หญิงสาวร้องออกมาด้วยความตกตะลึงหลังจากเข้ามาในช่องแคบและสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
“เอ๊ะ จริงหรือ?” หลงเจิ้นเป่ยรู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน
…ในขณะที่เฉินซีกำลังจะถามบางอย่าง สิ่งที่ไม่ทันคาดคิดไว้ก็พลันเกิดขึ้น!
วิ้ง!
เป็นแสงเจิดจ้าที่ปะทุออกมาจากด้านข้างโดยไม่ให้สุ้มให้เสียงแต่อย่างใด!
ในชั่วอึดใจ แสงสีขาวที่ว่าก็บดบังการมองเห็นของเขาจนหมด ไม่อาจมองเห็นอะไรได้ เช่นเดียวกับความรู้สึกถึงอันตรายที่เกาะกุมจิตใจ จนต้องเร่งขยับกายถีบหลงเจิ้นเป่ยไปข้างหน้าด้วยสัญชาตญาณ ก่อนที่เฉินซีจะหลบฉากไปด้านข้าง!
ชายหนุ่มทราบดีว่าหากทิ้งหลงเจิ้นเป่ยไว้ อีกฝ่ายคงจะได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นแน่ และยิ่งอีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว นั่นก็อาจทำให้ศิษย์พี่ร่วมนิกายของเขาคนนี้ถูกดวงดาวพัดพาและบดขยี้โดยสิ้นเชิง!
เป็นการซุ่มโจมตี!
มีบางคนซุ่มโจมตี!
บัดซบ! ช่างเป็นการซุ่มโจมตีที่แม่นยำยิ่งนัก เลือกเวลาได้เหมาะเจาะ! เป็นตอนที่ข้ากำลังจะเดินลอดผ่านช่องแคบระหว่างดวงดาวพอดี ทำให้หลบหลีกได้ยาก!
ที่สำคัญกว่านั้น เขาไม่เห็นคนที่ซุ่มโจมตีอยู่ด้วยซ้ำ!
ความตะลึงงันในใจของเฉินซีนั้นเกินคำบรรยาย เป็นครั้งแรกที่ผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้อย่างเขาพบเจอการซุ่มโจมตีที่แปลกประหลาดและแม่นยำเยี่ยงนี้!
ชายหนุ่มเปิดใช้เนตรเทวะแห่งความจริงด้วยพลังทั้งหมดโดยไม่รีรอ สายตากวาดมองไปทั่ว แม้กระทั่งกาลเวลาก็คล้ายช้าลง
นี่คือหนึ่งในพลังของเนตรเทวะแห่งความจริงที่สามารถทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างช้าลงเพื่อเป็นการซื้อเวลาให้เขา
ในเวลาเดียวกัน ทักษะปีกกำราบผกผันสีเทาหมองที่อยู่ข้างหลังก็กางออกมา เฉินซีบินหลบไปข้างหลังด้วยความเร็วสูง!
ทว่าจิตสังหารก็ยังคงตามรังควานชายหนุ่มไม่หยุดแม้ว่าจะพยายามหนี!
ในที่สุด เฉินซีก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยหมู่เมฆที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร หากปลีกทางออกจากเขตปลอดภัย โอกาสรอดชีวิตก็แทบจะไม่เหลือ เพราะถ้าไม่ล้มตายก็คงหลงอยู่ในหมอกเมฆเหล่านี้!
ชายหนุ่มอาศัยความเร็วของทักษะปีกกำราบผกผันและพลังในการปัดป้องธาตุทั้งห้าของมันเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดวงดาวบดขยี้และการถูกคลื่นน้ำแข็งซัดใส่
ในทางกลับกัน จิตสังหารที่กำลังไล่ตามมานั้นดูจะปลอดภัยจากอันตรายโดยรอบอย่างสิ้นเชิง และกำลังไล่ตามเขาไม่หยุด ซึ่งความแข็งแกร่งเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะหาเทียบได้!
เป็นผู้เยี่ยมยุทธ์!
สุดยอดมือสังหาร!
เจตจำนงอันเย็นยะเยือกซึมเข้ากระดูก กดลงไปที่ใจกลางหัวใจของเฉินซี เขาสัมผัสได้ถึงความกดดันจนชาไปทั้งตัว ทักษะปีกกำราบผกผันกระพืออย่างบ้าคลั่ง ทำให้เกิดเสียงลมหวีดหวิวจนแสบแก้วหู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...