บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 678

บทที่ 678 ค่ายกลแสงทมิฬแปดขั้ว

บทที่ 678 ค่ายกลแสงทมิฬแปดขั้ว

พลังลึกลับและแปลกประหลาดได้เปิดพื้นที่บนท้องฟ้าที่ด้านข้างของแท่นบูชา ซึ่งเสวียนเฉินกับเสวียนขุย ผู้เยี่ยมยุทธ์จากต่างพิภพกำลังยืนอยู่ในพื้นที่นี้ในเวลานี้

“เตรียมการทุกอย่างพร้อมแล้วหรือยัง?” ดวงตาของเสวียนเฉินหม่นแสง เย็นชาและอำมหิตขณะที่มองเจดีย์ทองสัมฤทธิ์ที่อยู่บนแท่นบูชาที่อยู่ไกลออกไป และความรู้สึกตื่นเต้นที่อธิบายไม่ได้ก็เกิดขึ้นในใจของเขา เมื่อหวนคิดถึงถ้อยคำที่นายท่านได้สั่งเขาไว้

“รอสักประเดี๋ยว มันถึงขั้นตอนสุดท้ายแล้ว” เสวียนขุยที่ยืนอยู่ด้านข้างถือมีดที่โค้งงอดุจอสรพิษร้าย จากนั้นนางก็กรีดที่นิ้วของตนเองเบา ๆ ทำให้เลือดสีน้ำเงินเข้มไหลออกมา และค่อย ๆ ซึมเข้าไปในหนังสัตว์ที่อยู่บนพื้น

หนังสัตว์นั้นมีสีดำสนิท เป็นมันเงาเหมือนน้ำ และมีลวดลายแปลกประหลาดมากมายที่ดูเหมือนกับอสูรแต่ก็ไม่ใช่อสูร ดูเหมือนปีศาจแต่ก็ไม่ใช่ปีศาจ และมันเหมือนกับปากของเด็กทารกผู้ดุร้ายที่กำลังดูดเลือดสีน้ำเงินเข้ม ที่ไหลออกมาจากนิ้วของเสวียนขุยไม่หยุด

เมื่อเห็นสิ่งนี้ เสวียนเฉินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล เนื่องจากหนังสัตว์นี้เป็นสิ่งที่นายท่านได้มอบให้กับเขา และว่ากันว่ามันถูกถลกออกมาจากสัตว์อสูรที่น่าเกรงขามที่ชื่อว่า ‘สัตว์อสูรพิฆาตวิญญาณ’ ซึ่งอยู่ภายในห้วงจักรวาล

สัตว์อสูรพิฆาตวิญญาณนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก แม้แต่ตัวที่อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกมัน ก็เทียบได้กับผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพี พวกมันจะรวมตัวกันเป็นฝูงและท่องไปในจักรวาล คอยกลืนกินดวงดาวและอุกกาบาต อีกทั้งยังชอบทรมานและคร่าวิญญาณของสิ่งมีชีวิตมากที่สุด พวกมันโหดร้าย ฉุนเฉียวง่าย และแข็งแกร่งอย่างยิ่ง

แก่นแท้ของสิ่งมีชีวิตที่โหดร้ายนี้ล้วนอยู่ในผิวหนังของมัน โดยในนั้นมีตราลึกลับอยู่มากมาย ทำให้มันกลายเป็นวัตถุชั้นยอดในการสร้างค่ายกล

ซึ่งในขณะนี้ เสวียนขุยกำลังสร้างค่ายกลที่ชื่อว่า ‘ค่ายกลแสงทมิฬแปดขั้ว’ เมื่อสร้างมันสำเร็จแล้ว มันจะสามารถกวาดล้างศัตรูได้ และมันก็ยังสามารถทำลายค่ายกลที่น่าสะพรึงกลัวทุกประเภทได้เช่นกัน

และเป้าหมายของพวกเขาในครั้งนี้ก็คือ เจดีย์ทองสัมฤทธิ์ที่อยู่บนแท่นบูชา หากพวกเขาต้องการจะได้มันมา ก็มีแต่จะต้องทำลายค่ายกลที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งปกคลุมพื้นที่โดยรอบอย่างหนาแน่นเสียก่อน

โอม!

หลังจากผ่านไปราวหนึ่งถ้วยน้ำชา เนื่องจากสูญเสียแก่นโลหิตมากเกินไป ทำให้ใบหน้างดงามของเสวียนขุยพลันซีดเซียวลง แต่สิ่งที่ได้กลับคืนมาก็ยอดเยี่ยมมากเช่นกัน เพราะในขณะนี้ พลังลึกลับได้ถาโถมออกมาจากหนังสัตว์ร้ายระลอกแล้วระลอกเล่า มันให้ความรู้สึกที่ทั้งน่าสยดสยอง เยือกเย็น และทำให้วิญญาณไม่อาจหยุดสั่นไหวได้

“เสร็จแล้ว ตอนนี้เพียงแค่สังเวยเลือดของชาวพื้นเมืองจากทั้งสามภพ ก็จะสามารถกระตุ้นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของค่ายกลแสงทมิฬแปดขั้วได้ และมันจะทำลายค่ายกลของเจดีย์ทองสัมฤทธิ์นั้นให้สิ้นซาก” เสวียนขุยหายใจเข้าลึก ๆ และรีบกินโอสถเข้าไป ทำให้ใบหน้าที่ซีดเซียวของนางได้รับการฟื้นฟูเป็นอย่างมากและกลายเป็นสีดอกกุหลาบเช่นเดิม

“ฮ่า ๆ เมื่อพูดถึงชาวพื้นเมืองของทั้งสามภพ มันช่างน่าหัวเราะนัก เดิมทีข้าคิดว่าพวกมันคงไม่สามารถมาถึงที่นี่ได้ด้วยพลังที่มีอยู่ของพวกมัน แต่คาดไม่ถึงว่าพวกมันกลับมาถึงที่แห่งนี้ได้จริง ๆ” เสวียนเฉินหัวเราะเบา ๆ จากนั้นรอยยิ้มที่โหดเหี้ยมและกระหายเลือดก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา

“แต่ต่อให้พวกมันมาถึงที่นี่ได้ ก็คงไม่มีประโยชน์อะไร และเป็นได้แค่เครื่องสังเวยสำหรับค่ายกลของเรา ด้วยวิธีนี้ ภารกิจของเราก็จะสำเร็จได้อย่างง่ายดายแน่นอน”

“จริงสิ ดูเหมือนจะมีหนูสกปรกที่เข้าสู่ด่านแห่งความลึกล้ำในเวลาไล่เลี่ยกับพวกเรา” เสวียนขุยยิ้ม จากนั้นนางก็ดูจะนึกอะไรบางอย่างได้ ทำให้นางขมวดคิ้วและกล่าวว่า “แต่ตอนนี้ มันหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว ช่างแปลกยิ่งนัก”

“จะแตกตื่นอะไรกัน? ก็แค่ชาวพื้นเมืองที่มีระดับการบ่มเพาะขอบเขตสถิตกายา แม้ว่ามันจะมาถึงด่านแห่งความลึกล้ำได้ แต่มันก็ไม่มีทางจะหลีกหนีจากข้อจำกัดของเขาวงกต และตอนนี้มันอาจจะหลงอยู่ในนั้นไปแล้วกระมัง” เสวียนเฉินส่ายศีรษะ ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามและไม่แยแส

“เอาล่ะ อย่าได้ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า มาเริ่มกันเถอะ!” เสวียนขุยรู้ว่าตัวเองคิดมากเกินไป เพราะผู้บ่มเพาะขอบเขตสถิตกายานั้นไม่คู่ควรที่จะต้องกล่าวถึง

“ตกลง!” ดวงตาของเสวียนเฉินพลันส่องประกายแสงเยียบเย็น ซึ่งมันทั้งอำมหิตและกระหายเลือด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]