บทที่ 767 หนอนไหมจักรพรรดิสมบัติ
บทที่ 767 หนอนไหมจักรพรรดิสมบัติ
ภายในหอสยบวิญญาณ มีประตูทองสัมฤทธิ์บานใหญ่ที่มีคราบสนิมเขียวเกรอะกรัง
ในขณะนี้ บรรดาศิษย์มากมายที่ถือยันต์เคลื่อนย้ายมิติอยู่ในมือ ได้ก้าวเข้าไปในประตูนี้และหายวับไปในพริบตา พวกเขาถูกส่งไปยังถ้ำกระบี่วิญญาณโลหิต
“ศิษย์พี่ ท่านพาข้าไปด้วยได้หรือไม่? ข้าต้องรีบเข้าไปในชั้นที่ต่ำกว่าสามสิบสี่เป็นการด่วน โปรดช่วยข้าด้วย”
“ศิษย์พี่หญิง… เฮ้! เฮ้! อย่าเพิกเฉยข้าสิ ข้าแค่ต้องการจับวิญญาณโลหิต ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงสักนิด”
“พี่ใหญ่ นายน้อย ข้าขอร้องล่ะ โปรดพาข้าไปด้วย ข้ารับรองว่าจะไม่สร้างความเดือดให้ อะไรนะ? เจ้าอยากให้ข้าไสหัวไป? ศิษย์พี่ พวกเราเป็นศิษย์ร่วมนิกายเดียวกัน โปรดอย่าได้ใจร้ายกันนัก… ให้ตายเถอะ! อ๊ะ! ยังเหลืออีกคน!”
ที่หน้าประตูทองสัมฤทธิ์ ฟางเริ่นเผชิญกับการถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า เขารู้สึกหงุดหงิดจนแทบกระทืบเท้าด้วยสีหน้าวิตกกังวล เขาเป็นศิษย์สายในที่มีระดับการบ่มเพาะขอบเขตเคหาทองคำเท่านั้น ทว่ากลับมีความชอบที่จะฝึกสัตว์วิญญาณให้เชื่อง และหลงใหลในเต๋าแห่งการปราบพยศเป็นอย่างมาก
ไม่กี่วันก่อน เขาสะดุดตากับไข่แมลงที่ถูกผนึกมาอย่างยาวนาน ก่อนหน้านี้ตัวเขาไม่ได้สนใจมันมากนัก แต่หลังจากที่ตรวจสอบจากคัมภีร์บางเล่มแล้ว เจ้าตัวกลับพบว่ามันคือไข่ของหนอนไหมจักรพรรดิสมบัติ!
หนอนไหมจักรพรรดิสมบัติ เป็นหนอนหาได้ยากในยุคบรรพกาล แม้พลังต่อสู้ของมันจะไม่ค่อยดีนัก แต่มันกลับมีความสามารถในด้านการค้นหาขุมสมบัติ หรือค้นพบสมบัติหายากบางชิ้นที่จิตสัมผัสเทพไม่สามารถสัมผัสได้!
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ หากใครสามารถครอบครองหนอนที่หายากเช่นนี้ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องทำสิ่งใด และยังสามารถค้นหาสมบัติลับต่าง ๆ ทั้งดินแดนเร้นลับ โอสถวิญญาณ แร่ล้ำค่าได้…
ฟางเริ่นรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง และค้นคว้าเกี่ยวกับวิธีการฟักไข่นี้ตลอดทั้งคืน จนกระทั่งความมานะของเขาสัมฤทธิ์ผล ในที่สุดเขาก็ค้นพบวิธีที่จะฟักมัน แต่นี่ก็เป็นที่มาของความกลัดกลุ้มในอกเช่นกัน เพราะโอสถวิญญาณธรรมดาไม่สามารถฟักไข่หนอนหายากนี้ได้ อีกทั้งยังต้องได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยปราณวิญญาณและเลือดในปริมาณมาก
สิ่งนี้ทำให้ฟางเริ่นนึกถึงถ้ำกระบี่วิญญาณโลหิตในทันที
เท่าที่เขาทราบมา วิญญาณโลหิตที่อยู่ภายในถ้ำถือเป็นวัตถุดิบที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการฟักไข่หนอนหายากนี้ แต่เขาก็รู้สึกขัดแย้งในใจ เพราะวิญญาณโลหิตธรรมดานั้นไร้ประโยชน์อย่างยิ่ง และต้องได้รับการหล่อเลี้ยงด้วยวิญญาณโลหิตคุณภาพสูงเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ตามการประเมินของเขา มีแต่ต้องใช้วิญญาณโลหิตจำนวนมากที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับขอบเขตจุติเท่านั้น จึงจะสามารถฟักตัวหนอนไหมจักรพรรดิสมบัติได้
แต่น่าเสียดายที่การไปเก็บเกี่ยววิญญาณโลหิตที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับขอบเขตจุติ ด้วยระดับการบ่มเพาะในปัจจุบันของฟางเริ่น …ไม่ต่างอะไรจากการรนหาที่ตาย!
ดังนั้นเขาจึงมาที่หอสยบวิญญาณทุกวัน โดยหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนและได้รับความช่วยเหลือจากบรรดาศิษย์พี่ทั้งชายหญิง แต่ฟางเริ่นกลับได้รับเพียงการปฏิเสธท่าเดียว
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวังมาก
“หากข้ายังไม่สามารถหาวิญญาณโลหิตมาหล่อเลี้ยงมันได้ พลังชีวิตของไข่นี้ก็อาจจะหายไปตลอดกาล…” ฟางเริ่นพึมพำ คิ้วของเขาขมวดเข้าหากันด้วยความกังวล
ในขณะนั้นเองพลันมีเสียงฝีเท้าแผ่วเบาแว่วมา ทำให้จิตใจของฟางเริ่นตื่นตัว ในขณะที่เขากล่าวอย่างรวดเร็วว่า “ศิษย์พี่ ท่านช่วยพาข้าไปด้วยได้หรือไม่? ข้าจะตอบแทนท่านอย่างเหมาะสมในอนาคตอย่างแน่นอน หากเราสามารถเข้าสู่ชั้นที่ลึกกว่าสามสิบสี่ของถ้ำกระบี่วิญญาณโลหิตได้!”
“ชั้นที่สามสิบสี่หรือ?” ผู้ที่มาถึงมีรูปร่างสูงใหญ่และหน้าตาหล่อเหลา และไม่ใช่ใครที่ไหน คือเฉินซีนั่นเอง! เขาเพิ่งเข้ามาในหอสยบวิญญาณ และกำลังเหลือบมองชายหนุ่มร่างผอมที่อยู่ใกล้ ๆ ด้วยความประหลาดใจปนสงสัยเล็กน้อย ‘เหตุใดคนที่มีระดับการบ่มเพาะขอบเขตเคหาทองคำผู้นี้ ถึงต้องการไปยังชั้นที่สามสิบสี่? หรือว่าเพื่อบ่มเพาะ?’
เมื่อเห็นอีกฝ่ายหยุดฝีเท้า จิตใจของฟางเริ่นก็กระตือรือร้นขึ้นทันที
‘ข้ามีโอกาสแล้ว!’
แม้จะคิดเช่นนี้อยู่ในใจ แต่ฟางเริ่นก็ไม่รีรอที่กล่าวต่อทันทีว่า “ข้าจะให้ค่าตอบแทนเป็นสมบัติวิเศษระดับสวรรค์ มันถือเป็นค่าตอบแทนนี่ไม่น้อยเลยใช่หรือไม่? …ตราบใดที่ศิษย์พี่พาข้าเข้าไป ข้าจะมอบสมบัติวิเศษระดับสวรรค์ให้กับท่านในอนาคตอย่างแน่นอน!”
เฉินซีหันหลังกลับและจากไป มันเป็นเพียงสมบัติวิเศษระดับสวรรค์ จึงไม่แม้แต่จะกระตุ้นความสนใจของเขา ยิ่งไปกว่านั้น การกระทำของคนผู้นี้ที่ตั้งใจจะเอาสมบัติมาแลกกับความช่วยเหลือของเขา ทำให้เขาไม่พอใจมาก
“ศิษย์พี่ ช้าก่อน!” ฟางเริ่นเริ่มวิตกกังวล เขาพุ่งไปข้างหน้า พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่น่าสมเพชว่า “ศิษย์พี่ ข้าต้องรีบเข้าไปที่นั่นจริง ๆ มันถือเป็นเรื่องเร่งด่วนยิ่งนัก! ดังนั้นได้โปรดช่วยข้าด้วยนะขอรับ”
“ลองว่าเหตุผลมา” เฉินซีกล่าวอย่างใจเย็น ทั้งสองเป็นศิษย์ร่วมนิกายเดียวกัน และหายากที่เขาจะออกจากการปิดด่านบ่มเพาะ ดังนั้นจึงไม่มีทางที่ชายหนุ่มจะปฏิเสธ หากมันเป็นสิ่งที่ตัวเขาสามารถช่วยเหลือได้
“ศิษย์พี่ ข้าหลงใหลในเต๋าแห่งการปราบพยศ และข้าได้รับไข่หนอนที่ยอดเยี่ยมมาเมื่อไม่กี่วันก่อน ข้าตั้งใจจะฟักมันออกมา แต่มันต้องหล่อเลี้ยงด้วยวิญญาณโลหิตที่ทรงพลัง…” ฟางเริ่นกล่าวอย่างรวดเร็ว และทุกสิ่งที่เขากล่าวก็เป็นความจริง ทว่าเรื่องหนอนไหมจักรพรรดิสมบัติถูกเก็บไว้เป็นความลับ
“ไข่หนอนนี่คงไม่ธรรมดากระมัง?” เฉินซีดูจะครุ่นคิด หลังจากได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายกล่าว
เท่าที่ชายหนุ่มทราบ ความแข็งแกร่งของวิญญาณโลหิตในชั้นที่สามสิบสี่เทียบได้กับผู้บ่มเพาะขอบเขตจุติ และไข่หนอนนี่ก็ต้องการวิญญาณโลหิตในขอบเขตที่ว่าเพื่อหล่อเลี้ยง ดังนั้นมันย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
แต่เมื่อคำพูดเหล่านี้ลอยเข้าหูของฟางเริ่น มันกลับทำให้หัวใจของอีกฝ่ายกระตุกวูบ ก่อนที่เจ้าตัวจะกล่าวอย่างคลุมเครือว่า “มันคงจะเป็นเช่นนั้น ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ข้าจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อมันฟักออกมาแล้วเท่านั้น นี่ก็เหมือนกับการพนันหินหยก ที่หากยังไม่ขัดเกลา ก็จะไม่มีทางแยกแยะคุณค่าของหยกอยู่ที่อยู่ภายในได้…”
เฉินซีโบกมือขัดจังหวะ “ตกลง ข้าจะพาเจ้าไป”
…
เมื่อก้าวเข้าไปในประตูทองสัมฤทธิ์ ภาพตรงหน้าของพวกเขาพลันเป็นประกายแสงเจิดจ้า และในพริบตาต่อมา คนทั้งคู่ก็ได้มาอยู่ในถ้ำใต้ดินสีเลือดแล้ว
สถานที่แห่งนี้กว้างขวางมาก มันเงียบสงบ และเต็มไปด้วยหินขรุขระรูปร่างแปลกประหลาดซึ่งเปล่งแสงสีแดงสลัว อีกทั้งอากาศชื้นก็เคล้าไปด้วยกลิ่นอายที่น่ากลัวและคาวเลือด
นี่คือชั้นที่หนึ่งของถ้ำกระบี่วิญญาณโลหิต ด้านข้างมีธารน้ำที่ดูเหมือนหินหลอมเหลว ทอดยาวต่อเนื่องไปยังที่ใดก็ไม่อาจทราบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บันทึกเส้นทางจักรพรรดิเซียน [符皇]
ทำไมตอนที่ 1631-1637 อ่านไม่ได้ครับ...
อยากซื้อหนังสือเรื่องนี้จบรึยังมีขายรึยัง ราคาเท่าไหร่...
กำลังสนุกเลยจ้า1407...
1...
รออ่าน1296...
รออ่าน1184จ้า...
ตอนที่1111รออ่านยุ...
ตอน1109รออ่านยุ...
กำลังมันเลยครับ...
กำลังมันเลยครับ...