บทที่ 647 กรงเล็บขนาดมหึมา
บทที่ 647 กรงเล็บขนาดมหึมา
“บัดซบ! เจ้ากล้าถีบข้า! เฉินซี เจ้าตายแน่! ตั้งแต่ข้ายังเด็กไม่มีใครถีบข้าเลยสักคน!” หลงเจิ้นเป่ยตะคอกด้วยโทสะ ในขณะที่เขาพุ่งผ่านรอยแตกอย่างรวดเร็วราวกับว่าวที่สายป่านขาด อย่างไรก็ตาม เมื่อหันกลับไปมองข้างหลังโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาก็ได้เห็นเงาดำที่ถือกระบี่ที่ส่องประกายสลัวและเย็นเฉียบอยู่ตรงหน้าตนเอง!
และที่น่าตกใจกว่านั้น เป้าหมายของเงาดำ… คือเฉินซีที่ล่าถอยไปอีกด้านหนึ่งนั่นเอง!
“หืม? มือสังหาร? หรือว่าลอบจู่โจม? เช่นนั้น… เฉินซีก็ช่วยข้าไว้?” เมื่อหลงเจิ้นเป่ยตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เขาก็ยืนอยู่อีกด้านของรอยแตกแล้ว
และหลังจากที่เจ้าตัวตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด สีหน้าของหลงเจิ้นเป่ยก็มืดหม่นลงทันที ในขณะที่คิ้วก็ขมวดเข้าหากันแน่น เพราะเขารู้สึกละอายใจและกังวลต่อเฉินซี ทำให้เจ้าตัวได้แต่จ้องมองอย่างว่างเปล่าโดยไม่รู้ว่าจะกล่าวเช่นไรดี
“อันใดนะ! มีคนลอบโจมตีเฉินซีหรือ?” อันเวยที่รออยู่อีกด้านหนึ่งของรอยแยกเมื่อนานมาแล้วอุทานด้วยความตกใจ และรูปลักษณ์ที่งดงามของนาง ก็เผยให้เห็นท่าทางที่โกรธเกรี้ยวอย่างชัดเจน
“มีคนลอบโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัวจริง ๆ และผู้ลอบโจมตีก็มีฝีมือที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก” สีหน้าของหลงเจิ้นเป่ยกลายเป็นจริงจัง จากนั้นก็เล่าสิ่งที่เห็นก่อนหน้าให้หญิงสาวฟังอย่างละเอียด
“บัดซบ! ใครกันที่บังอาจลงมือกับคนจากนิกายกระบี่เก้าเรืองรองของเรา!?” แม้ว่าอันเวยจะมีนิสัยเฉยชา แต่ความโกรธที่ไร้ขอบเขตในขณะนี้ก็ปลุกเร้านางอย่างช่วยไม่ได้ คิ้วที่งดงามของหญิงสาวขมวดเข้าหากันแน่น ในขณะที่ตัวนางก็เดือดดาลเต็มที่
“เฉินซีช่วยชีวิตข้าไว้ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา ข้าจะแก้แค้นให้เขา และไม่ว่ามันจะเป็นใครก็ตาม ข้าจะกวาดล้างครอบครัวของพวกมันให้หมด!” หลงเจิ้นเป่ยกัดฟันแน่น ทำให้เสียงของเขาดูเหมือนลอดออกมาจากไรฟัน ทั้งเย็นยะเยือก เสียดกระดูก และเต็มไปด้วยจิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัว!
เนื่องจากเขาตระหนักได้เป็นอย่างดีว่า หากเฉินซีถีบเขาออกมาช้ากว่านี้ ตัวเขาจะต้องประสบภัยพิบัติอย่างแน่นอน!
ส่วนเหตุผลนั้นก็ง่ายดายมาก แม้ว่าเป้าหมายของการโจมตีจะไม่ใช่เขา แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเช่นนี้ก็ทำให้เขาตั้งตัวไม่ทัน และระหว่างรอยแยกนั้น มันก็มีความเป็นไปได้สูงที่หลงเจิ้นเป่ยจะถูกแรงดันที่ปล่อยออกมาจากการโคจรของดวงดาวรอบ ๆ บดขยี้จนตาย!
“ตอนนี้เราทำได้เพียงแค่นี้” หลังจากสงบสติอารมณ์ได้ อันเวยก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ และรู้สึกกังวลต่อชะตากรรมของเฉินซี เพราะนางไม่เคยคิดมาก่อนว่าอีกฝ่ายจะประสบเหตุร้ายก่อนที่พวกนางจะเข้าสู่เหวเงาทมิฬด้วยซ้ำ ซึ่งนี่นับเป็นผลกระทบครั้งใหญ่ต่อกลุ่มของนาง
“ไปกันเถอะ ศิษย์น้องเฉินซีมีโชคมากมายนัก เขาคงไม่ถึงฆาตเร็ว ๆ นี้หรอก พวกเราควรมุ่งหน้าไปยังเหวเงาทมิฬก่อน และตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ เราก็น่าจะมีโอกาสได้พบกับเขาอีกครั้ง” หลงเจิ้นเป่ยตบบ่าของหญิงสาวเพื่อแสดงความปลอบใจ และนับจากนี้เป็นต้นไป เฉินซีก็ไม่ใช่คนที่ไม่สำคัญในหัวใจของเขาอีกต่อไป แต่เป็นสหายผู้คู่ควรแก่การที่ชายหนุ่มจะฝากชีวิตได้!
หากอีกฝ่ายต้องประสบกับคราวเคราะห์จนถึงแก่ชีวิต เขาจะทำลายล้างทุกคนที่ทำร้ายเฉินซีโดยไม่เว้นแม้แต่คนเดียว!
ซึ่งนี่เป็นดั่งคำปฏิญาณรูปแบบหนึ่ง และแม้ว่าเขาจะไม่ได้กล่าวออกมาดัง ๆ แต่มันก็ประทับอยู่ในใจของเขาแล้ว
…
“เจ้าล้มเหลวหรือ?” ฉิวจวินจากนิกายอสูรวสันต์ยมโลกเว้นช่วงเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวด้วยความประหลาดใจต่อว่า “นั่นเกิดขึ้นได้ยากนัก หากข่าวนี้แพร่ออกไป เฉินซีอาจโด่งดังเพราะสิ่งนี้ก็เป็นได้”
เขามีรูปลักษณ์ที่ผอมแห้ง ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นคนธรรมดาเท่านั้น ทว่าคนคนนี้กลับให้กลิ่นอายดั่งขุนเขาที่ไม่อาจเคลื่อนย้าย มันมั่นคง โดดเดี่ยว และสูงตระหง่าน นอกจากนี้ ปราณอสูรบริสุทธิ์ก็แผ่กำจายอยู่รอบตัวเขา ทำให้ตัวคนมีกลิ่นอายที่ลึกลับยิ่งขึ้น
มือสังหารสวมหน้ากากยืนนิ่งเงียบอยู่ตรงหน้าเขาเหมือนเงา หน้ากากที่มีสีดำสนิทของมือสังหารและดวงตาสีม่วงที่ชั่วร้ายคู่นั้น ทำให้ผู้พบเห็นต้องรู้สึกหวาดกลัวอยู่ในใจ
ฉิวจวินรู้จักมือสังหารคนนี้เป็นอย่างดี และแม้ไม่มีใครรู้ชื่อจริงของคนผู้นี้ แต่เขาก็มีฉายาที่เลื่องลือ …รัตติกาล
รัตติกาล …ตัวแทนของความลึกลับ ความไม่แน่นอน และเข้าใจยาก เช่นเดียวกับเอกลักษณ์ในฐานะมือสังหารของคนผู้นี้ ที่มาและไปอย่างไร้ร่องรอยในขณะที่เดินอยู่ในความมืด เขาสังหารเป้าหมายทุกรายด้วยการโจมตีเพียงคราเดียวและไม่เคยล้มเหลว!
ในบรรดาผู้บ่มเพาะขอบเขตสถิตกายาในแดนภวังค์ทมิฬทั้งหมด เคล็ดวิชาลอบสังหารของรัตติกาลสามารถติดอันดับหนึ่งในสิบ และเขาถือเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ที่มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วโลก!
อย่างไรก็ตาม แม้รัตติกาลจะเดินอยู่ท่ามกลางความมืด แต่เขากลับไม่กระหายเลือดและโหดเหี้ยม นอกจากเป้าหมายแล้ว เขาก็ไม่เคยทำร้ายผู้ใด แม้จะมีคนตราหน้าและก่นด่าสาปแช่ง แต่นั่นก็ไม่อาจดึงจิตสังหารของมือสังหารผู้นี้ออกมาได้เลยแม้แต่น้อย
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เมื่อรัตติกาลไม่ได้ทำภารกิจลอบสังหาร เขาก็เป็นคนธรรมดาที่ไม่มีพิษไม่มีภัย และไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใครเป็นอันขาด
แต่ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้คนเช่นนี้น่ากลัวเป็นที่สุด
ทว่าเมื่อรัตติกาลตัดสินใจที่จะลอบสังหารเฉินซี แม้แต่ฉิวจวินก็ยังตกใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาไม่ได้สั่งให้อีกฝ่ายทำเช่นนี้อย่างแน่นอน
ยิ่งกว่านั้น สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับเขาก็คือ การลอบสังหารของรัตติกาลประสบกับความล้มเหลว!
เมื่อได้ทราบข่าว ปฏิกิริยาแรกของฉิวจวินคือมันเป็นไปไม่ได้! แม้ว่าตอนนี้เขาจะได้เห็นอีกฝ่ายด้วยสองตาของตนเอง แต่ฉิวจวินก็ยังไม่อยากจะเชื่อ
มดปลวกตัวจ้อยจากราชวงศ์ระดับกลางของโลกใบเล็ก ศิษย์ชั้นยอดที่เพิ่งเข้าร่วมนิกายกระบี่เก้าเรืองรองได้ไม่ถึงครึ่งปี แต่กลับทำให้รัตติกาลซึ่งเป็นมือสังหารชั้นนำที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในโลกมาเนิ่นนาน ต้องประสบกับความล้มเหลวอย่างนั้นหรือ?
และปฏิกิริยาของรัตติกาลก็พิสูจน์ให้เห็นว่าข่าวนี้เป็นความจริง!
ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะเม้มปากแล้วถามว่า “เหตุใดเจ้าถึงตัดสินใจลอบสังหารเฉินซีก่อนหน้านี้? หรือว่าเจ้าสังเกตเห็นถึงอะไรบางอย่าง?”
“สัญชาตญาณ” รัตติกาลให้ความสำคัญกับวาจาของตนเองราวกับทองคำ และเจ้าตัวก็กล่าวเพียงคำเดียวเท่านั้น
“สัญชาตญาณ?” ฉิวจวินรู้สึกประหลาดใจ เพราะเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าอีกฝ่ายจะให้คำตอบเช่นนี้ และมันก็เหนือความคาดหมายของเขาอย่างสิ้นเชิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...