บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇] นิยาย บท 763

บทที่ 763 ช่วงเวลาที่ผันผ่าน

บทที่ 763 ช่วงเวลาที่ผันผ่าน

เพียงพริบตาเดียว เวลาก็ผ่านพ้นไปสามปี

เนื่องจากความต่างของเวลาในโลกแห่งดาราที่ต่างกันราวสิบเท่า นั่นจึงเท่ากับว่า… เฉินซีได้ทำการบ่มเพาะมาร่วมสามสิบปีแล้ว!

ในตอนนี้ เฉินซีซึ่งกำลังนั่งเฉยดั่งต้นไม้โรยราและไม่ไหวติงประหนึ่งหินผา จู่ ๆ ก็มีเสียงแห่งเต๋าดังก้องกังวาน ก่อนจะแผ่กระจายไปทั่วทั้งโลกแห่งดารา!

ทันใดนั้น คล้ายดวงดาวทั้งหลายได้ยินเสียงเรียกหา พวกมันจึงพากันเปล่งแสงเยือกเย็นที่ดูราวกับธารน้ำตกสีเงินไหลอาบรดร่างของเฉินซี

จู่ ๆ ทุกอณูของร่างเฉินซีพลันอาบไล้ไปด้วยแสงสีเงินที่อัดแน่น จุดชีพจรและเส้นลมปราณทุกจุดคล้ายถูกชำระล้าง เพียงครู่เดียว มันก็สะท้อนล้อกับหมู่ดาวที่อยู่เหนือศีรษะห่างออกไปไกลลิบ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าอัศจรรย์เกินพรรณนา

ราวกับในชั่วพริบตานี้ เฉินซีได้กลายเป็นบุตรแห่งผืนฟ้าที่โอบล้อมไปด้วยดวงดาว เป็นผู้นำซึ่งปกครองเอกภพแห่งนี้!

ท่ามกลางรัศมีแสงที่กว้างใหญ่และลึกล้ำ ท่าทางของเขาเผยความสุขุมออกมา ทุกลมหายใจเข้าออกสร้างเสียงคำรามดั่งมังกรที่สั่นสะเทือนไปทั่วทั้งผืนฟ้า ก้องกังวานทั่วฟ้าจรดผืนดิน

เมื่อสังเกตดี ๆ จะเห็นว่ามีรังสีเจิดจรัสหมุนวนรอบกายของเฉินซี พวกมันเหมือนดวงอาทิตย์ที่แผดเผาและปล่อยลำแสงที่งดงามออกมาไม่รู้จบ

รัศมีเหล่านี้เกิดจากแก่นสสารแห่งมหาเต๋า เช่น ทอง พฤกษา วารี อัคคี ปฐพี หยิน หยาง วายุ อัสนี และดวงดาราซึ่งถูกควบคุมผ่านเต๋าแห่งยันต์อักขระ! เนื่องจากมหาเต๋าทั้งสิบประการบรรลุถึงขอบเขตสมบูรณ์ ดังนั้นพวกมันจึงก่อตัวเป็นรัศมีทรงกลมดั่งจันทราเต็มดวง!

ที่อีกด้านหนึ่ง เส้นลมปราณภายในร่างของชายหนุ่มซึ่งจารึกด้วยอักขระยันต์ซับซ้อนอย่างแน่นขนัด ได้ส่งผลให้รัศมีพลังบนกายยิ่งดูลึกลับ ล้ำลึก และกว้างใหญ่ ราวกับทุกอณูเป็นหลุมดำจำนวนมากที่กำลังแผ่รังสีดำทะมึนและกลืนกินทุกสรรพสิ่ง!

ภายในจุดลมปราณ แดนฮุ่นตุ้นที่เขาสร้างขึ้นจากยันต์เทวะทั้งห้ากำลังวนเวียนเป็นวัฏจักรไร้สิ้นสุด กาลเวลาเปลี่ยนผ่านจากกลางวันสู่กลางคืน ทั้งดวงดาว ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์ต่างหมุนเวียนเปลี่ยนสลับตามกาลผัน เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนแล้ว การสั่นไหวของมันยามเปลี่ยนโมงยามนั้นรุนแรงยิ่งกว่า

ใช่แล้ว ในช่วงเวลาสามปีของโลกภายนอก หรือสามสิบปีในโลกแห่งดารานั้น มหาเต๋าแห่งหยิน หยาง และดาราของเฉินซีได้บรรลุขอบเขตสมบูรณ์แล้ว!

นอกจากเต๋ารู้แจ้งแห่งปารมิตา เต๋ารู้แจ้งแห่งการลืมเลือน เต๋ารู้แจ้งแห่งการทำลายล้าง และเต๋ารู้แจ้งนิรันดร์ เต๋ารู้แจ้งอื่น ๆ ที่เขามีในครอบครองในตอนนี้ล้วนแต่บรรลุถึงขอบเขตสมบูรณ์ทั้งสิ้น!

ส่วนเต๋าแห่งกระบี่ เต๋าแห่งยันต์อักขระ และเต๋าแห่งการกลืนกินคือมหาเต๋ากระบวนท่า และไม่ใช่มหาเต๋าที่เป็นแก่นสาร ดังนั้นระดับการบรรลุของมันจึงแตกต่างกับเต๋ารู้แจ้งที่มีความเป็นแก่นแท้โดยสิ้นเชิง

ตัวอย่างเช่น เต๋าแห่งกระบี่ มันถูกแบ่งออกเป็นขั้นพื้นฐาน ขั้นสูง ขั้นเอกภาพ ขั้นสมบูรณ์ ขั้นแนวทางใจหลอมรวมกระบี่ ขั้นสายใยปราณกระบี่ และอื่น ๆ ซึ่งเต๋าแห่งยันต์อักขระและเต๋าแห่งการกลืนกินก็มีลักษณะเดียวกัน

ในเวลาสามสิบปี ความลึกล้ำแห่งมหาเต๋าทั้งสามก็ได้บรรลุถึงขั้นสมบูรณ์!

เมื่อเทียบกับระยะเวลาของโลกภายนอกแล้ว มันย่อมเพียงพอจะทำให้ทุกคนตกตะลึง

ทว่าสำหรับเฉินซีผู้ครอบครองแก่นแท้ของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เงาทมิฬ นี่ยังถือว่าช้าไปด้วยซ้ำ!

สาเหตุก็มาจากมหาเต๋าแห่งดารา เนื่องจากแก่นแท้ของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เงาทมิฬนั้นครอบครองธาตุทั้งห้า ได้แก่ หยิน หยาง วายุ อัสนี และกฎอื่น ๆ อีกมากมาย ทว่ามันหามีสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับกฎแห่งดาราเลย

ด้วยเหตุนี้ เฉินซีจึงเลือกใช้การหยั่งรู้ของตนเพื่อเรียนรู้มหาเต๋าแห่งดาราแทนแก่นแท้ของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เงาทมิฬ ทำให้เขาล่าช้าไปมากถึงยี่สิบปี

สิ่งนี้ทำให้ชายหนุ่มเองก็แปลกใจเช่นกัน เมื่อครั้งที่ยังเยาว์วัย เขาเข้าใจมหาเต๋าแห่งดาราผ่านการฝึกฝนวิชาร่างแปลงดาราสังหารเอกภพ และการสร้างจินตภาพของรูปปั้นเทพเจ้าฝูซี ยิ่งไปกว่านั้น การหลอมรวมจิตวิญญาณของปีกนภาดารกะ ฝ่ามือมหาดารา และก่ออัสนีผสานดารา ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับเต๋ารู้แจ้งแห่งดวงดาว ก็ทำให้เขาบรรลุถึงขอบเขตขั้นสูงได้เมื่อนานมาแล้วเช่นกัน

แต่ชายหนุ่มไม่เคยคิดมาก่อนว่าการบรรลุจากขอบเขตขั้นสูงไปสู่ขอบเขตสมบูรณ์ของมหาเต๋าแห่งดารา …จะเป็นเรื่องยากเย็นเพียงนี้! มันเกินกว่าที่เขาจินตนาการไว้มาก!!

และเฉินซีก็พอจะเข้าใจสาเหตุอยู่บ้าง เพราะมหาเต๋าแห่งดารานับว่าหาได้ยากยิ่ง และมันก็ถือเป็นหนึ่งในมหาเต๋าที่ลึกลับและกว้างใหญ่ที่สุด เหมือนกับคัมภีร์กระบี่หมื่นบรรจบที่แม้จะดูธรรมดา แต่กลับมีเพียงไม่กี่คนบนโลกที่สามารถเชี่ยวชาญมันได้อย่างสมบูรณ์

ในยุคบรรพกาล บรรพบุรุษได้สังเกตดวงดาวบนท้องฟ้าเพื่อค้นหาลิขิตสวรรค์ โชคชะตา โชคลาภ และเภทภัย ดังนั้นหากพูดถึงมหาเต๋าที่ลึกลับและกว้างใหญ่ที่สุดในบรรดามหาเต๋าทั้งสามพันประการ จึงแน่นอนว่าคงมีเพียงมหาเต๋าแห่งดาราที่เป็นเช่นนั้น!

ดังนั้นเขาจึงรู้สึกภูมิใจที่สามารถพามันบรรลุถึงขอบเขตสมบูรณ์ได้ภายในระยะเวลาเพียงยี่สิบกว่าปี

การมีมหาเต๋าสิบประการที่บรรลุถึงขอบเขตสมบูรณ์ ย่อมหมายความว่า ต่อแต่นี้ไป เฉินซีจะมีความแข็งแกร่งในการต่อสู้มากขึ้นถึงสิบเท่า และได้รับการยกย่องให้เป็นยอดฝีมือที่แท้จริงในหมู่ผู้บ่มเพาะด้วยกัน! …ตั้งแต่ยุคบรรพกาลมาจนถึงปัจจุบัน จะมีคนสักกี่คนที่ได้รับการยกย่องเช่นนี้?!

การบรรลุถึงขอบเขตระดับนี้นั้นเพียงพอที่จะกวาดล้างทุกคนที่อยู่ในระดับเดียวกัน และนับได้ว่าอยู่ยงคงกระพัน!

อันที่จริง… เฉินซีโดดเด่นยิ่งกว่านั้นเสียอีก เนื่องจากความแข็งแกร่งที่เขามีเหนือชั้นกว่าผู้บ่มเพาะในระดับเดียวกันมาก แค่ในช่วงแรกที่ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มมาเป็นหกเท่า ชายหนุ่มก็สามารถจัดการเสิ่นหลางหยาที่มีความแข็งแกร่งในการต่อสู้มากถึงห้าเท่า ด้วยการสะบัดแขนเสื้อเพียงครั้งเดียว!

…ในตอนนั้นเสิ่นหลางหยาไม่อาจต้านทานการโจมตีของเฉินซีได้แม้แต่น้อย แล้วจะนับประสาอะไรกับตอนนี้?

อาจกล่าวได้ว่า แม้แต่ยอดบุรุษที่มีความแข็งแกร่งในการต่อสู้ราว ๆ สิบเท่าหรือสิบสองเท่า ก็ไม่คณามือเขาแม้แต่น้อย!

อีกทั้งแดนฮุ้นตุ้นที่สร้างขึ้นจากยันต์เทวะทั้งห้าของเขา และการบ่มเพาะที่แสนหฤโหดก็มีส่วนในการเสริมความแข็งแกร่งอย่างมาก

ฟิ้ว!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]