บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 681

บทที่ 681 จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ต่างพิภพ

บทที่ 681 จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ต่างพิภพ

เสวียนขุยยอมสละตนเอง แปลงร่างเป็นแสงมืดพุ่งเข้าสู่เมฆสีเลือด และทำลายเจดีย์ทองสัมฤทธิ์ในคราวเดียว!

ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก ไม่ต้องกล่าวว่าเฉินซีคาดไม่ถึง แม้กระทั่งหม้อใบจิ๋วยังหยุดไว้ไม่ได้

นี่คือตัวตนที่มีอำนาจเทียบเท่ากับเทพสวรรค์ ทั้งสามารถหลอกเต๋าแห่งสวรรค์ในทั้งสามภพ ลอบเร้นเข้ามาในด่านแห่งความลึกล้ำ จึงไม่อาจเปรียบเทียบนางกับผู้บ่มเพาะทั่วไปได้ กระทั่งนับว่านางเป็นยอดฝีมือจากต่างพิภพด้วยซ้ำ

ทว่าตอนนี้นางกลับยอมสละชีวิตของตนเพื่อทำลายเจดีย์ทองสัมฤทธิ์ ความแน่วแน่ไร้ความลังเล มองความตายด้วยความสงบเช่นนี้ทำให้หัวใจของเฉินซีเย็นยะเยือก

เขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าหากพวกผู้เยี่ยมยุทธ์ต่างพิภพทั้งหลายมีจิตใจเหี้ยมโหดเช่นเสวียนขุย เช่นนั้นสิ่งมีชีวิตตลอดทั้งสามภพจะต้องประสบกับภัยเช่นไร?

ตู้ม!

เฉินซียังไม่ทันหายตกใจ เจดีย์ทองสัมฤทธิ์ก็เปลี่ยนเป็นสายฝนกระจายไปรอบทิศทาง ซัดสาดรอบกายจนไม่เหลือพื้นที่

แท่นบูชาโบราณที่อยู่ในระยะใกล้เคียงถูกผลกระทบเข้าไปไม่น้อย สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ที่เติบโตอยู่ภายในนั้นถูกทำลายสิ้น แท่นบูชาได้รับความเสียหายหนัก ใกล้จะล่มสลายเต็มที

ทันใดนั้น แสงสีเลือดก็พุ่งออกมาจากภายในพื้นที่แห่งความโกลาหลนี้ มันได้กลายเป็นร่างกำยำทรงพลัง เสื้อผ้าที่ร่างนั้นสวมทั้งเก่าและขาดวิ่น ในขณะที่ผมสีขาวราวหิมะทิ้งตัวยาวลงมาถึงเอว บ่าทั้งสองดั่งภูผาสูงตระหง่านสองลูกที่ทอดตัวข้ามแผ่นดิน และกระดูกสันหลังเหมือนเสาค้ำฟ้า แม้ว่าเสื้อผ้าจะขาดรุ่งริ่ง แต่ก็ไม่อาจปกปิดความสง่างามสูงส่งของเขาไว้ได้เลย!

ใบหน้าของคนผู้นี้ขาวผ่องและเรียบเนียน แต่ดวงตาดูลึกล้ำ นัยน์ตาดั่งตะวันจันทราเคลื่อนขึ้นลงท่ามกลางฟ้าลั่นประดับดาว คล้ายจะบอกเล่าความลับโบราณแห่งสวรรค์เมื่อหลายปีก่อน

เขาทำให้ผู้อื่นรู้สึกยำเกรงเมื่อเผชิญหน้า ดั่งมดยืนต่อหน้าเทพ ทำให้ผู้ล้วนอยากคุกเข่าลงบูชา ไม่กล้าดูหมิ่นแม้แต่น้อย

นี่มัน…

เฉินซีอ้าปากค้าง เขารู้สึกว่าแม้มองเพียงแวบเดียวจากระยะไกล ก็ทำให้เกิดความรู้สึกสยองขวัญพรั่งพรูเข้ามาในหัวใจได้ จิตวิญญาณยังสั่นสะท้านราวกับกำลังเผชิญหน้ากับนายเหนือหัว จิตใจและร่างกายถูกกดดันไปด้วยกลิ่นอายอันสง่างามที่ไม่อาจอธิบายได้

นี่มันน่ากลัวเกินไปแล้ว!

กระทั่งเทพสวรรค์ยังสั่นกลัวและต้องระมัดระวังเมื่อพบกับตัวตนเช่นนี้!

สิ่งที่เขาตกใจที่สุดคือมือกับขาของชายผมขาวลึกลับผู้นี้ถูกล่ามด้วยโซ่ ยิ่งไปกว่านั้น โซ่ล่ามเหล่านี้ยังมีอักขระยันต์ที่ถักทอเข้าด้วยกันและเต็มไปด้วยปราณโกลาหล พวกมันลึกล้ำเกินหยั่งราวกับกฎแห่งโซ่ที่กล้ากักขังทุกสิ่งได้

“กี่ปีผ่านไปไม่อาจรู้ ในที่สุดข้าก็พ้นจากที่คุมขัง กลับมาพบแสงแห่งตะวันอีกครั้ง! ฮ่า ๆ! หรือว่าสามภพกำลังจะเกิดกลียุคอีกครั้ง เหล่าเทพพวกนั้นคงกำลังยุ่งแต่เรื่องตัวเองกระมัง” ชายลึกลับผมขาวคำรามเสียงหัวเราะแฝงแววยินดีแลขุ่นเคืองออกมา มันเหมือนเสียงฟ้าร้องดังกึกก้อง สะท้อนไปทั่วทุกพื้นที่

เสียงนั้นดังสนั่น ถึงขั้นที่เลือดลมภายในร่างของเฉินซีปั่นป่วน จิตใจสับสน เห็นดาวลอยเต็มไปหมด มันมีอำนาจสูงส่งจนเขาแทบกระอักเลือดออกมา

“ไม่คิดเลยว่าเจดีย์สยบสวรรค์จะสยบจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ต่างพิภพเอาไว้ข้างในได้จริง น่าเสียดายที่แม้วันนี้เจ้าจะหนีรอดมาได้ แต่ก็ไม่อาจหนีความตายพ้น!” หม้อใบจิ๋วพูดขึ้นทันทีด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก มันเต็มไปด้วยจิตสังหารและดูประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็แฝงความเกลียดชังไว้เป็นส่วนใหญ่

ทันทีที่หม้อใบจิ๋วพูดขึ้น เฉินซีก็รู้สึกผ่อนคลายไปทั้งร่าง ความอึดอัดในร่างกายหายไปอย่างไร้ร่องรอย เขาพลันถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะมองไปยังชายลึกลับผมขาวพร้อมกับความกลัวที่ยังคงตกค้างอยู่ในใจ จากนั้นก็พูดว่า “จักรพรรดิต่างพิภพหรือ? ตัวตนน่าสะพรึงกลัวผู้นี้คืออะไรกันแน่?”

ในที่สุดตอนนี้เขาก็เข้าใจแล้วว่าเสวียนเฉินกับเสวียนขุยไม่ได้เข้าด่านแห่งความลึกล้ำมาเพื่อค้นหาสมบัติ แต่มาเพื่อช่วยบุคคลลึกลับผมขาวที่ถูกเจดีย์สยบสวรรค์กำราบไว้นานหลายปีผู้นี้ต่างหาก!

เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!

ชายผมขาวยังไม่ทันได้ขยับ โซ่ตรวนบนแขนขาก็พังทลายลงทีละน้อย ก่อนจะกลายเป็นกองเศษซากร่วงหล่นลงสู่พื้นเสียงดังก้อง

“หึ! แม้แต่โซ่ตรึงมารของเจดีย์สยบสวรรค์ก็ยังฆ่าข้าไม่ได้ เช่นนี้ใครจะกล้าอวดดีต่อหน้าข้าได้อีก” เขาตวัดมองไปยังหม้อใบจิ๋วด้วยสายตาลึกล้ำราวกับเหวลึก พลางปลดปล่อยกลิ่นอายกดขี่ราวกับราชันจุติ

“ฮ่า ๆ เจ้าหม้อหยกนี่เอง หรือพวกเทพกังวลว่าข้าจะหลบหนี จึงได้ทิ้งสมบัติเทวะเอาไว้ล่วงหน้ากัน?” เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของหม้อใบจิ๋วชัดเจน ชายลึกลับผมขาวก็หัวเราะเบา ๆ ไม่ซ่อนแววดูถูกแม้แต่น้อย

“เหล่าเทพเคยลงมือปราบจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เช่นเจ้าไปมากมายเมื่อหลายปีก่อนแล้วกระมัง?” จู่ๆ หม้อใบจิ๋วก็ถามอย่างอื่นแทน

“ถูกต้อง นอกจากเหวเงาทมิฬแล้ว ยังมีสถานที่ลึกลับอีกเก้าแห่งในสามภพที่จับสหายข้าไว้อีกสองสามคน คิด ๆ ดูแล้วพวกนั้นก็น่าจะหนีไปได้แล้วเช่นกัน” ชายลึกลับผมขาวไม่ได้สนใจอะไร เขาเอามือไพล่หลัง พูดขึ้นอย่างเฉยเมยว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไร เทพแห่งสามภพของพวกเจ้าเองก็ถูกกำราบไว้ภายในโลกศักดิ์สิทธิ์ของพวกข้าเช่นกัน”

‘มีเทพแห่งสามภพติดอยู่ภายนอกสามภพด้วยหรือ?’ เฉินซีรู้สึกตกใจ ไม่กล้าเชื่อหูตนเอง เหมือนเพิ่งได้ยินเรื่องไร้สาระ

“ในเมื่อสามภพกำลังจะเกิดกลียุค ต่างพิภพของเจ้าก็ไม่คิดเก็บตัวเงียบอีกต่อไปสินะ…” หม้อใบจิ๋วถอนหายใจด้วยน้ำเสียงที่เผยแววอ้างว้าง

“ต่างพิภพหรือ? หึ! สำหรับพวกข้าแล้ว พวกคนในสามภพนับเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารังเกียจที่สุด!” ชายผมขาวคำราม แสดงความเกลียดชังที่ลงลึกไปจนถึงกระดูก

ตู้ม!

ในขณะที่พูด เขาเริ่มขยับตัวและยื่นมือเข้ามาคว้าหม้อใบจิ๋วอย่างดุดัน “ข้าบอกสิ่งที่เจ้าควรรู้ไปแล้ว เช่นนั้นเจ้าก็จงตายได้แล้ว!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]