บทที่ 748 การประชุมครั้งใหญ่ที่ไม่ธรรมดา
บทที่ 748 การประชุมครั้งใหญ่ที่ไม่ธรรมดา
เฉินหลิงจวิน!
แม้ชื่อนี้จะไม่คุ้นหูนัก ทว่าเฉินซีกลับรู้จักเป็นอย่างดี เพราะชื่อนี้คือนามของบิดาผู้ให้กำเนิดเขา!
ส่วนเหตุผลที่เฉินซีไม่ค่อยคุ้นเคยนัก เนื่องจากชายหนุ่มไม่เคยเห็นหน้าบิดาเลยสักครั้งนับตั้งแต่จำความได้ และตัวเขาก็ไม่รู้สึกผูกพันธ์กับบิดาเลยแม้แต่น้อย ถึงขนาดที่ว่าตัวเฉินซีเพิ่งรู้ว่าบิดาของเขาชื่อเฉินหลิงจวินเมื่อครึ่งปีก่อน!
เดิมทีเฉินซีคิดว่าบิดาของเขาเป็นคนธรรมดาที่อาศัยอยู่ในเมืองหมอกสน และพอใจกับความสะดวกสบายของโลกใบเล็ก แต่ต่อมาเมื่อการบ่มเพาะของชายหนุ่มก้าวหน้าและรู้เรื่องต่าง ๆ มากขึ้น เขาพลันรับรู้ได้อย่างบางเบาว่าบิดาของเขาไม่ธรรมดาอย่างที่เคยคิด
ถ้าบิดาของเขาเป็นคนธรรมดา แล้วอีกฝ่ายจะรู้จักกับจั่วชิวเสวี่ยจากตระกูลจั่วชิวที่แสนลึกลับได้อย่างไร?
ถ้าบิดาของเขาเป็นคนธรรมดา อีกฝ่ายจะรู้จักกับหญิงสาวที่มาจากตระกูลไป๋แห่งเทือกเขาหนามม่วงอย่างไป๋หว่านฉิงได้อย่างไร?
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดายิ่ง!!!
เมื่อเขาได้ยินชายชราที่อุ้มแมวไว้ในอ้อมแขนกล่าวคำว่า ‘เฉินหลิงจวิน’ ในเวลานี้ ความรู้สึกตกใจในหัวใจของเฉินซีก็เด่นชัดมากขึ้นเสียจนราวกับตัวคนถูกฟ้าผ่า
แม้ชายชราจะมีท่าทางธรรมดา แต่แท้จริงแล้วเขากลับไม่ธรรมดา สถานะของคนผู้นี้ในนิกายกระบี่เก้าเรืองรองนั้นยิ่งใหญ่ จนแม้แต่วิปลาสหลิ่วก็ยังแสดงความเคารพและให้เกียรติเมื่อพบหน้า อีกทั้งคนผู้นี้ก็ยังเป็นผู้อาวุโสที่ลึกลับและยากหยั่งถึง
ทว่าผู้ยิ่งใหญ่เช่นนี้กลับรู้จักบิดาของเขา แล้วเฉินซีจะสงบสติอารมณ์ได้อย่างไร?
เป็นครั้งแรกที่เฉินซีอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับบิดาของเขามากขึ้น ‘เฉินหลิงจวิน… เขาเป็นคนแบบไหนกัน?’
ในขณะที่ความคิดของชายหนุ่มกำลังโลดแล่น ชายชราก็เริ่มกล่าวช้า ๆ ด้วยเสียงทุ้มต่ำและอ่อนโยน เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา
“เมื่อสามปีก่อน การประชุมครั้งใหญ่ของเหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์ชั้นเลิศถูกจัดขึ้นในแดนภวังค์ทมิฬ ในระหว่างการประชุมครั้งนี้ ตัวตนสำคัญระดับแนวหน้าของกองกำลังต่าง ๆ ก็ได้เข้าร่วมเช่นกัน ในเวลานั้น…มีผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมดสามสิบเจ็ดคนที่มีการบ่มเพาะสูงเทียมฟ้ามารวมตัวกันในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ขนนก”
“ผู้จัดการประชุมครั้งนี้คือประมุขนิกายแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ขนนก เมี่ยวอวิ๋นจี”
“จุดประสงค์ของการประชุมในครั้งนี้ก็เรียบง่ายยิ่ง นั่นคือเพื่อให้ได้มาซึ่งสมบัติศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งก็คือเคหาดารา”
“ตามตำนานเล่าขานกันว่า เคหาดาราแห่งนี้คือมรดกของผู้ยิ่งใหญ่ที่บรรลุจุดสูงสุดของมหาเต๋าเมื่อหนึ่งล้านปีก่อน มันไม่เพียงมีมรดกสูงสุดของผู้ยิ่งใหญ่บรรจุเท่านั้น แต่ยังมีสมบัติลึกลับอันล้ำค่าอย่างแผนภาพวารีหลากอีกด้วย”
“เจ้าคงเคยได้ยินเกี่ยวกับแผนภาพวารีหลากเช่นกัน หากได้ใช้งานมันละก็ จะทำให้ทวยเทพและอสูรในยุคบรรพกาลเข้าใจในวิถีสู่การแสวงหาเต๋าของพวกเขา กระทั่งส่งผลให้พวกเขารอดพ้นจากการเฝ้าดูของสวรรค์ คว้าความลึกล้ำของมหาเต๋า และบรรลุไปถึงจุดสูงสุดของเต๋า!”
“ด้วยเหตุนี้ ทุกครั้งที่แผนภาพวารีหลากปรากฏขึ้น มันจึงมักมาพร้อมกับสายฝนโลหิต ทำให้ภพทั้งสามต้องสั่นคลอน! แม้กระทั่งหกวิถีสังสารวัฏก็ยังกระสับกระส่ายเพราะมัน!! ด้วยเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายต่างต่อสู้เพื่อแย่งชิงมัน และเหตุการณ์ที่ดูเหมือนกับวันโลกาวินาศนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับหายนะที่แท้จริงของภพทั้งสาม!!”
เสียงของชายชราทั้งทุ้มต่ำและมีร่องรอยของอารมณ์หวนรำลึก ในขณะที่เขากล่าวอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ทว่าเมื่อเฉินซีได้ยินเรื่องทั้งหมดนี้ มันกลับทำให้เกิดพายุปั่นป่วนขึ้นในใจของเขา พานให้ชายหนุ่มนึกถึงสิ่งต่าง ๆ มากมายในอดีต
เคหาดารา!
‘นั่นมันไม่ใช่เคหาที่อยู่ภายในจี้หยกที่ท่านแม่ทิ้งไว้ให้กับข้าหรอกหรือ?’
‘ภายในนั้น ข้าเห็นตราประทับวิญญาณที่ท่านแม่ของข้าทิ้งไว้เป็นครั้งแรก ได้พบกับผู้อาวุโสจี้อวี๋เป็นครั้งแรก ได้ครอบครองรูปปั้นเทพเจ้าฝูซีเป็นครั้งแรก เริ่มบ่มเพาะทักษะขัดเกลากายาของข้าเป็นครั้งแรก…’
อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นจุดเปลี่ยนในชะตาชีวิตของเขา และนับจากนั้นเป็นต้นมา เฉินซีก็เริ่มเดินบนเส้นทางที่แตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง
อีกทั้งเฉินซีก็คุ้นเคยกับแผนภาพวารีหลากเช่นกัน!
เขาในตอนนี้มีแผนภาพวารีหลากอยู่สี่ชิ้นแล้ว ชิ้นหนึ่งมาจากฐานภูเขากำราบธาตุในเทือกเขาแดนเถื่อนตอนใต้ ชิ้นหนึ่งมาจาก ‘ศิษย์พี่หญิง’ ผู้ลึกลับของเขา และอีกชิ้นหนึ่งมาจากแท่นบูชาภายในดินแดนเต๋าแห่งการต่อสู้ ณ นครหลวงธารสายไหม
ชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากทั้งสามนี้ได้หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวแล้วในตอนนี้ และมันลอยอยู่ในห้วงสำนึกของเขา ในขณะที่ชิ้นที่สี่ที่ได้มาจากภายในด่านแห่งความลึกล้ำของเหวเงาทมิฬ เฉินซีได้เก็บไว้ในเจดีย์บำเพ็ญทุกข์และยังไม่ได้ขัดเกลามัน
และตามการอนุมานของเขา มีเพียงต้องรวบรวมชิ้นส่วนแผนภาพวารีหลากทั้งเก้าชิ้นเท่านั้น จึงจะสร้างแผนภาพวารีหลากที่สมบูรณ์ได้!
“หนึ่งล้านปีก่อน แผนภาพวารีหลากได้หายไปอย่างสมบูรณ์ และถูกกาลเวลาลบเลือนไปจากหน้าประวัติศาสตร์ เหล่าผู้ยิ่งใหญ่จำนวนมากในภพทั้งสามต่างค้นหามันอย่างยากลำบาก และท้ายที่สุด พวกเขาก็ต้องกลับมามือเปล่า กอปรกับหายนะของทวยเทพและอสูรที่อุบัติขึ้นในช่วงเวลานั้น จึงทำให้ทั้งสามภพตกอยู่ในกลียุค และไม่มีใครให้ความสนใจกับแผนภาพวารีหลากอีกต่อไป”
“แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ไม่ทราบได้ เมื่อสามร้อยปีที่แล้ว ประมุขแห่งดินแดนศักดิ์สิทธิ์ขนนกเมี่ยวอวิ๋นจีกลับได้รับข้อมูลบางอย่างมาโดยบังเอิญ ความว่าเคหาดาราได้ปรากฏขึ้นเหนือมหาสมุทรใต้พิภพทางตอนเหนือ และแผนภาพวารีหลากถูกซ่อนอยู่ภายในนั้น ดังนั้นเขาจึงจัดการประชุมครั้งใหญ่และส่งเทียบเชิญให้แก่สหายนักพรตเต๋าทั่วทุกหนทุกแห่ง โดยหมายจะค้นหาและรับโชคลาภก้อนใหญ่นี้ไปด้วยกัน”
“เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับสมบัติล้ำค่าอย่างแผนภาพวารีหลาก …หากข่าวนี้ถูกเปิดเผยออกไป มันย่อมทำให้เกิดความปั่นป่วนในภพทั้งสามอย่างแน่นอน ดังนั้นจึงมีเพียงสามสิบเจ็ดผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครเทียบได้เท่านั้นที่ได้เข้าร่วมการประชุมในเวลานั้น”
“แต่ไม่มีผู้ใดคาดคิดมาก่อนว่า เมื่อมาถึงมหาสมุทรใต้พิภพทางตอนเหนือ พวกเขากลับพบกับชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งแทน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...