บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 703

บทที่ 703 บงกชน้ำแข็งม่วงเข้ม

บทที่ 703 บงกชน้ำแข็งม่วงเข้ม

ครืน!

แสงศักดิ์สิทธิ์ที่เหมือนกับดอกไม้สีม่วงนับพันนับหมื่นที่สาดส่องและสอดประสานเข้าด้วยกัน ได้เข้าปกคลุมไปทั่วฟ้าดิน และระเบิดใส่ค่ายกลใหญ่อย่างแรง!

ปรากฏการณ์นี้ราวกับมีทะเลดอกไม้สีม่วงโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าเหนือช่องเขาอย่างกะทันหัน ก่อนจะบานสะพรั่งภายในค่ายกล และระเบิดแสงศักดิ์สิทธิ์ที่แหลมคมก็ทำการอาละวาดไปทั่วค่ายกลยักษ์!

ในไม่ช้า เปลวเพลิงสุริยันครามที่พลุ่งพล่านอยู่ภายในค่ายกลพลันเริ่มเบาบางลง ในขณะที่แรงกดดันของมันก็อ่อนลงมากเรื่อย ๆ สวนทางกับดอกไม้สีม่วงที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน ทำให้เกิดแสงสีม่วงส่องประกายระยิบระยับไปทั่วค่ายกล บังเกิดเป็นฉากที่วิจิตรตระการตา!

ผู้เยี่ยมยุทธ์ระดับผลึกม่วงที่โจมตีค่ายกลพลันเผยรอยยิ้มเย็นชา ในใจของเจ้าตัวรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก ด้วยดอกไม้สีม่วงเหล่านี้คือบงกชน้ำแข็งม่วงเข้มที่เขารวบรวมมาจากใต้ดิน และตัวเขาได้ขัดเกลามันด้วยเคล็ดวิชาลับมากว่าร้อยปี ทำให้มันทรงอานุภาพยิ่งกว่าสมบัติกึ่งอมตะเสียอีก!

ทันใดนั้น ผู้เยี่ยมยุทธ์ระดับผลึกม่วงคนนั้นก็ตะโกนว่า “จงแข็งตัว!”

ตราประทับที่เขาสร้างด้วยมือพลันเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ดอกไม้สีม่วงที่ปกคลุมท้องฟ้ากลายเป็นผลึกน้ำแข็งโปร่งแสง และเข้าแช่แข็งเปลวเพลิงสุริยันฟ้าครามในทันใด!

ค่ายกลใหญ่ที่อยู่ในช่องเขาตรงหน้าพวกเขาดูจะสูญเสียเขี้ยวเล็บที่แหลมคมที่สุดไปในทันที ทำให้หลายคนพากันแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา ในขณะที่ดวงตาซึ่งจับจ้องไปยังผู้เยี่ยมยุทธ์ระดับผลึกม่วงก็เปลี่ยนไป

“ความแข็งแกร่งของเยว่ยาคนนี้ไม่เลวเลย!” ชวีถ่ารู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย …เยว่ยาคนนี้เป็นผู้เยี่ยมยุทธ์จากพิภพวิญญาณจันทรา และเขาก็เป็นหนึ่งในผู้นำของกองกำลังเช่นเดียวกัน

“ความแข็งแกร่งของคนผู้นี้ไม่เลวจริง ๆ นึกไม่ถึงว่าเขาจะครอบครองสิ่งล้ำค่าอย่างบงกชน้ำแข็งม่วงเข้ม” ชายร่างเตี้ยพึมพำ จากนั้นจึงกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “ผู้นำชวีถ่า เจ้าต้องระวังไว้ อย่าให้ใครมายึดคัมภีร์กำเนิดเต๋าแห่งนรกขุมที่เก้าได้ มิฉะนั้น พวกมันจะได้รับผลประโยชน์มากมายกลับไป”

“ฮึ่ม! ก็แค่เยว่ยา เขานับเป็นตัวอะไรได้?” ชวีถ่าคำรามเย็นชา และเผยความมั่นใจที่แข็งแกร่งออกมา

ส่วนอาไหลก็ไม่ได้กล่าวอะไรอีก ดวงตาฉายประกายล้ำลึก ในขณะที่จ้องมองไปยังบงกชน้ำแข็งม่วงเข้มที่แข็งตัวเป็นผลึกน้ำแข็งอย่างแน่วแน่ ภายในสายตาของอาไหล ผลึกน้ำแข็งเหล่านั้นได้กลายเป็นลูกบอลหมอกสีม่วง จากนั้นพวกมันก็ผันผวนเป็นจังหวะที่ไม่เหมือนใคร เห็นได้ชัดว่านี่เป็นเคล็ดวิชาน้ำแข็งต้องห้ามประเภทหนึ่งที่สามารถแช่แข็งทุกสรรพสิ่งในใต้หล้าได้

ช่างน่าสยดสยองอย่างแท้จริง!

อาไหลถอนหายใจ

ทว่าช่องเขาด้านล่างกลับสงบเป็นพิเศษ ผิดกับแรงกดดันที่ไม่ธรรมดาของเยว่ยา

มันเป็นความสงบที่ผิดปกติ!

ภายในสายตาคู่นั้น อาไหลแทบจะมองไม่เห็นการเคลื่อนไหวใด ๆ และดูเหมือนว่าผู้คนในช่องเขาจะเลิกต่อต้านตั้งไปนานแล้ว พวกเขากำลังรอให้ค่ายกลถูกทำลาย อีกทั้งยังรอความตายที่กำลังจะมาถึง

แต่ภายในใจของอาไหลกลับมีความรู้สึกไม่มั่นคงอยู่จาง ๆ เขาใช้พลังทั้งหมดเพื่อเปิดม่านตาทั้งสองข้างให้กว้างขึ้น และค้นหาอย่างระมัดระวัง ด้วยกลัวว่าตนเองจะพลาดรายละเอียดใดไป

ผู้เยี่ยมยุทธ์จากต่างพิภพของกองกำลังอื่น ๆ ก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศอย่างรวดเร็วเช่นกัน เพราะว่ามันสงบเกินไป มันสงบเสียจนรู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อย ทำให้พวกเขาอดไม่ได้ที่จะหยุดพูดคุย และเฝ้ารักษาสถานการณ์อย่างระมัดระวัง

ในขณะนี้ มือของเยว่ยาสะบัดไปมา พวกมันเคลื่อนตัวไปตามเส้นทางที่ลึกล้ำและคลุมเครือ ก่อนที่จะตะโกนออกมาอย่างดุเดือดว่า “จงระเบิด!”

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

บงกชน้ำแข็งม่วงเข้มที่ปกคลุมรอบ ๆ ช่องเขาพลันระเบิดออก พร้อมกับแสงสีม่วงจำนวนมหาศาลแผ่กระจายปกคลุมไปทั่วทั้งฟ้าดิน ทำให้อุณหภูมิในระยะสองพันห้าร้อยลี้ลดฮวบฮาบในทันที แม้แต่อากาศก็ถูกปกคลุมด้วยเกล็ดน้ำแข็ง ในขณะที่หินบนพื้นถูกแช่แข็งจนแตกออกจากกัน

ครืนนนนนนนน!

บงกชน้ำแข็งม่วงเข้มเหล่านี้ได้เปลี่ยนเป็นแสงศักดิ์สิทธิ์สีม่วงจำนวนมากที่พุ่งออกมาราวกับกระแสน้ำ และมันแฝงไปด้วยพลังมหาศาล ในขณะที่พุ่งเข้าหาค่ายกลใหญ่!

เมื่อค่ายกลใหญ่ดูเหมือนใกล้ที่จะถูกทำลาย… จู่ ๆ ก็มีแสงสีดำวาบขึ้นมาอย่างกะทันหัน

สะเก็ดเปลวเพลิงที่เหมือนดวงดาวสีดำพลันลอยขึ้นมาอย่างเงียบงัน และกลายเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ในชั่วพริบตา มันปกคลุมทั้งค่ายกลใหญ่ เมื่อมองจากระยะไกล ก็เหมือนกับว่าพื้นผิวของค่ายกลถูกปกคลุมไปด้วยชั้นทะเลดวงดาวอันกว้างใหญ่

แต่ดวงดาวกลุ่มนั้นกลับมีสะเก็ดเปลวเพลิงสีดำจำนวนมาก พวกมันเย็นเยียบและน่าหวาดผวา อีกทั้งยังปล่อยกลิ่นอายที่เย็นชาและลึกลับออกมา!

“เปลวเพลิงราชานกยูงปรโลก!” ม่านตาของอาไหลหดตัวทันที เมื่อคำเหล่านี้เปล่งออกมาจากริมฝีปาก

“เป็นมัน!”

ก่อนหน้านี้ เขาเคยสังเกตเห็นแสงสีดำที่อ่อนแรงและมองเห็นยากอยู่ครั้งหนึ่ง ขณะที่สังเกตค่ายกลใหญ่ในช่องเขา แต่เนื่องจากแสงสีดำกะพริบเพียงชั่วครู่ก่อนที่จะหายไป สิ่งนี้จึงเป็นเหมือนกับภาพหลอนจนพานให้อาไหลไม่ได้คิดจริงจังกับมัน

แต่ในขณะนี้ เมื่อเห็นค่ายกลใหญ่ที่ดูจะประดับประดาด้วยหมู่ดาว ในที่สุดเขาก็รู้ว่ารูปลักษณ์ที่แท้จริงของค่ายกลได้ปรากฏขึ้นแล้ว!

การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป ท่ามกลางการจ้องมองที่ตกตะลึงของผู้คนจำนวนมาก กระแสน้ำที่ควบแน่นโดยแสงศักดิ์สิทธิ์สีม่วงได้กระแทกลงมาอย่างหนักบนค่ายกลใหญ่

ตู้ม!

มันเหมือนกับอุกกาบาตที่ตกลงมาจากฟากฟ้า และกระแทกอย่างแรงลงบนพื้นผิวของค่ายกล ทำให้เกิดเสียงดังโครมคราม เช่นเดียวกับหัวใจของทุกคนที่คล้ายกับกลองถูกตีรัว ทำให้ร่างกายของพวกเขาสั่นสะท้าน ขณะที่ใบหน้าซีดลงเล็กน้อย

ขณะนั้น แสงศักดิ์สิทธิ์สีม่วงได้แตกเป็นเสี่ยง ๆ และกลายเป็นสายฝนโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]