บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 751

บทที่ 751 ทุกคนมาถึงแล้ว

บทที่ 751 ทุกคนมาถึงแล้ว

ยอดเขาจรัสตะวันออกถือเป็นยอดเขาอันดับหนึ่งจากบรรดาสี่ยอดเขาที่ศิษย์ชั้นสูงพำนักอาศัยอยู่ ซึ่งไม่เพียงจะมีศิษย์ชั้นสูงอยู่จำนวนหลายพัน แต่ความมั่งคั่งของยอดเขาจรัสตะวันออกก็ยังไม่เป็นสองรองใครอีกด้วย

ยกตัวอย่างเช่น สนามฝึกแห่งนี้ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างกว้างขวาง กินพื้นที่ไปเป็นจำนวนมาก โดยปูพื้นด้วยโลหะวารีสลักลายดอกเบญจมาศ เรียบลื่นดั่งกระจก แข็งแรงเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีบ่อวิญญาณร้อยแปดแห่งล้อมรอบ ซึ่งไม่ใช่ค่ายกล แต่มีไว้เพื่อให้เหล่าลูกศิษย์ใช้ระหว่างบ่มเพาะเท่านั้น ดังนั้นชีวิตของศิษย์ในยอดเขาจรัสตะวันออกจึงหรูหรามากทีเดียว

และในตอนนี้ ศิษย์จากยอดเขาจรัสตะวันออกได้พากันเดินเข้ามาด้วยท่าทางดุดัน ภายใต้การนำของเหลิ่งชิวและผางโจว เป็นดั่งกลุ่มเมฆทมิฬที่ใช้จำนวนคนเข้าข่มเฉินซี ทำให้เกิดเป็นภาพที่ดูน่าตื่นตาไม่ใช่น้อย

พวกเขาได้ข่าวแล้วว่ามีเพียงเฉินซีและหั่วโม่เลยเท่านั้นที่มาสร้างปัญหา ซึ่งหั่วโม่เลยที่เป็นเพียงช่างปรับแต่งอุปกรณ์ย่อมไม่น่ากลัวอะไร มองข้ามไปเลยก็ยังได้ จึงมีแต่เฉินซีเท่านั้นที่พวกเขากังวล

แต่ก็แค่กังวลเล็กน้อยเท่านั้น!

แม้ว่าเฉินซีในตอนนี้จะมีฝีมือแกร่งกล้า ติดอันดับต้น ๆ ของศิษย์ชั้นยอดในยอดเขาจรัสเทวะ ชื่อเสียงดังไกลเหมือนดวงอาทิตย์ยามเที่ยงวัน แต่อย่างไรก็เป็นแค่คนเพียงคนเดียวอยู่ดี!

กลับกันแล้ว ฝั่งพวกเขามีคนหลายพัน และล้วนเป็นศิษย์ชั้นสูงขอบเขตจุติทั้งสิ้น พวกเขาจึงเชื่อว่าหากใช้จำนวนเข้าสู้ ย่อมสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้แน่!

ดังนั้นจึงพากันเดินทางมาด้วยท่าทางดุดัน สองมือถูกันไปมา ส่วนสายตาที่จับจ้องไปทางเฉินซี ก็แฝงด้วยอารมณ์หลากหลายทั้งการท้าทาย ความโกรธ ความเกลียดชัง ความชอบใจ และอารมณ์อื่น ๆ อีกมากมาย

หากเป็นตามปกติ ไม่ว่าศัตรูจะมีฝีมือขนาดไหน จังหวะนี้ก็ต้องเผยความเคร่งขรึมหรือความไม่สบายใจออกมาแล้ว บ้างถึงขนาดกลัวจนต้องหลบหนี ร้องขออ้อนวอน หรือขอยอมแพ้ไปเลยก็มี…

พวกเขาถึงขั้นจินตนาการแล้วว่าหากเฉินซีขอยอมแพ้ไปจะทำอย่างไรดี จะทำให้อีกฝ่ายอับอายก่อนปล่อยตัวไปดีหรือไม่? หรือจะหักขาทิ้ง ให้มันคลานกลับยอดเขาจรัสตะวันตกไปดี?

และแม้จะยังไม่อาจตัดสินใจได้ แต่มันก็ยิ่งทำให้รู้สึกตื่นเต้นยินดี!

ทว่าท่าทางที่ชายหนุ่มตอบสนองกลับมานั้นกลับเกินคาด อีกฝ่ายไม่เพียงไม่เผยท่าทางไม่สบายใจ ทว่ายังไม่แม้แต่จะกลัว อยากหนี หรือคิดอยากยอมแพ้ …แม้แต่สีหน้าก็ยังไม่เปลี่ยนสักนิดด้วยซ้ำไป!

สิ่งที่น่าโกรธมากที่สุดคือ เจ้าตัวยังกล้าเอ่ยคำพูดโอหังและน่าชังที่สุดขึ้นมาในเวลานี้เสียด้วย เขาถามว่ามาหมดทุกคนหรือยัง?

พอได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็ต่างชะงักไป เพราะแทบไม่อยากเชื่อหูตนเอง!

บัดซบ! หรือเจ้าคนผู้นี้เสียสติไปแล้วกัน!?

คนตาบอดยังรู้จักประเมินสถานการณ์ได้เลยกระมังว่าตนเองกำลังเสียเปรียบ? หรือคิดว่าพวกข้าไม่กล้าโจมตีอย่างนั้นหรือ?

สหายร่างผอมที่มีหน้าตาอัปลักษณ์ผู้หนึ่งพลันหัวเราะ ก่อนจะกล่าวว่า “อะไรกันศิษย์พี่เฉินซี ท่านยังกล้าเล่นมุกตลกเช่นนั้นออกมาได้อีกหรือ? คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน?”

เจ้าเตี้ยตาตี่หัวโตอีกคนหัวเราะขึ้นมาเช่นกัน “ไม่คิดเลยว่าศิษย์พี่เฉินซีจะทำให้คนอื่นรู้สึกขำขันได้เก่งกาจเช่นนี้ เอาสิ ท่านลองเล่นตลกให้ทุกคนดูอีกสักรอบเป็นไร?”

ทุกคนพากันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ในตอนนี้พวกเขาดูไม่เหมือนผู้บ่มเพาะแม้แต่น้อย กลับทำตัวเหมือนพวกนักเลงกำลังหยอกล้อหญิงสาวกลางถนนเสียมากกว่า ดูท่าทางกระหยิ่มยิ้มย่องพร้อมจะแผลงฤทธิ์ทุกเมื่อ

ช่วยไม่ได้นี่นะ เฉินซีในตอนนี้มีชื่อเสียงแล้ว ทั้งยังเคยล่วงเกินยอดเขาจรัสตะวันออกอย่างใหญ่หลวงมาก่อน ในเมื่อวันนี้อีกฝ่าย ‘ฉลาดน้อย’ มากพอที่จะพาตัวเองมาส่งถึงที่ มีหรือศิษย์ยอดเขาจรัสตะวันออกจะพลาดโอกาสรังแกครั้งนี้ไปได้?

แน่นอนว่าพวกที่ปากกล้าย่อมเป็นพวกอ่อนแอ ส่วนพวกที่มีพละกำลังมากหน่อยได้ซ่อนตัวอยู่ในฝูงชนอย่างเงียบเชียบ เฝ้าดูสถานการณ์อย่างเยือกเย็น

แม้พวกเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาที่มองเฉินซีก็แปลกไปเช่นกัน พากันคิดว่าชายหนุ่มเอาความมั่นใจมาจากไหน? หรือคิดว่าตนเองผู้เดียวจะสามารถบดขยี้ศิษย์ยอดเขาจรัสตะวันออกได้ทั้งหมด?

ขนาดศิษย์ชั้นยอดอันดับหนึ่งของยอดเขาจรัสเทวะ เสิ่นหลางหยายังไม่กล้าทำเช่นนี้เลย!

ถึงจะต้องถอยไปนับพันก้าวและสามารถจัดการพวกเขาทุกคนได้จริง แต่อีกฝ่ายไม่กลัวจะลากผู้อาวุโสในนิกายออกมาเกี่ยวด้วยหรือไร? ไม่กลัวทำให้ผู้มีอำนาจในตระกูลใหญ่โตไม่พอใจจนต้องยื่นมือเข้ามายุ่งเกี่ยวและลงโทษตัวเขาอย่างนั้นหรือ?

สหายผู้นี้…โง่เขลาเบาปัญหาเกินไปจริง ๆ!

ทุกคนมองสถานการณ์แตกต่างกันออกไป แต่พวกเขาต่างรู้สึกเหมือนกันว่าเฉินซีกำลังรนหาที่ตาย กระทั่งไม่เห็นยอดเขาจรัสตะวันออกและผู้อาวุโสของพวกเขาอยู่ในสายตา!

“ดูท่าทุกคนจะมาถึงแล้ว…” เฉินซีที่ยืนอยู่เพียงลำพังพลันเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย น้ำเสียงไม่สะทกสะท้านสักนิด

ทุกคนระเบิดหัวเราะออกมาอีกครั้ง ดูท่าเฉินซีจะกลัวจนบ้าไปแล้วถึงได้แต่พูดคำเดิมซ้ำ ๆ อยู่แบบนี้

มีเพียงเหลิ่งชิวกับผางโจวเท่านั้นที่หรี่ตาลงทันที

ชั่วพริบตาต่อมา เฉินซีก็หายตัวไปจากจุดที่เคยยืน ก่อนการต่อสู้จะเริ่มขึ้นด้วยเสียงดังสนั่น!

ตู้ม!

อักขระยันต์นับไม่ถ้วนผสานเข้าด้วยกันราวกับมหาสมุทรดวงดาราที่ซัดสาด ดั่งมังกรพุ่งตัวออกจากถ้ำ คนสิบคนถูกซัดกระเด็นไป โลหิตไหลออกทวารทั้งเจ็ด และไม่สามารถทำการต่อสู้ได้อีก!

ใบหน้าพวกเขายังคงมีรอยยิ้มพึงพอใจอยู่ แต่ตัวคนกลับหมดสติไปแล้ว เพราะกระบวนท่าของเฉินซีรวดเร็วนัก ถึงขนาดที่ไม่มีใครตอบสนองได้ทัน!

ครืน!

อักขระยันต์อีกระลอกซัดกระหน่ำลงมาเหมือนดาวตก ดั่งโซ่แห่งมหาเต๋าที่กวัดแกว่งอยู่ในมือเทพอสูร ไม่ว่าจะเดินผ่านไปหนใด ศิษย์ยอดเขาจรัสตะวันออกก็จะถูกซัดกระเด็น ฝนโลหิตโปรยลงมา เสียงกรีดร้องน่าสมเพชดังระงม

เป็นภาพที่โกลาหลยิ่ง!

ตอนนี้พวกศิษย์ยอดเขาจรัสตะวันออกไม่อาจรู้ได้เลยว่าร่างของเฉินซีอยู่ตรงไหนกันแน่!

“เวรเอ๊ย! เจ้านี่กล้าลงมือจริงด้วย ทุกคนโจมตีมันพร้อมกัน บดขยี้มันด้วยกันเถอะ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]