บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 728

บทที่ 728 อาซิ่วที่โกรธเกรี้ยว

บทที่ 728 อาซิ่วที่โกรธเกรี้ยว

หลังจากกรงถูกทำลาย เฉินซีก็พยุงหั่วโม่เลยออกมาจากกรง จากนั้นจึงแบกอีกฝ่ายไว้บนหลังของเขาอย่างแผ่วเบา

ร่างของหั่วโม่เลยในขณะนี้เต็มไปด้วยบาดแผล และเห็นได้ชัดว่าบาดเจ็บสาหัสมาก ยิ่งกว่านั้น การบ่มเพาะของอีกฝ่ายยังถูกผนึกไว้ ทำให้เขาอ่อนแอกว่าคนธรรมดาเสียด้วยซ้ำ

“ศิ…ศิษย์น้องเล็ก” หั่วโม่เลยกล่าวอย่างอ่อนแรงด้วยเสียงที่แหบแห้ง เขาทั้งรู้สึกประหลาดใจและไม่อยากจะเชื่อเมื่อเห็นเฉินซีก่อนหน้านี้ และจนถึงตอนนี้ เขาก็กล้าเชื่อว่าทุกอย่างเป็นความจริง ทำให้น้ำตาอุ่น ๆ ไหลรินมาจากดวงตาของหั่วโม่เลย

มันยากที่จะจินตนาการได้ว่า บุรุษผู้มีชีวิตชีวาเช่นเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานปานใด จึงจะรู้สึกตื่นเต้นและเศร้าโศกถึงเพียงนี้!

เฉินซีพลันรู้สึกตีบตันอยู่ในลำคอ จึงกล่าวว่า “ศิษย์พี่ใหญ่ พักผ่อนให้สบายเถิด ข้าจะแก้แค้นให้กับท่านเอง!” ทันทีที่กล่าวจบ เสียงซึ่งทั้งเย็นยะเยือกและน่ากลัวยิ่งของชายหนุ่มก็ดูราวกับลอดออกมาจากไรฟัน

ทว่าเมื่อเสียงนี้กระทบโสตของหั่วโม่เลย มันกลับสงบและอ่อนโยนมาก ทำให้เจ้าตัวรู้สึกผ่อนคลาย จนผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว

เฉินซีแบกศิษย์พี่ใหญ่ของเขาไว้บนหลัง ในขณะที่ก้าวไปหาเถาคุนทีละก้าวด้วยท่าทางไม่แยแส ชายหนุ่มในเวลานี้เป็นดั่งกระบี่ที่คมกริบ และจิตสังหารที่แผ่กระจายออกมาจากตัวเขาก็พุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็วในทุกย่างก้าว จนกระทั่งรอบกายของเฉินซีเต็มไปด้วยอักขระยันต์สีดำสนิท ซึ่งขับให้เขาดูเหมือนเทพอสูรที่ย่างออกมาจากความมืดมิด

ขณะนั้นเถาคุนยังคงร้องโหยหวน ขณะที่คุกเข่าอยู่บนพื้นและไม่อาจดิ้นรนให้เป็นอิสระได้ สีหน้าของเจ้าตัวบิดเบี้ยวและซีดเซียว เนื่องจากการคุกเข่าบนถนนต่อหน้าธารกำนัล ทำให้เถาคุนรู้สึกอับอายขายหน้าอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน รวมทั้งทำให้เขาโกรธจนแทบจะกลายเป็นบ้า!

เขาเป็นใครน่ะหรือ?

อัจฉริยะของเผ่าเทาเที่ย บุตรชายคนโตของผู้อาวุโสรอง และศิษย์สายหลักของนิกายวิถีกระแสสวรรค์!

อนิจจา ตอนนี้เขากลับถูกสยบจนต้องคุกเข่าลงกับพื้นจริง ๆ …ตั้งแต่เกิดจนมาถึงตอนนี้ ตัวเขาไหนเลยจะเคยประสบกับความอัปยศอดสูเช่นนี้?

“เจ้ารู้ตัวตนของเขาอย่างชัดเจน แต่กลับยังกล้ากักขังและทรมานเขา ความผิดนี้สมควรตาย!” เสียงที่ราบเรียบและไม่แยแสดังก้องอยู่ในหูของเถาคุน ทำให้เขาโกรธจนตัวสั่น ดูราวกับถูกสาดด้วยน้ำอันเย็นยะเยือก ร่างกายของเขาจึงยิ่งสั่นสะท้านไปทั้งตัว

“เจ้า… นี่เจ้าคิดจะฆ่าข้าภายในอาณาเขตของเผ่าข้าจริง ๆ หรือ” เถาคุนมีสีหน้าหวาดกลัวที่เต็มไปด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ

“เจ้าคิดอย่างไรเล่า?” เฉินซีตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา จากนั้นเขาก็เงื้อมือขึ้นดูหมายจะสังหารเถาคุน

ทว่าในขณะนี้เอง จู่ ๆ ก็มีเสียงคำรามกึกก้องดังมาจากท้องฟ้าอันไกลโพ้น “หยุดมือซะ!” เสียงนั้นราวกับเสียงฟ้าร้องที่ดังก้องวานไปรอบ ๆ ทำให้แก้วหูปวดระบมไปหมด

ฟิ้ว!

เสียงนี้เพิ่งดังออกมาเมื่อครู่เท่านั้น ทว่ากลับมีร่างสูงฉีกผ่านความว่างเปล่าเข้ามา จากนั้นก็ผลักฝ่ามือของเฉินซีออกไป ด้วยการฟาดฝ่ามือเข้าต้าน ซึ่งช่วยให้เถาคุนรอดพ้นจากท่าสังหารที่ร้ายแรงนี้ได้อย่างง่ายดาย

ดวงตาของเฉินซีในขณะนี้กลายเป็นจดจ่อ ในขณะที่เขาล่าถอยกลับไปสองสามก้าว ก่อนที่จะหยุดยืนนิ่งและมองไปรอบ ๆ จากนั้นจึงเห็นชายวัยกลางคนที่สูงสง่ายืนขวางอยู่ตรงหน้าเถาคุน!

ชายวัยกลางคนผู้นี้สวมชุดคลุมสีแดงเพลิง มีลักษณะที่มั่นคง และดวงตาของเขาก็ลึกล้ำราวกับมหาสมุทร!

“ท่านผู้นำ!” เถาคุนร้องออกมาด้วยความยินดีที่ได้รอดพ้นความตาย และเจ้าตัวก็ตะโกนออกมาว่า “ท่านผู้นำ เร็วเข้า ฆ่าไอ้สารเลวคนนี้เร็วเข้า มันกล้าฆ่าคนในอาณาเขตของเผ่าเทาเที่ยของเรา! มันเป็นคนบ้าและเป็นพวกโจรร้าย!”

ดวงตาของเฉินซีพลันหรี่ลง ตอนนี้เขาทราบแล้วว่า ชายวัยกลางคนผู้สง่างามตรงหน้าคือผู้นำของเผ่าเทาเที่ย ..เถาเจิ้นเทียน! ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีที่สามารถพิชิตทัณฑ์สวรรค์ระดับที่เจ็ดได้!

ในขณะนี้ ร่างอีกนับสิบได้มาถึงที่นี่แล้ว พวกเขาทุกคนล้วนเป็นผู้อาวุโสของเผ่าเทาเที่ย ซึ่งมีกลิ่นอายที่น่าเกรงขาม และร่างกายของพวกเขาก็เอ่อล้นด้วยปราณเซียน ซึ่งเพียงกลิ่นอายอันน่าเกรงขามบนร่างกายของคนทั้งหมด …ก็มากพอที่จะทำให้หัวใจของผู้อื่นเต้นระส่ำแล้ว!

อันที่จริง เฉินซีไม่เคยมีความตั้งใจจะฆ่าเถาคุนตั้งแต่แรกแล้ว เพราะถึงอย่างไร ที่แห่งนี้ก็คือเมืองเทาเที่ย ซึ่งเป็นอาณาเขตของเผ่าเทาเที่ย และชายหนุ่มก็ต้องการเข้าร่วมการจัดอันดับพ่อครัววิญญาณทองคำ เพื่อเติมเต็มความปรารถนาของผู้เฒ่าหม่าและปรมาจารย์ยง ดังนั้นไม่ว่าจะโกรธเพียงใด เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องข่มโทสะเอาไว้

ยิ่งกว่านั้น เขายังรู้สึกว่าคนอย่างเถาคุนไม่มีทางที่จะกล้าลงมือกับศิษย์พี่ใหญ่ และคิดว่าคนผู้นี้น่าจะเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดเสียมากกว่า

เหตุผลนั้นง่ายดายมาก ไม่ว่าการบ่มเพาะของหั่วโม่เลยจะด้อยกว่าสักเพียงใด แต่เขาก็ยังเป็นศิษย์ของนิกายกระบี่เก้าเรืองรอง ดังนั้นไม่ว่าเถาคุนจะแกร่งกล้าแค่ไหน อีกฝ่ายก็ต้องไตร่ตรองผลที่ตามมาจากการล่วงเกินนิกายกระบี่เก้าเรืองรองให้ดี!

“คุนเอ๋อร์! สิ่งนี้เกิดขึ้นกับเจ้าได้อย่างไร? ผู้ใดกล้าทำเจ้า!?” ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งมีสีหน้าเศร้าหมองทันทีที่สังเกตเห็นท่าทางที่น่าสังเวชของเถาคุน และอดไม่ได้ที่จะขุ่นเคือง จึงตะโกนเสียงดังสนั่นหวั่นไหว

คนผู้นี้คือบิดาของเถาคุน เถาหลูเซียว และเขาเป็นผู้อาวุโสรองของเผ่าเทาเที่ย ทำให้มีอำนาจไม่น้อย ในขณะที่กล่าว เจ้าตัวก็กวาดสายตาที่น่ากลัว เย็นยะเยือก และอาฆาตมาดร้ายไปที่เฉินซี!

“ท่านพ่อ ท่านก็มาเช่นกัน!!” ใบหน้าของเถาคุนเต็มไปด้วยความอับอาย จากนั้นมันก็กลายเป็นป่าเถื่อน เมื่อเขาชี้ไปที่ชายหนุ่มตรงหน้า “ท่านพ่อขอรับ ฆ่ามันซะเถิด อย่าได้ปล่อยให้มันหนีรอดไปได้ในวันนี้ มิฉะนั้น จะเกิดหายนะครั้งใหญ่!”

ในขณะเดียวกัน เถาเจิ้นเทียน และคนอื่น ๆ ก็ต่างจ้องเขม็งไปยังเฉินซีแล้วโดยที่เถาคุนไม่จำเป็นต้องชี้ …แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยไฟโทสะ เพราะชายหนุ่มคนหนึ่งถึงขนาดกล้าอวดดีในเมืองเทาเที่ย และนี่เป็นเหตุผลที่เพียงพอสำหรับพวกเขาที่จะทำลายล้างอีกฝ่าย!

ทว่าใบหน้าของเฉินซียังคงไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่เขามองไปยังผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีที่มีกลิ่นอายอันน่าเกรงขามตรงหน้าอย่างเฉยเมย …ชายหนุ่มไม่แม้แต่จะรู้สึกประหม่าหรือหวาดกลัว แต่แววตาของเขากลับเย็นชาและสงบนิ่ง “ทุกท่านไม่คิดจะถามสักหน่อยหรือว่า พวกสวะในเผ่าของพวกท่านได้ทำเรื่องเลวร้ายอะไรไว้หรือไม่?”

เถาเจิ้นเทียนและผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีคนอื่น ๆ ต่างขมวดคิ้ว ด้วยพวกเขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติในเรื่องนี้ เนื่องจากชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาสงบนิ่งเกินไป ราวกับว่าอีกฝ่ายมีบางอย่างที่พึ่งพาได้

เมื่อเป็นแบบนี้ ใบหน้าของเถาคุนกลับยิ่งดูเคร่งขรึม เขาตะโกนอย่างเร่งรีบ “ท่านพ่อ เร็วเข้า อย่าปล่อยให้เขาพล่ามอีกต่อไป ข้าจะอธิบายทุกอย่างให้ท่านและเหล่าผู้อาวุโสฟัง หลังจากมันถูกฆ่าแล้วเอง!”

“โอ้? นี่เจ้าคิดจะฆ่าข้าเพื่อปิดปากหรือ?” เฉินซีหัวเราะเยาะออกมา ทว่าเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดกลับเกิดขึ้นก่อนที่เขาจะได้กล่าวอะไร

ปัง!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]