บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 747

บทที่ 747 ราวกับถูกฟ้าผ่า!

บทที่ 747 ราวกับถูกฟ้าผ่า!

ทว่าเสิ่นหลางหยากลับต้องตกตะลึง เนื่องจากผู้อาวุโสเลี่ยเผิงไม่สนใจเขา และกล่าวอย่างเฉยเมยว่า “พวกเจ้ากล่าวได้ถูกต้องแล้ว มีเพียงเฉินซีเท่านั้นที่มีสิทธิ์จะศึกษาคัมภีร์เต๋านิรันดร์นี้”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ถูกกล่าวออกมา ผู้อาวุโสขอบเขตเซียนปฐพีทั้งหมดที่อยู่ใกล้เคียงล้วนตกตะลึง จากนั้นพวกเขาพลันกลับคืนสู่ท่าทางที่สำรวมและเงียบสงบ

พวกเขาไม่ได้สนใจว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร และกังวลเพียงสิ่งที่เลี่ยเผิงจะเลือกเท่านั้น ซึ่งตอนนี้หลังพวกเขาเห็นว่าเลี่ยเผิงเลือกเฉินซีแล้ว มันก็ทำให้ทุกคนเข้าใจทันทีว่า นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เลี่ยเผิงอาจจะสนับสนุนและส่งเสริมเฉินซีด้วยอำนาจทั้งหมดที่เจ้าตัวมีในนิกายกระบี่เก้าเรืองรอง!

เลี่ยเผิงเป็นผู้อาวุโสคุมกฎเพียงผู้เดียวในนิกายกระบี่เก้าเรืองรอง เขาจัดการเรื่องการลงโทษและมีอำนาจยิ่งใหญ่ ซึ่งด้อยกว่าประมุขนิกายเวินหัวถิงเพียงคนเดียว ดังนั้นผลของการประกาศนี้ จึงมีความสำคัญมากกว่าเรื่องคัมภีร์เต๋านิรันดร์เสียอีก

แม้แต่เสิ่นหลางหยา เขาก็ยังไม่เหลือบแล ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าชายชราคิดอย่างไรกับเฉินซี กล่าวอีกนัยหนึ่ง…คือหากพวกเขาต้องเลือกผู้สืบทอดของตำแหน่งประมุขนิกายแล้ว เลี่ยเผิงก็จะสนับสนุนเฉินซีด้วยอำนาจทั้งหมดที่มีอย่างแน่นอน!

เมื่อเทียบกับการคำนวณและความปราดเปรื่องของผู้อาวุโสขอบเขตเซียนปฐพี ศิษย์คนอื่น ๆ ในห้องโถงต่างดีใจเป็นอย่างมาก พวกเขาพากันโห่ร้องสรรเสริญให้แก่เฉินซี ราวกับว่าพวกเขาได้ชนะการต่อสู้!

ท้ายที่สุดแล้ว คู่แข่งของเฉินซีในครั้งนี้คือเสิ่นหลางหยา ซึ่งเป็นศิษย์ชั้นยอดอันดับหนึ่งแห่งยอดเขาจรัสเทวะ และประจำอยู่ในตำแหน่งนี้ตั้งแต่ก่อนที่เฉินซีจะเข้าร่วมนิกายเสียอีก เจ้าตัวจึงมีอำนาจมหาศาลและเส้นสายที่ลึกซึ้ง

แม้ว่าผู้อาวุโสเลี่ยเผิงจะมอบคัมภีร์เต๋านิรันดร์ให้กับเสิ่นหลางหยาโดยพลการ พวกเขาก็ทำได้เพียงแต่ขุ่นเคือง ทว่าไม่มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงอันใด

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ผู้อาวุโสเลี่ยเผิงกล่าวถ้อยแถลงเช่นนี้ได้

ใบหน้าของเสิ่นหลางหยาพลันมืดมนทันที เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกสูญเสียและขุ่นเคือง ราวกับว่าตัวเขาถูกโลกทอดทิ้ง!

เพราะนับตั้งแต่เริ่มบ่มเพาะมาจนถึงตอนนี้ เส้นทางของเขาก็ราบรื่น และได้รับการต้อนรับอย่างให้เกียรติมาโดยตลอด แล้วเสิ่นหลางหยาจะจินตนาการได้อย่างไรว่า ศิษย์น้องทุกคนที่มักจะให้เกียรติและเคารพ กลับท้าทายตัวเขาอย่างเปิดเผย รวมถึงแม้แต่ผู้อาวุโสเลี่ยเผิงก็ยังไม่สนใจในสิ่งนี้!

สิ่งนี้ทำให้ชายหนุ่มแทบไม่อาจยอมรับได้ ราวกับเขาถูกผลักลงจากสวรรค์ชั้นฟ้า และตกลงกระแทกพื้นอย่างแรง!

เฉินซี!

เสิ่นหลางหยารู้ว่า เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพราะชายที่เพิ่งเข้ามาในนิกายได้หนึ่งปีคนนั้น และตัวเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขุ่นเคือง

ในเวลาต่อมา เสิ่นหลางหยาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองออกจากโถงพินิจกระบี่ได้อย่างไร เพราะจิตใจของเขามึนงงสับสนและเศร้าหมองยิ่งนัก

“ถ้า…ข้ายับยั้งตัวเองไม่ให้มาที่โถงพินิจกระบี่ได้ ข้าจะได้รับคำชื่นชมและความเคารพเหมือนในอดีตหรือไม่?” เสิ่นหลางหยากล่าวพึมพำ แต่เขารู้อยู่แก่ใจว่า คงเป็นไปไม่ได้ที่ตัวเขาจะรักษาตำแหน่งและอิทธิพลในฐานะอันดับหนึ่งประจำยอดเขาจรัสเทวะได้อีกแล้ว!

ณ ยอดเขาสัประยุทธ์

เฉินซีกำลังเดินขึ้นบันได นี่คือยอดเขาหลักของนิกายกระบี่เก้าเรืองรอง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ประมุขนิกายพำนักอยู่ และเป็นตัวแทนของศักดิ์ศรีสูงสุดของนิกายกระบี่เก้าเรืองรอง!

ที่นี่จึงมีกฎว่าห้ามบินเป็นอันขาด!

เมื่อครั้งที่ชายหนุ่มได้ก้าวขึ้นไปบนยอดเขาสัประยุทธ์เป็นครั้งแรก เฉินซีได้เดินขึ้นไปทีละก้าวพร้อมกับวิปลาสหลิ่ว

แต่หัวใจและความคิดของเขากลับตื่นเต้นลิงโลดในเวลานั้น ด้วยในใจเต็มไปด้วยความหวังสำหรับอนาคต ทว่าตอนนี้ หัวใจและความคิดของชายหนุ่มกลับเต็มไปด้วยจิตสังหารและความเดือดดาลที่อัดแน่นอยู่เต็มท้อง!

“ศิษย์พี่เฉินซี!” บนยอดเขาสัประยุทธ์ ศิษย์สองคนที่ยืนเฝ้าอยู่นอกห้องโถงตกตะลึงเมื่อเห็นชายหนุ่ม จากนั้นพวกเขาก็โค้งคำนับอย่างรวดเร็ว

“ข้ามาพบท่านประมุขนิกาย ช่วยรีบไปรายงานการมาของข้าที” เฉินซีกล่าว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]