บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 730

บทที่ 730 ไม่มีการยอมจำนน

บทที่ 730 ไม่มีการยอมจำนน

อันที่จริง เฉินซีอาศัยอำนาจของกองกำลังที่หนุนหลังเขาเพื่อกดดันอีกฝ่ายเหมือนที่ไป๋กู้หนานทำ แต่สิ่งเดียวที่แตกต่างออกไปคือเขาไม่ได้คุกคามและหยิ่งทะนงอย่างคนแซ่ไป๋

สีหน้าของชายหนุ่มสงบนิ่ง แม้น้ำเสียงจะไม่ดังนัก ทว่าก็มากพอที่จะทำให้ผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีที่พิชิตทัณฑ์สวรรค์ระดับที่เจ็ดมาได้อย่างเถาเจิ้นเทียนไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเผชิญหน้ากับเขาอย่างระมัดระวัง

บทสนทนาระหว่างทั้งสองถูกซ่อนเร้นอยู่ด้านหลังเมฆหมอกหนาทึบ คนธรรมดาย่อมสับสนงุนงงเมื่อได้ยินเข้า มีเพียงผู้อาวุโสของเผ่าเทาเที่ยเท่านั้นที่แยกแยะได้ว่าท่านผู้นำตั้งใจจะประนีประนอม!

ความรู้สึกนี้ทำให้พวกเขาคับแค้นใจอย่างอธิบายไม่ได้ อีกฝ่ายเป็นเพียงคนตัวจ้อยในขอบเขตสถิตกายาเท่านั้น แต่เขาไม่เพียงกล้าสร้างปัญหาในเมืองเทาเที่ยเท่านั้น กลับถึงขั้นข่มขู่กัน นี่เขาสะกดคำว่า ‘ตาย’ ไม่เป็นหรือไร!?

ถึงแม้พวกเขาจะขุ่นเคือง แต่ก็ไม่มีทางเลือกนอกจากยอมรับว่าตัวตนของเฉินซีคือตัวแปรที่ไม่สามารถตัดสินตามแบบแผนได้ ทันทีที่ตกตาย นิกายกระบี่เก้าเรืองรองอาจจะบ้าคลั่งขึ้นมาก็ได้

กอปรกับการปกป้องของหญิงสาวผู้ลึกลับสุดหยั่งที่อยู่ด้านข้าง จึงยิ่งทำให้พวกเขาหวาดกลัวกว่าเดิม

นี่คือพลังของ ‘ภูมิหลัง’ …แม้ว่าเฉินซีจะอยู่เพียงลำพังและไม่ได้มีการบ่มเพาะที่ไร้เทียมทานนัก แต่ภูมิหลังกับศักดิ์ศรีที่เขาครอบครองกลับมากล้น และผู้อื่นมิอาจลงมือฆ่าได้โดยง่าย

เถาเจิ้นเทียนนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจได้ในที่สุด เขาสะบัดมือแล้วกล่าวว่า “ผู้อาวุโสสาม รบกวนคุมขังผู้อาวุโสรองและคุนเอ๋อร์ไว้ในคุก อย่าให้พวกเขาออกมาได้เด็ดขาด!”

“เรื่องนี้…” ผู้อาวุโสสามลังเล คล้ายคิดว่าโทษนี้หนักหนาเกินไป

“ไป!” เถาเจิ้นเทียนกล่าวเสียงต่ำ

เมื่อเผชิญกับคำสั่งย้ำสองรอบ ผู้อาวุโสสามย่อมไม่กล้าล่าช้าอีก เขาหันหลังแล้วนำเถาหลูเซียวกับเถาคุนจากไปอย่างกระอักกระอ่วน

ขณะที่ผู้อาวุโสคนอื่นได้แต่มองหน้ากันเมื่อเห็นภาพนี้ ความขุ่นเคืองในใจของทุกคนยิ่งรุนแรงขึ้น ผู้เยี่ยมยุทธ์ของพวกเขาถึงสองคนต้องถูกคุมขังลงโทษเพียงเพราะชายหนุ่มผู้หนึ่ง …สิ่งที่ต้องแลกมานี้หนาหนักเกินไป!

แต่ถึงสถานการณ์จะไม่น่าให้อภัยเพียงใด พวกเขาก็ทำได้เพียงมองดูอย่างจนใจเท่านั้น

หลังจากตัดสินใจเช่นนี้ เถาเจิ้นเทียนคล้ายกับสงบสติลงได้ เขาเงยหน้าขึ้นมองเฉินซีก่อนถามด้วยน้ำเสียงลุ่มลึกว่า “เจ้าพอใจกับการลงโทษเช่นนี้หรือไม่?”

เฉินซีพยักหน้า “ผู้อาวุโสปราดเปรื่องนัก!”

มุมปากของเถาเจิ้นเทียนกระตุกวูบ ปราดเปรื่องหรือ? นี่กำลังล้อข้าเล่นอยู่หรือไร?

แต่ถึงในใจจะคิดเช่นนั้น ทว่าภายนอกยังคงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ด้วยขอเพียงเรื่องนี้คลี่คลายลงได้ก็พอ เพราะเขากังวลว่าอีกฝ่ายจะขออะไรมากไปกว่านี้

ทว่า… สิ่งที่ผู้นำเผ่าเทาเที่ยคิดกลับกลายเป็นจริงจนน่าประหลาด อึดใจต่อมา เฉินซีก็กล่าวว่า “แต่ข้ายังต้องกลับนิกายเพื่อปรึกษาผู้อาวุโสในนิกายเสียก่อน จึงจะรู้ว่าเรื่องนี้เรียบร้อยดีหรือไม่”

“เฉินซี!” เถาเจิ้นเทียนสูญสิ้นความสงบอย่างสมบูรณ์ สายตาเย็นเยือกของเขาราวกับสายฟ้าขณะขมวดคิ้วแล้วถามว่า “เจ้าทำแบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยหรือ?”

“ผู้อาวุโส ท่านเข้าใจผิดแล้ว” เฉินซีตอบอย่างสงบ “ข้าเพียงชี้แจงแนวทางเท่านั้น หากการกระทำของเถาคุนไม่ข้องเกี่ยวกับเผ่าเทาเที่ยจริง เช่นนั้นนิกายกระบี่เก้าเรืองรองของข้าย่อมไม่ปฏิบัติกับคนดีอย่างไร้ความยุติธรรมแน่นอน”

“ข้ากลัวแต่ว่าเจ้าจะพูดเกินจริงจนจงใจทำให้ชื่อเสียงของเผ่าข้าเสียหายมากกว่า!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งทนดูไม่ไหวอีกต่อไปก่อนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

“ตั้งแต่เริ่มบ่มเพาะมาจนถึงตอนนี้ ข้ายังไม่เคยทำสิ่งใดที่ขัดกับหลักการหรือหัวใจของตัวเองมาก่อน” ชายหนุ่มกล่าวอย่างราบเรียบ “อย่าว่าแต่เถาคุนเลย ไม่ว่าเขาจะอาจหาญเพียงใดก็ไม่มีทางกล้าทำร้ายศิษย์พี่ได้หรอก ดังนั้นคนไร้ประโยชน์นั่นมีคุณสมบัติใดที่ข้าจะต้องมานั่งเอาเรื่องด้วย?”

ดวงตาของผู้เยี่ยมยุทธ์ขอบเขตเซียนปฐพีทุกคนเบิกกว้างเมื่อได้ยินเช่นนี้ พวกเขาโกรธเป็นอย่างยิ่ง คำพูดของสหายตัวน้อยผู้นี้มันชักจะเกินไปแล้ว! เถาคุนเป็นอัจฉริยะของเผ่าเทาเที่ย แต่กลับถูกลดค่ากลายเป็นคนไร้ประโยชน์เพราะคำพูดของมันได้อย่างไร?

เถาเจิ้นเทียนหายใจเข้าก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ “ก็ได้ เอาตามที่เจ้าว่าแล้วกัน”

“ขอบคุณผู้อาวุโสที่ยอมรับเรื่องทั้งหมดนี้” เฉินซีประสานมือ ขณะที่ในใจลอบถอนหายใจยาว เขาเข้าใจแจ่มแจ้งว่าการต่อสู้ทางวาจานี้ได้บรรลุผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจแล้ว และหากร้องขอไปมากกว่านี้ มันก็จะเป็นการล้ำเส้นจนเกินงาม!

ชายหนุ่มกำลังจะจากไปพร้อมกับอาซิ่ว แต่เถาเจิ้นเทียนกลับถามทันทีว่า “ข้าขอทราบได้หรือไม่ว่าเหตุใดเจ้าถึงมาเมืองเทาเที่ยของข้าในครั้งนี้?”

เฉินซีหยุดนิ่ง “ข้ามาเข้าร่วมการจัดอันดับพ่อครัววิญญาณทองคำ”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา ผู้อาวุโสทั้งหมด รวมถึงเถาเจิ้นเทียนถึงกับประหลาดใจ คนสารเลวที่ไม่น่าให้อภัยผู้นี้อยากจะเข้าร่วมการจัดอันดับทองพ่อครัววิญญาณอย่างนั้นหรือ?

พวกเขาประหลาดใจเป็นอย่างมาก!

ตอนนี้ ทุกคนในโลกบ่มเพาะต่างรู้ชัดเจนว่าเฉินซีคือ ผู้เยี่ยมยุทธ์ในขอบเขตสถิตกายาที่ครอบครองพละกำลังต่อสู้อันน่าตกตะลึงและมีพรสวรรค์อันยอดเยี่ยม กล่าวได้ว่าชายหนุ่มคืออัจฉริยะผู้ไร้เทียมทานก็ว่าได้!

ทว่าใครจะคาดคิดว่า สหายผู้นี้จะดั้นด้นมาที่เมืองเทาเที่ยเพื่อเข้าร่วมการจัดอันดับทองพ่อครัววิญญาณ?

หรือว่า… สหายผู้นี้เป็นพ่อครัววิญญาณด้วยเช่นกัน?

ทุกคนมองหน้ากัน และรู้สึกว่ามันช่างเหลวไหลยิ่งนัก

ผู้อาวุโสคนหนึ่งคล้ายกับตระหนักบางสิ่งได้ ก่อนพลันกล่าวอย่างไม่ยินดีว่า “หึ! ถึงแม้เผ่าเทาเที่ยของข้าจะทำผิดเพราะเรื่องก่อนหน้านี้ แต่อย่าหวังว่าพวกข้าจะปล่อยเจ้าผ่านไปได้เพียงเพราะเรื่องนั้นเชียวล่ะ!”

“ใช่แล้ว! การจัดอันดับทองพ่อครัววิญญาณคืองานใหญ่ของเผ่าพวกข้า ไม่มีทางให้สิ่งใดมาแหกกฎเกณฑ์ได้หรอก หากไร้ซึ่งความยุติธรรม เช่นนั้นเผ่าเทาเที่ยของพวกข้าจะปักหลักอยู่ในแดนภวังค์ทมิฬได้อย่างไร?” ผู้อาวุโสอีกคนกล่าวขึ้นตามมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]